วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ROซอกหลืบ ตอน โพริ่งสุรเดชชุบแป้งทอด




(ต้นฉบับปี 2548)






โพริ่งสุรเดช เป็นโพริ่งที่ชาวเมืองพรอนเทร่าเชื่อว่า เนื้อของมันสามารถบำรุงพละกำลังได้เป็นอย่างดี  กินแล้วสามารถเก็บเลเวลได้ 3 วัน 3 คืน ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพราะว่าเนื้อของโพริ่งสุรเดชนั้นจะมีสาร “ไฮเปอร์ซันเฟตดร็อกซีเนียมมนัส” ในอัตราส่วนครึ่งควบลูก ซึ่งถือว่าเยอะมาก ถ้าเทียบกับเนื้อของโพริ่งในระดับเดียวกัน


ส่วนเนื้อที่ถือว่าชั้นเลิศที่สุดในร่างกายของโพริ่งสุรเดช ว่ากันว่าเป็นส่วนที่ทรงคุณค่ามากที่สุด เพราะเป็นส่วนมีสาร “ไฮเปอร์โคลอสเซียมอัลติเมทบลูอายส์ไวท์ดราก้อน” มากกว่าส่วนอื่นๆ เดี๋ยว… รู้สึกชื่อสารเปลี่ยนไป  แต่ช่างมันเหอะ ส่วนนั้นก็คือส่วน “ปาก” นั่นเอง


เพราะโพริ่งสุรเดชนั้นเป็นโพริ่งที่ปากดีมาก มีความทะเยอทะยานสูง ความฝันสูงสุดของมันคือต้องการฆ่าไนท์สายวิทเลเวล 99 ด้วยตัวคนเดียว และมันก็เป็นโพริ่งตัวเดียวที่เชื่อว่า เมื่อโพริ่งโตเต็มที่แล้วจะเป็นดาร์คลอร์ท


และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมต้องจับไอ้บ้านี่ชุบแป้งทอดด้วย เพราะมันจะได้เงียบปากลงบ้าง รำคาญเหลือเกิน


พูดไปเดี๋ยวจะหาว่าไก่กาอาราเร่ อาหารจานนี้มีท่านผู้ทรงคุณวุฒิในวงการอาหารได้ให้คำชื่นชมสรรเสิญอย่างมากมาย ซึ่งเป็นเครื่องการันตีได้อย่างดีว่า  อาหารจานนี้สุดยอดแค่ไหน



คุณหมึกดำ : “อืม… อร่อยแทบจะละลายลิ้นเลยนะพ่อ.. พ่อๆ หยิบแม็คเย็บกระดาษให้หน่อย จะเอามาเย็บปากมัน บอกแล้วให้ฆ่าให้ตายก่อนชุบแป้ง เฮ้ย..!! ด่าอยู่นั่นน่ะแหละ รำคาญว้อย!! แต่ก็อร่อยนะ”


อ. ยิ่งแสก : “โหย… อร่อยจริงๆ แม่คุณ นุ่มลิ้นแทบไม่ต้องเคี้ยวเชียะ ใครได้กินนะถือว่ามีบุญมาก ไม่ต้องมาอิจฉาชั้นเลยเธอ มันเป็นอาหารของคนมีฐานะ…”


อ. เฉลิมพล : “อุ๊แหมม!! มันดูมีพลัง!! มีจิตวิญญานแห่งโลกา!! แป้งที่ห่อหุ่มอยู่นั้นเต็มไปด้วยมวลสาร!! โพริ่งที่เนื้อพองเหลืองอร่ามมันช่างมีความเป็นปัจเจคชนในตัวเอง!! มันมีความเป็นเอกเทศ!! เอกพล!! เอกชัย ศรีวิชัย.. ว้อยยย!! “


คุณเอกราด เก่งทุกทิศ : เอาล่ะครับ ตอนนี้นักเตะเริ่มทยอยกันลงสู่สนามกันแล้ว อาร์เซน่อลต้องการ3คะแนนเพื่อไล่ตามจ่าฝูงเชลซี….. เฮ้ย!!


เป็นไงครับ อยากลองชิมลิ้มลองกันรึยัง กับเมนูอาชีวะจิตจานนี้ น้ำลายฟูมปา… เฮ้ย!! ไม่ใช่ น้ำลายไหลกันใหญ่เลยล่ะสิ เอาล่ะ อย่ารอช้า เช็ดน้ำลายแล้วมาเตรียมเครื่องปรุงกันเลยดีกว่า….



เครื่องปรุง “โพริ่งสุรเดชชุบแป้งทอด”

1. โพริ่งสุรเดช 1 ตัว : ก็แหงอยู่แล้ว ชื่อเมนูก็บอกอยู่ชัดเจน จะให้ใช้โพริ่งนภดล หรือโพริ่งกฤษดามันก็ดูจะไม่ใช่ ถึงจะดูคล้ายๆกันก็เหอะ 

อ่ะ แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าตัวไหนเป็น”โพริ่งสุรเดช” ก็หน้าตามันพิมพ์เดียวกันซะขนาดนั้น

หึๆ ไม่ต้องห่วง วิธีการง่ายมาก ก็ให้เกณท์โพริ่งทั้งป่าพรอนเทร่ามายืนเรียนแถวหน้ากระดานเรียง1 จากนั้นก็ถามทีละตัวว่า “การ์ดอะไรมีราคาแพงที่สุดในเกม” ตัวไหนตอบว่าการ์ดโพริ่ง ไอ้ตัวนั้นแหละชื่อสุรเดช…. มีอยู่ตัวเดียวน่ะแหละ



2. ยาสลบชนิดแรง : แรงแค่ไหน… เอาแบบที่ว่าแค่เห็นก็สลบแล้วอ่ะ หรือถ้าไม่มี เอาแบบโปะหน้าก็ได้



3. กล่องเหล็ก 1 ใบ : เอาแบบใหญ่ขนาดที่ยัดไอ้สุรเดชลงไปได้ ปิดฝาแล้วเนื้อไม่ทะลัก



4. แป้ง 100 ห่อ : เอาไว้สำหรับห่อหุ้มปิดผนึกความกร้านโลกของไอ้โพริ่งสุรเดช ในที่นี้จะเป็นแป้งอะไรก็ได้ แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว แป้งเด็กจอร์นสัน แป้งร่างเป็นมดเขียววีสาม น้องแป้ง… ฯลฯ ขอให้เวลาเอาไปทอดแล้วให้มันหุ้มเส้นประสาทไอ้สุรเดชให้ทำอะไรไม่ถนัดก็โอเค



5. จอบ 1 อัน : ถ้าไม่มีอนุญาตให้ใช้เสียมแทนได้

แต่ถ้าไม่มีเสียมก็ให้ใช้ขอบแทน 

ถ้าแต่ไม่มีจอบ ให้ใช้เสียมแทนได้

แต่ถ้าไม่มีเจี๋ยมให้ใช้สอบ ถ้าไม่มีสอบให้ใช้เจี๋ยม… ว้อยย!!




6. บ่อน้ำ 2 บ่อ : ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.5 เมตร ลึก 80 ซ.ม. บ่อแรกตั้งอยู่กลางป่า ทัศนียภาพร่มรื่น รถเมล์ผ่านหลายสาย บ่อที่2อยู่ถัดจากบ่อแรกประมาณ 2 ป้ายรถเมล์



7. ถังน้ำ 2 ถัง : ถังนึงพลาสติก อีกถังนึงแสตนเลส มีหูหิ้วด้วย ไม่มีก็ไม่เป็นไร ไม่มีใครเสียชีวิต



8. ไนท์สายวิท 1 ตัว : เน้นเพศชาย ฐานะดี ไม่ต้องมีการศึกษาก็ได้ Def 80 ขึ้นไป บาลานซ์ดี ขี่ปีโก้ด้วยความมั่นคง



9. วิสาจ 1 ตัว : เพศไหนก็ได้ เชื่อง เล่นเวทย์สายไฟ



10. น้ำมัน 100 ขวด(หรืออาจจะมากกว่านั้น) : ใช้น้ำมันพืชหรือน้ำมันหมูก็ได้ ถ้าไม่มีก็ใช้น้ำมันเบนซิน ถ้าไม่มีอีกก็ใช้น้ำมันมะกอก สรุปคือน้ำมันบ้าอะไรก็ได้ ขอให้มันเป็นน้ำมันก็พอแล้ว



เอาล่ะ..!! อย่ารอช้า เริ่มทำกันเลยดีกว่า

1. ก่อนจะเริ่มทำ ให้เอายาสลบโปะหน้าโพริ่งสุรเดชให้สลบ แล้วก็ยัดมันลงไปในกล่องเหล็ก ถ้าไม่สลบก็จับมันยัดลงไปเลย มันจะโวยวายอะไรก็ช่างมัน ยังไงเราก็ไม่ได้ยินอยู่แล้ว

เอาล่ะ มาเริ่มทำเครื่องกันเลยดีกว่า




2. เริ่มต้นให้เอาแป้ง100ห่อ แกะแล้วเทใส่บ่อน้ำบ่อแรกก่อน ถ้าแกะคนเดียวไม่ไหวให้ไนท์สายวิทกะวิสาจช่วย ถ้าไม่ช่วยให้ขู่ว่าจะแฮกไอดีมัน

เมื่อใส่แป้งลงบ่อทั้งหมดแล้วให้เอาจอบหรือเสียม คนให้เข้ากัน ถ้าคนไม่ถนัด ให้เปลี่ยนเป็นมนุษย์ได้ เพราะคนกับมนุษย์ก็ใกล้เคียงกันน่ะแหละ  อืม…. ตลกจังเลย



3. เมื่อแป้งกับน้ำเข้ากันแล้วให้พักไว้ก่อน ไปที่บ่อน้ำบ่อที่2 กันบ้าง




4. ให้ไนท์กับวิสาจช่วยกันเอาถังน้ำตักน้ำออกจากบ่อให้หมด อาจจะใช้เวลา1ปีแสง แต่ก็ต้องอดทน ระหว่างนี้ก็อย่าอู้ ให้แกะฝาน้ำมัน 100 ขวดรอไว้ ขยันหน่อย…


เอาล่ะ เมื่อไนท์กับวิสาจวิดน้ำออกจากบ่อหมดแล้ว ให้เอาน้ำมันทั้งหมด 100 ขวด เทลงไปในบ่อให้หมด จากนั้นมันก็จะกลายเป็นบ่อน้ำมัน ให้วิสาจร่ายเวทย์ไฟวอลล์ใส่บ่อน้ำมัน รอจนน้ำมันเดือดปุดๆ ก็เป็นอันโอเค 


 แต่ถ้าไม่เดือดปุดๆ เดือดปิ๊ดๆ หรือเดือดปั๊ดๆ ปู่ปี๊ๆๆ ก็พอจะแทนกันได้ ว้อยย มุขบ้าอะไรเนี่ย…!!




5. เอาล่ะ ในที่สุดก็ถึงช่วงสำคัญกันแล้ว… ให้ปล่อยตัวโพริ่งสุรเดชออกมาตรงหน้าบ่อน้ำที่ผสมแป้งเข้มข้นไว้ จากนั้นก็ให้ไนท์สายวิทไปรออยู่ที่บ่อน้ำมันเดือด มันจะเกิดอาการงัวเงียเล็กน้อย 

แต่เมื่อโพริ่งสุรเดชเห็นไนท์สายวิท มันจะเกิดอาการอยากจะฆ่าโดยไม่ดูสารรูปตัวเองทันที วิ่งเข้าใส่เป็นเส้นตรงอย่างไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น 

แบบนี้ก็เข้าทาง… 

ซึ่งระหว่างทางก่อนที่จะถึงตัวไนท์สายวิทนั้น จะมีบ่อแป้งเข้มข้นและบ่อน้ำมันเดือดรออยู่ ไอ้โพริ่งสุรเดชมันก็จะต้องลงบ่อแป้งก่อน ตัวมันก็จะชุบแป้งโดยอัตโนมัติ ต่อจากนั้นมันก็จะลงไปในบ่อน้ำมันเองโดยที่ไม่ต้องให้เราสั่ง


“เคี๊ยกกกกสสส”


เรียบร้อย…. ทิ้งไว้ 5นาที สีมันจะเหลืองอร่าม น่ากิน




6. ให้ไนท์เอาหอกจิ้มร่างของโพริ่งสุรเดชขึ้นมาจากบ่อน้ำมันเดือด จากนั้นเอาใส่จานที่ตกแต่งด้วยเจโลปี้หั่นเป็นแว่นๆ ตักน้ำมันในบ่อราดบนตัวเล็กน้อย เสริฟพร้อมน้ำแอปเปิ้ลที่ทำจากเมืองพาย่อน




7. รีบกิน… เพราะโพริ่งสุรเดชมันยังไม่ตาย ไอ้นี่เป็นโพริ่งที่อึดมาก เดี๋ยวมันฟื้นขึ้นมามันก็ด่าเราหนวกหู น่ารำคาญ มนต์ของแป้งกรอบสามารถผนึกมันไว้แค่ชั่วคราวเท่านั้น




8. แต่ถ้าไม่อยากกิน หรือเห็นหน้ามันแล้วกินไม่ลง ก็ถีบมันลงไปในบ่อน้ำมันตามเดิม….


วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เกรียนกรึ่มกรึ่ม ตอน ตำนานวินนิ่ง


(ต้นฉบับปี 2557  ช่วงฟุตบอลโลก 2014)

 



ตำนานวินนิ่งแห่งสยามประเทศโลกที่ 3


บ่องตงว่าเก็บตอนนี้ไว้เขียนช่วงบอลโลกเท่านั้นเลย....   มันก็น่าจะเข้ากระแสนะ


ระดับตำนานเกมฟุตบอลแห่งชาติทั้งที จะมาจู่ๆ เขียนไก่กา  อาราเร่กั๊ตจังไม่ได้  ต้องโหนกระแสซะหน่อย   เพื่อเพิ่มความน่าอ่าน (รึเปล่าวะ) 


จะว่าไปช่วงพีคของเกมนี้ก็น่าจะเลยมาประมาณ 10 ปีได้ ถึงตอนนี้แม้ว่าจากพลังแห่งเครื่องเกมเรียงเป็นตับในร้านป้า และเสียงโหวกเหวกโวยวายที่ดังลั่นยิ่งกว่าคอนเสิร์ตบอดี้แสลม   ปัจจุบันนี้จะเหลือแค่นั่งเล่นเกมเงียบๆ อยู่หน้าห้องส้วมห้างโลตัสก็ตาม


ผมกำลังพูดถึงตำนานเกมฟุตบอล ที่มากกว่าฟุตบอล “วินนิ่ง”


เรียกว่าวินนิ่งเฉยๆ  แต่ชื่อเต็มมันสวยงามกว่านั้นครับ วินนิ่ง แอนด์ เดอะพู ทุ้ยยย  ไม่ใช่ 


“วินนิ่ง อีเลฟเว่น” หรือ “โปรอีโวลูชั่น ซอกเกอร์”   แต่เราจะเรียกย่อว่าวินนิ่ง  ยาวกว่านั้นไม่ได้เดี๋ยวบ้านไฟไหม้   ความอลังการของเกมนี้ขออย่าได้บอก  สาธุ...... คนมีของอย่าลองดี สตรีเว่นเจอร์ราดอย่าร้องทัก ขุ่นพระ ขนาดยังไม่ได้เอ่ยขนยังลุก ถ้าเอ่ยจบขี้คงแตกแน่ๆ


ช่วงนั้นแม้จะเป็นช่วงเกมออนไลน์ครองเมือง แต่วินนิ่งก็ตีคู่ขึ้นมาเทียบรัศมีได้อย่างสวยงาม เรียกว่าใครเบื่อเก็บเลเวล เราก็เปลี่ยนมาเล่นบอลกัน ใครเบื่อเล่นบอล เราก็ไปเก็บเลเวล....... 


มันช่างเกื้อหนุนกันอย่างสวยงาม เรียกว่าเป็นวงจรเสียผู้เสียคนอย่างสมบูรณ์แบบ   ก็ไม่ต้องเรียนกันแล้วล่ะแม่งเอ้ย   อุปสรรคการศึกษาจริงๆ


ไม่ต้องไปรีเซิร์ทที่ไหนไกล ในซอยบ้านผมนี่ก็ปาเข้าไปสิบกว่าร้าน บางร้านไม่ได้เปิดร้านเกมเป็นหลัก  แต่เอาเครื่องเกมไปติดเฮชแทคซะยังงั้น


ที่ไปเจอมากับตัวนี่ไม่รู้ว่ามันไปด้วยกันได้ยังไง เช่น ขายตู้ปลากับวินนิ่ง  ขายปุ๋ยกับวินนิ่ง  ขายผลไม้กับวินนิ่ง  ขายก๋วยเตี๋ยวเรือกับวินนิ่ง ขายหมูหยอง หมูแผ่น..... และอีกอะไรสารพัดบรรยายไม่หมดอ่ะ


เอาที่จำความได้นี่ก็ตกใจยังกะเห็นผี   ตอนเดินเข้าร้านตู้ปลา หน้าร้านเป็นตู้ปลา  เปิดเข้ามาวินนิ่ง!!   มาไงวะเนี่ย!!!   ร้านขายหมูแผ่น หน้าร้านอาม่านั่งพลิกหมูหน้าเตา เหลือบมองเข้าไปในร้าน เด็กเล่นวินนิ่งอยู่ 2 เครื่อง!!!


บางร้านก็ครบวงจร เอาดีมันทั้ง 2 ด้าน มีทั้งเกมคอมและเกมเพลย์ ซึ่งเอาจริงๆ จะเรียกว่าเกมเพลย์มันกระดากปาก เพราะมีวินนิ่งอยู่แผ่นเดียว คาเครื่องอยู่ยังงั้นอ่ะ


ป้าแกบอกห้ามแตะต้องแผ่น!!! ห้ามดึงออก เพราะพระมาเจิมแล้ว ดึงออกใส่กลับไปจะเล่นไม่ได้   ถึงเล่นได้ก็ต้องมีเคราะห์  จำได้ไม่ลืม ผมจะดึงแผ่นมาเช็คดูป้าแกดุยังกะจะไปพังเครื่องเค้า  ถ้าอีโต้อยู่ใกล้ๆ คงฟันมือขาดไปแล้ว


บางร้านมีแอบให้ความหวัง เห็นเป็นอัลบั้มรวมแผ่นหนามาเลย เปิดดูเจอแต่วินนิ่งอิดิททั้งเล่ม!!!  ครบสัส  ตั้งแต่อิดิทมาก  อิดิทน้อย ภาษาไทย  พากย์ไทย   โอ..... แทบจะเอาแผ่นซีดีมาเชือดคอตายตรงนั้นเลย  ให้กูเล่นเกมอื่นบ้าง


มันเป็นอะไรที่ระบาดมาก แล้วเอกลักษณ์วินนิ่งฉบับไทยแท้นะครับ 
พวกเราต้องเล่นอีดิท!!! 


พลังออริจินอลพวกเราไม่เคยแตะ จริงๆ พลังที่บริษัทโคนามิให้มาไม่พอยาไส้  พี่ไทยเป็นพวกหิวโหยค่าพลัง  บางคนก็ว่าเค้าทำมาไม่สมจริง พี่ไทยก็เอาไปอีดิทซะ เอาซะเกินจริง เรื่องความพอดีพวกเราไม่รู้จักอยู่แล้ว ทุกหลอดแดงเรื่อมาเลย วิ่งได้ถึงอาทิตย์หน้า  ตกลงนักบอลหรือกัปตันอเมริกาวะเนี่ย


ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณไทยอิดิท  ถือเป็นบุญตามากครับ ที่ครั้งนึงพวกเขาได้ทำให้ผมได้เห็นเดวิด เบคแฮ่ม พลังวิ่งยังกะติดไนโตร  ควบมายิงตาข่ายแทบขาด ยังกะกินเอ็มร้อยมาลิตรนึงก่อนลงสนาม


หรือคริสเตียโน่ โรนัลโด้ที่แย่งบอลได้เก่งยิ่งกว่ากองหลัง


เวย์น รูนี่ย์ร่างเหล็กไหล ดึง เบียด กระชากให้ตายก็ไม่ล้ม


คนดูบอลอย่างผมเห็นแล้วปวดตับไตไส้พุงมาก ส่วนเด็กที่เน้นบ้าพลังก็นั่งเฮฮาห้าห้าห้าบวกกันไป


การเล่นวินนิ่งไม่จำเป็นต้องมีน้ำใจนักกีฬาครับ ไม่ต้องมาเล่นแบบเรียบร้อย ผมคือสุภาพบุรุษนักกีฬานะครับ ไม่ต้องครับ ไม่ต้องมาเอาหล่อ จะเล่นให้ใครชื่นชม หญิงเหรอ บ้าแล้ว วินนิ่งไม่มีหญิงมุง!!! ไม่มีหรอกครับ ไม่มีหรอกหญิงมายินดูผู้ชายเล่นวินนิ่งด้วยความชื่นชมปานจะแหกตูดดมเนี่ย


“อุ้ยเธอๆ ดูนั่นสิ จอย 2 เทคนิคสุดยอดเลย เลี้ยงวนไปวนมา 5 นาทีแล้วนะนั่นน่ะ”


“จอย 1 นี่เค้ากล้าหาญจัง ยิงกลางสนามด้วย เสียดายเกือบเข้าแล้วน่ะเธอ....”


“ลูกผู้ชาย สุภาพบุรุษนักกีฬาเกมเพลย์ ชั้นอยากเป็นแฟนเขาจุงเบย”


จะบ้าเหรอ มันไม่มีหรอก!!! ถ้าจะมีหญิงมานั่งดูสักคนนี่  ไม่แฟนก็เมียของคนเล่นอ่ะ  มานั่งหน้าเบื่อๆ ว่าเมื่อไหร่มึงจะเลิกซะที จะได้ไปกินส้มตำ   กดโทรศัพท์   บางคนหลับโชว์เลย   อารมณ์ร่วมเป็นศูนย์ ในขณะที่ผู้ชายเต็มร้อยแม่งให้พัน ต่างกันคนละขั้วโลกเลยทีเดียว


พีไทยเล่นวินนิ่งสไตล์พูดมากครับ   ผมไปยืนดูมาไม่รู้กี่ร้านแล้ว หาที่เก่งจริงๆ ไม่มีหรอก  วิ่งควบอย่างเดียว แผนการเล่นไม่ต้องไปสน สนอย่างเดียวนักเตะลูกศรแดงรึเปล่าก็พอ ที่เห็นเข้าไปปรับแผนนี่ ไม่เกี่ยวกับแผนการเล่นครับ


แค่เปลี่ยนตัว!!!


ไอ้นี่แม่งช้า..... เอาออก อ่ะ ไอ้นี่วิ่งเร็วกว่า เอาเข้ามาแทน ถึงว่าสิ ตอนที่ข่าวยูเซน โบล์ท จะไปเล่นฟุตบอลอาชีพ  พวกเราถึงดี๊ด๊ากันนัก เราจะได้วิ่งกู้ชาติกันอีกแล้ว


โมเมนท์ที่ผมจำได้เกี่ยวกับการเล่นวินนิ่งนะครับ ยอมรับเถอะครับว่า พวกเราไม่ได้เข้ามาเสพความสนุกของเกมฟุตบอล เราไม่ได้เข้ามาเพื่อเล่นเกม


เราเข้ามาเล่นเพื่อนนี่แหละ!!! เราเข้ามาเพื่อที่จะเดินออกไปอย่างผู้ชนะ!!! นี่แหละคือนิยามของวินนิ่ง


เพราะงั้นเป้าหมายเดียวของคนเล่นก็คือ ห้ามแพ้!!! จะทำยังไงก็ได้แต่ห้ามแพ้!! ถึงแพ้ก็ห้ามยอมรับ!! และนี่แหละคือที่มาของประโยคคลาสสสสสส สิค!! เหล่านี้


จอยกูไม่ดี.....


แสงมันเข้าทางจอกู มองไม่ค่อยเห็น......

เมื่อคืนกูไม่ค่อยได้นอน เบลอมาก.....

นักเตะมึงเป็นบัคเปล่าวะ เบียดไม่ล้ม.......

เมื่อกี้กูไม่ได้กดเสียบนะ ปุ่มเสียแน่ๆ........


จริงๆ ยังมีอีกเยอะ ยังไม่รวมพวกมุกแกล้งติดธุระ มือถือเข้า ปวดท้อง.... สารพัดจะอ้าง ทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่ากูมันอ่อน!!!


เรายอมรับเองไม่เท่าไหร่  แต่ถ้าต้องให้ไอ้เพื่อนมาเรียกว่าเราไอ้อ่อน ไอ้กาก โอ้โห..... ให้ก้มหน้ารับมันไม่ได้!!! โคตรเสียเชิง มันต้องมีอะไรไปเบรกมันบ้าง เอาสิ มึงไม่ได้ภูมิใจกับชัยชนะหรอก กูจะอ้างทุกครั้งที่มึงล้อกูนี่แหละ


จะว่าไปคนไทยเล่นวินนิ่งตามกระแสนะครับ ทีมไหนเด่น ทีมไหนดัง ก็ต้องลองเอามาเล่นกันหน่อย นักเตะคนไหนเป็นที่สนใจ อ่ะ ไหนลองเอามันมาบังคับดูหน่อยซิ ว่ามันเก่งจริงมั้ย ช่วงนี้ก็ฟุตบอลโลกนะครับ แน่นอนทีมสโมสรก็ตกกระป๋องกันไป


ล่าสุดไปขี้ที่โลตัส เหลือบดูหน้าห้องน้ำ ก็มีคนเล่นแต่ทีมชาติ อืม.... แต่วิธีเล่นพวกมึงก็ยังควบหาประตูเหมือนเดิม

ถึงกระแสจะตก แต่ความคลาสสิคในใจก็ยังคงอยู่ 8 ปีแล้วนะครับที่ผมไม่มีเพื่อนมาพูดประโยคนี้ทางโทรศัพท์

“เฮ้ย วินนิ่งมั้ยสาดดดด”

อ่อ ท้ากูเหรอ ได้เลยมึง  เดี๋ยวเจอโรนัลโด้แน่!!!!



วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ROซอกหลืบ ตอน คุณปันยามาเต็ม








2 หน้ากระดาษเต็มๆ นี้ ขอมอบให้กับ คุณปันยา!!! ยา ยา ยาาาา…..



Q สวัสดีค่ะพี่ปันยา หนูชื่อดาหวัน ที่เขียนจดหมายมาวันนี้มีอะไรอยากจะถามพี่ปันยาล่ะคะ

A ยินดีเลยครับน้อง จะถามอะไรเหรอครับ

Q Stun (สตัน) มันคืออะไรเหรอคะ

A อ๋อ.. มันก็คือสกิลที่ทำให้เกิดอาการมึนไงครับน้อง เวลาโดนก็จะมีดาวขึ้นบนหัว กดใช้สกิลหรือใช้ของตอนนั้นก็ไม่ได้ เป็นสกิลอันตรายทีเดียวเลยล่ะครับ

Q เข้าใจแล้วค่ะพี่ เอ่อ… แล้ว สตันท์แมนล่ะคะ

A สตันท์แมนก็คือ ผู้ชาย..

Q อ๊ะๆ พี่ปันยาๆ อย่าตอบว่าผู้ชายติดสกิลมึนเชียวนะคะ

A อ้าว… เฮ้ย ดักกันซะงั้นอ่ะ

Q คนอ่านเค้าเดาได้กันทั้งประเทศล่ะคะ พี่ตอบอย่างอื่นเถอะ

A สตันท์แมนก็คือ ตัวแสดงที่รับบทเสี่ยงตาย…

Q อ๊า… ทำไมตอบมีสาระยังงั้นล่ะคะ ไม่เอาๆ ค่ะพี่ ตอบฮาๆ สิคะ เสียชื่อปันยาหมดเลย

A เฮ้ย!! แล้วจะให้ชั้นทำไงล่ะเว้ย!! ก็แกดักมุขกันซะขนาดนั้นอ่ะ

Q ง่า… ไม่เอาแล้ว รู้ว่าแป๊กยังงี้หนูไม่เขียนมาดีกว่า บายค่ะพี่ปันยา แป๊กแบบนี้มีแววจะตกงานแล้วนะคะเนี่ย

A ว้อยย!! มันแป๊กเพราะแกน่ะแหละ!! ไอ้เด็กบ้า!!

                                                                           ดาหวัน หลันลา






Q สวัสดีครับพี่ปันยา ผมชื่อสมหมาย พี่ปันยาเห็นโฆษณา RO อโยธยา ที่ออกฉายทางทีวีรึยังครับ

A อ๋อ..!! เห็นแล้วน้อง อย่างฮาเลย พี่ชอบตอนที่พวกพระเอกมันเรียกหุ่นประกอบร่างออกมาแล้วขาหายไปข้างนึงอ่ะ เจ๋งดี สุดยอด

Q แต่ผมว่าตอนที่เบคแฮ่มเล่นกระดานโต้คลื่นเจ๋งกว่าอีกนะครับ

A เพลงประกอบก็ไม่เลวนะ น้าแอ๊ดคาราบาวร้องเพราะมากเลย

Q แต่ก็ต้องชมพี่เต๋ากับพี่ออฟด้วยนะ เท่ทั้งสองคนเลย

A แต่นางเอก 2 คนก็เล่นดีนะ ตอนที่แย่งกันกินบะหมี่อ่ะ น่ารักทั้งคู่

Q โห.. แต่กราฟฟิคยังไงก็ต้องยกนิ้วให้เลยนะพี่ หิมะตกทำได้ยังไงอ่ะ

A หิมะไม่เท่าไหร่ ฉากภูเขาไฟระเบิดสุดยอดกว่านี้อีก

Q เออ… ใช่ๆ พี่ แล้วหนุมานก็บินพึ่บๆ ออกมาจากปล่องภูเขาไฟ

A น้องลืมอุลตร้าแมนไปได้ยังไง

Q อุลตร้าแมนมันบินผ่านแว๊บๆ ไม่ใช่เหรอพี่

A แล้วรถไฟฟ้าล่ะ

Q เวอร์ชั่นหลังเค้าตัดทิ้งไปแล้วพี่…!!

A เออใช่ ลืมไป

Q โดยรวมถือว่าเป็นงานโฆษณาที่ดีชิ้นนึงเลยนะครับ

A ใช่เลยน้อง สุดยอด พี่ดูครั้งแรกประทับใจมาก ซาบซึ้งน้ำตาร่วงเลย สมศักดิ์ศรีเกมแรคนาร็อคจริงๆ

Q ผมรักอโยธยาครับ

A เช่นกันครับ…

                                                            สมหมาย ปายแชกานเหอะ






Q สวัสดีครับคุณปันยา นี่ก็เป็นฉบับแรกนะครับที่ผมเขียนมาหา ผมชื่ออนิรุท ผมติดตามอ่านคอลัมน์คุณทุกๆ สัปดาห์เลยรู้มั้ยครับ

A โอ้.. พี่ต้องขอบคุณมากเลยนะครับน้อง ท่าทางคอลัมน์ของพี่คงสนุกมากเลยใช่มั้ยครับเนี่ย

Q เดี๋ยว… ใครน้องแก!! คุณอายุเท่าไหร่ ผมอายุห้าสิบนะ!!

A หา!! อ.. เอ่อ โทษคับ ว่าแต่.. พี่อายุปูนนี้แล้ว คงไม่น่ามีปัญหาเรื่องแรคมาถามผมหรอกนะครับ

Q หึ.. ปัญหาเรื่องแรคงั้นเหรอ ไม่มีหรอก มีแต่ปัญหาที่เกี่ยวกับคอลัมน์คุณน่ะแหละ คุณรู้มั้ยผมเป็นใคร!!

A อ้าว… ความจำเสื่อมเหรอครับ มาถามผมแล้วผมจะรู้มั้ยล่ะ ตัวพี่เองยังไม่รู้เลยอ่ะว่าตัวเองเป็นใคร บ้าป่ะเนี่ย

Q ผมเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียน "ฉลาดล้ำเลิศวิทยาลัย" นะ!! คุณรู้จักมั้ย!! โรงเรียนที่มีค่าเฉลี่ยไอคิวสูงที่สุดในประเทศ เด็กที่จบจากที่นี่ ทุกคนเกรดเฉลี่ย 4.00 ทุกคน ไม่มีเด็กคนไหนที่เอ็นทรานซ์ไม่ติด!! จบปริญญามาได้เกรียตินิยมทุกคน!! และทุกคนที่เรียนที่นี่ล้วนแต่มีอนาคตที่สดใส!! ห่างไกลยาเสพย์ติด!! จิตใจใฝ่คุณธรรม!!

A โห… สรรพคุณโรงเรียน เอ่อ.. ไม่ทราบที่โรงเรียนนี้ เค้าบังคับให้เด็กกินหนังสือเรียนแทนข้าวรึเปล่าครับเนี่ย

Q แต่แล้ว… ประวัติศาสตร์ที่แสนเกรียงไกรของโรงเรียนผม ก็ต้องมีอันสั่นคลอน เมื่อ… เมื่อ!! ปะหล่ำปะล้าม ป่ำป้ามมม…. ทะละแลด ทะละแล่นนน…!!

A ทำไมอาจารย์ต้องปล่อยซาวน์ตื่นเต้นขนาดนั้นด้วยล่ะครับ ก็อตซิลล่าบุกเหรอ!!

Q ใช่!! ก็อตซิลล่าตัวมหึมา ส่วนสูงขนาดเท่าตึก 15 ชั้น มันมาฆ่าเด็กนักเรียนของผม ว้อยย!!! ไม่ใช่!! เฮ้ย!! คุณปันยา!! อย่ารบกวนตอนปล่อยซาวน์สิ ผมเสียสมาธิเลยเห็นมั้ย!!

A อ.. อ้าว… จะให้ตลกซะหน่อย กลายเป็นตูผิดอีก อะไรวะ

Q ประวัติศาสตร์ที่แสนเกรียงไกรของโรงเรียนผม!! ก็ต้องมีอันสั่นคลอน เกรดเฉลี่ยของนักเรียนในโรงเรียน 80% ต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด!! ร้อยวันพันปีไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!! ทำให้คณะครูอาจารย์ต้องเร่งตรวจสอบสาเหตุโดยด่วน!! และสาเหตุที่ทำให้เด็กของผมเป็นอย่างนี้ก็คือ… ก็คือ…!!!

A ก็อตซิลล… เอ่อ ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวมันรับมุขแล้วก็มาด่าเราอีก - - แล้วตกลงสาเหตุมันคืออะไรเหรอครับอาจารย์!!



Q สาเหตุก็คือ…. เด็กเหล่านั้นอ่านคอลัมน์ “คุณปันยา” ทุกสัปดาห์!!

A เฮ้ย!!



Q ตกใจอะไร!! คุณต้องรับผิดชอบ!!

A ปะ.. เป็นไปไม่ได้ ก็.. คอลัมน์ผมออกจะมีสาระแน่นเปรี๊ยะ เด็กอ่านแล้วรอยหยักในสมองเพิ่มขึ้นทุกคนนี่…!!

Q แต่คุณต้องรับผิดชอบ!!

A ไม่!! คอลัมน์ผมไม่เคยกินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ตักบาตรทุกเช้า แถมยังจูงคนแก่ข้ามถนนด้วย ผมไม่เชื่อ!! โนว!! เอฟรี่บอดี้ ดูยูวอนท์แฮฟโนวบุค กู๊ดมอร์นิ่งทิชเชอร์ แอมฟรายแต๊งค์กริ้วแอนด์ยู้วววว..!!!

Q หึ… ทีแรกผมก็ไม่เชื่อหรอกคุณ สงสัยเหมือนกันแหละว่าคอลัมน์อะไรมันจะละลายไอคิวคนได้ขนาดนั้น ก็เลยไปลองซื้ออ่านดูบ้าง พอได้อ่านเท่านั้นแหละ โอ้!! ผมแทบไม่เชื่อ อะไรมันจะไร้สาระขนาดนั้น ทุกตัวอักษรแทบไม่ปรากฏร่องรอยการใช้สมองเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ได้เรื่อง ทุเรศ!! เศษขยะ!! ปร๊ะเทร่งปร๊ะ!! อุ๊มบ่ะกะ!!

A โห… จารย์ ด่ากันขนาดนี้ พรุ่งนี้นัดชกหน้ากันเลยมั้ย

Q รู้ไว้เถอะคุณปันยา… คุณเป็นคนที่ทำลายอนาคตของชาติ!!!

A เฮ้ยยย..!!! ไหงงั้นล่ะ แล้วคอลัมน์อื่นล่ะครับ เค้าก็ไร้สาระเหมือนกันนะ ทำไมโดนผมคนเดียวล่ะเนี่ย

Q ไหนๆ คอลัมน์ไหนไร้สาระ

A Trading Tips ของ MW ERTAI

Q ไม่ไร้สาระ!! คอลัมน์นี้ให้ประโยชน์เกี่ยวกับการค้าขาย สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้!!

A RO School…!!

Q สอนคำนวนค่าพลังโจมตี!! ได้ความรู้เกี่ยวกับคณิตศาสตร์!!

A Shopping กับเจ๊บุ๊ง!!

Q สอนการเปรียบเทียบ!!

A การ์ตูนหน้าเดียวของ Soldevi Sage

Q ตลก!! คลายเครียดได้!!

A การ์ตูนของ Groove ล่ะ!!

Q อันนี้ไร้สาระ แต่ให้อภัยได้ เพราะผมชอบแมรี่!!

A เฮ้ย..!! นี่มันส่วนตัวนี่หว่า

Q ทำไม!! มีปัญหาเหรอ…!!

A ปะ.. เปล่างับ เอ่อ.. แล้วคอลัมน์ RO ซอกหลืบ ล่ะครับ

Q หา… คอลัมน์อะไรนะ ชื่อพิลึก อ่านตั้งหลายสัปดาห์ไม่เคยเห็น

A โห… ถึงขนาดไม่อยู่ในสายตาเลยเหรอวะ

Q มันอยู่หน้าไหนเหรอคุณปันยา…

A ก็หน้าที่คุยกันอยู่นี่ไงเล่า!! ไอ้แก่เอ้ย!!

Q อ๋อ… เออ จริงด้วย กำลังด่าอยู่นี่หว่า

A อาจารย์โวยวายมาตั้งหลายบรรทัดแล้วนะครับ แล้วตกลงจะให้ผมทำยังไง ให้เลิกเขียนเหรอครับ

Q เลิกเขียนเหรอ… เออๆ ก็ดี ฆ่าตัวตายได้ยิ่งดีเลย

A เฮ้ย..!!

Q แหม… พูดเล่น ไม่ต้องถึงกับเลิกหรอก แค่เพิ่มสาระเข้าไปทุกบรรทัดก็พอแล้ว

A เพิ่มสาระ.? เพิ่มยังไงเหรอครับจารย์

Q ก็เช่นสอนคำนวณสมการกำลังสอง แอบอธิบายเรื่องพาราโบลา วิธีเขียนกราฟแสดงพาราโบลา พหุนาม ฮิสโทแกรม สูตรคำนวณพื้นที่ผิวและปริมาตรรูปทรงพีระมิด ทรงกลม ทรงกระบอก ทรงเกือบกระบอก อะไรยังงี้…!!

A โหย!! เพิ่มซะขนาดนี้ อ่านหนังสือเรียนดีกว่ามั้ย….!!!

Q ก็นั่นแหละ เป็นหนังสือเรียนได้ยิ่งดี!! เด็กอ่านจะได้ฉลาดๆ

A แต่ชื่อหนังสือมัน RO CLUB นะครับ!!

Q โอ๊ย.. ก็แค่เฉพาะคอลัมน์ของคุณ หน้าอื่นก็ยังเกี่ยวกับแรคเหมือนเดิม

A เอ่อ… คือ ผมเข้าใจนะครับว่าอาจารย์เป็นห่วงเด็ก แต่ว่าถึงขนาดนี้มันไม่เกินไปหน่อยเหรอครับ

Q นี่!! ไม่เกินหรอกคุณ… จริงๆ หนังสือที่สนับสนุนการเล่นเกมแบบนี้ไม่ควรมีออกมาด้วยซ้ำนะ รู้เปล่า!! มันต้องสนับสนุนให้เด็กรักการเรียน เรียน!! เรียน!! และก็เรียน!! เด็กมันถึงจะมีอนาคต!!

A เอ่อ… โทษนะครับ ว่าจะถามตั้งนานแล้ว นักเรียนที่อ่านคอลัมน์ผมแล้ว “เกรดเฉลี่ยต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด” เนี่ย มันเหลือเท่าไหร่เหรอครับ

Q ก็ จาก 4.00 เหลือ 3.80 ..!!

A ถุย… ไอ้แก่ อุตส่าห์ลงทุนเขียนมาโวยวาย…

Q คุณต้องรับผิดชอบ!!

A ไม่ว้อย!! นี่อาจารย์!! ผมจะบอกอะไรให้นะ ไอ้การที่ให้เด็กเอาแต่เรียน ทำเกรดเฉลี่ยสูงๆ น่ะ บางทีเด็กมันก็ไม่ได้มีความสุขนักหรอกนะ 

คิดเหรอว่าถ้ายัดสาระให้เด็กมากๆ แล้วเขาจะโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพได้ ชีวิตคนมันต้องมีไร้สาระกันบ้าง ความไร้สาระมันคือการพักผ่อนทางสมอง รู้มั้ย!! เกรดเฉลี่ยมันก็แค่ตัวเลข มันวัดคุณภาพคนไม่ได้ทั้งหมดหรอกครับ คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่เกรดเฉลี่ยไม่ถึง 3 มีเป็นหมื่นเป็นล้าน

อาจารย์ดูพฤติกรรมเด็กดีกว่ามั้ยครับ!! แทนที่จะมาดูตัวเลขในสมุดพก จะว่าไปนะ ที่ไร้สาระที่สุดน่ะ ไม่ใช่คอลัมน์ผมหรอก เป็นตัวอาจารย์เองมากกว่า!!



Q หะ.. หา

A แล้วอีกอย่างนะ ไอ้เกรด 3.80 เนี่ย แถวบ้านผมเรียกเรียนเก่งเลยล่ะครับ จริงๆ มันไม่มีอะไรให้อาจารย์เป็นห่วงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แค่นี้นะครับ จดหมายของอาจารย์กินพื้นที่หน้ากระดาษไปเยอะแล้ว เด็กๆ คนอื่นที่เขียนมาก็ไม่ต้องตอบกันพอดี

สวัสดีและลาก่อนนะครับอาจารย์ ผมหวังว่าคงไม่เจอจดหมายของอาจารย์อีกนะครับ



                                                                    อ. อนิรุท สุดรอยหยัก

วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ROซอกหลืบ ตอน วิธีจัดการพวกชอบแจม

 



 


ถ้าถามคนสักประมาณ 100 คนที่เล่นแรค ด้วยคำถามที่ว่า

“คุณเคยถูกแจมหรือไม่”

ผมว่ามีไม่ถึง1คนครึ่งล่ะครับที่ตอบว่า “ไม่เคย”

นอกนั้นคงตอบเป็นเสียงเดียวกันหมดว่า “โดนประจำเลยครับ วันไหนไม่โดนแจมเหมือนไม่ได้เล่นแรค กลับบ้านเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง…”


ผมเองก็เข้าใจความรู้สึกนั้น ว่าคนที่ถูกเค้าแจมน่ะมันเป็นยังไง อุปมาเหมือนกับว่าเรากำลังกินบะหมี่พิเศษอยู่หนึ่งชาม แล้วก็มีไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้ เดินถือช้อนแอนด์ตะเกียบมาจกกินของเราหน้าด้านๆ แน่นอนว่าถ้าเป็นเพื่อนเรา เราไม่โกรธ อาจจะมีตบกบาลสั่งสอนเบาๆ พอเลือดคั่ง


แต่ถ้าเป็นคนอื่นแน่นอนเราต้องโกรธอยู่แล้ว มันเป็นใคร มันเล่นอยู่เครื่องไหนเราก็ไม่รู้(จากบะหมี่กลับมาเรื่องแรคซะยังงั้น โทษที) เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ดำมั้ย ล่ำมั้ย ผ่านการเกณท์ทหารรึยัง….


เวลาคนถูกแจมนะครับผมว่าทำเหมือนกันหมด นั่นคือ……

"แจมไม"

“อย่าดิครับ”

“อย่าแจมดิ”

คำพูดพวกนี้พอจะคุ้นๆหูกันบ้างมั้ย  ผมว่าคุณน่าจะเคยพิมพ์สักประโยคล่ะน่า…แล้วเป็นไงครับ มันไม่หยุด บางตัวที่ด่าไปก็ดันเป็นบอท ไอ้บางคนมันก็ไม่สน


บางคนแล้วใหญ่ ด่ากลับมาว่าเราต่างหากที่ไปแจมเค้าบ้างก็มี อย่างสุดท้ายนี่ น่าจะมีการตัดสินกันด้วยภาพช้าเหมือนกับการแข่งกรีทาประเภทลู่ ประมาณว่าสโลว์โมชั่น 1000 เท่า จะได้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลยว่าใครเข้าถึงก่อน


ผมว่าถึงเวลาแล้วครับ ที่เราจะจัดการกับไอ้พวกนี้อย่างเป็นจริงเป็นจังซะที คุณโชคดีมากที่ซื้อ RO CLUB เล่มนี้ไป เพราะต่อจากนี้ไป ผมจะเผยวิธีจัดการกับพวกชอบแจมอย่างมีประสิทธิภาพ เปิดเผยกันอย่างจะๆ ละเอียดยิบ สามารถนำไปใช้งานได้จริง


โปรดจงนำมันไปใช้ให้เป็นประโยชน์ เพื่อขจัดพวกสันดานขี้แจมให้หมดสิ้นไปจากโลก RO ถ้าพร้อมแล้ว….จะอ่านบรรทัดนี้อยู่ทำไมล่ะครับ เลื่อนไปอ่านบรรทัดต่อไปกันดีกว่า




ด่าแบบผู้ดี

เป็นไปได้มั้ยว่าไอ้พวกสันดานขี้แจมเหล่านี้นี่ค่อนข้างจะทนทานต่อคำด่าแบบหยาบคายหรือแบบใช้อารมณ์รุนแรง

ประมาณว่ารักซาดิสม์ ยิ่งด่าแรงเท่าไหร่ยิ่งชอบ เข้าทาง เพราะเวลาเจอคำด่าแบบนี้ แล้วมันจะทำเป็นไม่สนใจซะ แล้วด่ากลับไปด้วยอารมณ์ที่รุนแรงเท่ากัน  มันสะใจอย่างบอกไม่ถูก แล้วเราจะไปทำให้มันเข้าทางปืนทำไมล่ะครับ ทำไมเราต้องไปลดตัวไปทะเลาะกับมันด้วย เวลาถูกแจมนะ นี่เลย อย่าไปโกรธมันครับ ให้พูดกับมันดีๆ ใช้ภาษาที่เพราะๆ เช่น

“เอ่อ…คุณนักดาบครับ กริยาที่คุณกระทำอยู่นี่นะขะรับ มันไม่ดีเลยนะขอรับ มันเป็นสันดานของพวกไพร่ไร้การศึกษาเขาทำกัน”

อย่างนี้เป็นต้น หรือจะด่าเป็นสุภาษิตก็ไม่เลว

“สิ่งที่คุณทำอยู่นี่นะครับ มันช่างหมาเห่าใบตองแห้งซะเหลือเกิน”

มันจะงงครับ ทำอะไรไม่ถูก ถ้าแค่นี้ไม่พอก็กระหน่ำคำราชาศัพท์ใส่เข้าไป ไอ้พวกนี้เรียนน้อยครับ ไม่ต้องห่วง อาจจะมึนกระโหลกจนเลิกเล่นแรคแล้วไปตั้งใจเรียนก็ได้ หรือไม่ก็หนีไปบวชไม่สึกตลอดชีพ




เดินประจาณ

แน่นอนว่าพวกชอบแจมไม่มีใครอยากจะคบ ถ้างั้นใช้วิธีนี้เลย อาจจะเหนื่อย และเสียเวลาทำมาหากินไปบ้าง แต่ก็คุ้มกับความสะใจที่ได้รับ 

วิธีนี้ง่ายมากครับ เวลาถูกแจมนะครับ ให้จำชื่อไอ้คนที่แจมเราไว้ จากนั้นขอแรงเพื่อนๆในกิลด์ หรือใครก็ได้ครับที่รู้จักกัน ไม่ต้องมากครับ เอาแค่ 20 คนก็พอ

20 คนที่ว่าเนี่ย ขอแบบปากหมาๆเลยนะ แล้วจากนั้นก็ให้เพื่อนๆเหล่านี้นะครับ แยกย้ายกันประจำในจุดต่างๆของเกม เน้นแถวๆที่คนค่อนข้างพลุกพล่านหน่อย เตี๊ยมเวลากันให้ดี

จากนั้น…เราจะเริ่มประจาณความชั่วของมันพร้อมกัน วิธีการพูดก็ง่ายมาก ใส่ร้ายป้ายสีมันให้มากที่สุด แน่นอนว่าไม่ใช่แค่การแจมอย่างเดียว อาจจะมีการแต่งเรื่องเล็กน้อยเพื่อความหนุกหนาน

เช่นอาจจะบอกว่ามันแอบขโมยเงินแม่มาเล่นเกม หรือเป็นกระเทย เป็นพวกโรคจิตอะไรประมาณนั้น แต่ต้องทำพร้อมกันนะครับ เอาให้มันงงไปเลยว่า

"อะไรวะ แค่แจมกันแค่เนี้ย..ทำยังกะเราไปวางเพลิงสถานฑูตเกาหลีมายังงั้นแหละ.."

จากนั้นมันจะเข็ดหลาบครับ ไม่กล้าทำอีก บางรายอาจจะถึงขั้นหลอน เลิกเล่นแรคถาวรเลยก็เป็นได้




ลบตัวละครที่แจมเราทิ้งไปซะเลย

หลายคนบอกว่า “เฮ้ย..!! ไม่แรงไปหน่อยเรอะ...แค่แจมกันแค่นี้เอง” 

ไม่แรงหรอกครับ คิดซะว่าเป็นการสั่งสอนเล็กๆน้อยๆละกัน วิธีการง่ายมาก แต่ใช้เวลานานหน่อย คุณต้องมีความอดทนพอสมควรเลยถ้าคิดจะใช้วิธีนี้

ก่อนอื่นเราต้องจำชื่อของคนที่แจมเราให้ได้ก่อนว่ามันชื่ออะไร แล้วจากนั้นเราก็จะมานั่งสุ่ม LOGIN และ PASSWORD กันครับ เดามั่วไปเรื่อยๆอ่ะครับ เดี๋ยวมันก็เจอเอง

อัตราการสุ่มก็ไม่มากไม่มายหรอกครับ ก็แค่แสนล้านกว่าตัวเท่านั้น

อดทนหน่อยครับ ต่อจากนั้น ถ้าเราเข้าไปลบตัวมันทิ้งได้แล้ว ให้สร้างโนวิทขึ้นมา1ตัวเพื่อเยาะเย้ยมัน ให้ตั้งชื่อว่า “แจมไม” แล้วจากนั้นก็ปล่อยให้มันเครียดไปคนเดียว




เข้าถึงตัว

วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบความรุนแรง ประมาณว่าแค่ด่าหรือลบทิ้งมันยังน้อยไป งั้นลองวิธีนี้ดู

ขั้นแรกนะครับ เวลาถูกแจมอย่าโกรธ ให้เป็นมิตรกับมันเข้าไว้ เป็นเพื่อนกันได้ยิ่งดี แล้วจากนั้นเราก็จะหลอกถามข้อมูลของคนเล่นครับ ว่ามันชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ เพศชายหรือหญิง เล่นที่ร้านไหนประจำ เล่นกี่โมง

และเมื่อเราได้ข้อมูลมาแล้ว เราก็ไปหามันที่ร้าน พอเจอตัวแล้วนะครับ ให้ตบหัวมันให้แรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วรีบหนีออกมา แล้วเราก็กลับไปถามมันในจอครับว่า

“เจ็บมั้ยล่ะแก นี่คือโทษฐานที่แกแจมชั้นเมื่อเดือนก่อน” 

ถ้าคิดว่าตบหัวยังเบาไป จะเปลี่ยนเป็นเตะก้านคอ หรือฟันศอกก็ได้ ไม่ว่ากัน




ให้มันรู้ซะบ้าง….ว่าคนที่โดนแจมเค้ารู้สึกยังไง

ใช่ครับ….เราต้องให้มันรู้ถึงอารมณ์ของเราบ้างว่าเรารู้สึกยังไง

วิธีนี้ออกจะทุ่มทุนสร้างไปนิดนึง แต่ก็ถือว่าคุ้ม วิธีนี้เริ่มต้นจะคล้ายๆกับข้อที่แล้วครับ ก็คือ..อย่าไปโกรธ เป็นมิตรกับมันเข้าไว้ แต่คราวนี้เราไม่ได้คิดจะไปตบหัวมัน เพราะงั้นจึงไม่ต้องถามประวัติ สัดส่วน หรือชื่อพ่อชื่อแม่ให้ยุ่งยาก

แต่เราจะช่วยมันครับ ช่วยให้มันเก่งขึ้น เนื่องจากกว่า70%ของพวกที่แจมแบบตั้งใจ จะเป็นพวกกระจอก ประมาณว่าอยากตีตัวเก่ง แต่ไม่มีปัญญาไปตี 

ก่อนอื่นเราต้องทำให้มันเก่งขึ้นครับ เริ่มจากการเดลเงินทั้งIDให้มันไปเลยครับ มีร้อยล้านก็ให้ร้อยล้าน พวกอาวุธหรือเครื่องป้องกันที่ตีบวกเจ๋งๆ ก็ให้มันไปให้หมดเลย

ถ้าจะให้ดี ควรจะแท้งค์ให้มันด้วย เอาให้มันเก่งพอๆกับเราก่อน แล้วพอมันเริ่มเก่งแล้วก็ แนะนำสถานที่เก็บเลเวลที่ขึ้นดีๆให้มันไปตี ถ้าเรามีพรีสสายช่วยเหลือก็ควรจะเอาไปคอยช่วยฮีลให้มันด้วย

ทำอย่างนี้ซัก2ปี พอมันเก่งมากๆจนห่างชั้นกับเราชนิดที่เราทาบมันไม่ติดแล้ว ก็ถึงเวลาล้างแค้นแล้วครับ

เราจะเป็น..ไอ้…กระ..จอก..ไปแจมมันบ้าง ทีนี้มันจะได้รู้สึกซะที ว่าตอนนั้นเรารู้สึกยังงัยยยย……






สุดท้าย....ถ้าเราไม่ไปใส่ใจกับมัน เล่นเกมเอาแค่หนุกๆ ทำเอาหูทวนลมไปซะ ไอ้วิธีการที่ผมว่ามาก็คงไม่จำเป็นต้องใช้หรอกครับ การอาฆาตแค้นมันไม่ใช่เรื่องดีสักกะหน่อย 


โปรดจำไว้นะครับว่า…เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร

เฮ้อ….ในที่สุด ก็จบแบบมีสาระจนได้




วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ROซอกหลืบ ตอน ชื่อร้านแนวโหล



(ต้นฉบับปี 2547)

ในตลาดมอร็อค สถานที่ขายของท่ามกลางกระแสความกระตุก และความน่ารำคาญของผู้คนที่พลุกพล่าน ไหนจะสัตว์เลี้ยงเจื้อยแจ้วอีกเล่า ที่พูดแต่ละคำแล้วอยากจะโดดถีบ


ไหนจะไอ้พวกมือบอนที่ชอบหักไม้กลางตลาด เพื่อเพิ่มความแลคให้มากขึ้น เป็นมอนสเตอร์กระจอกก็แล้วไป แต่ถ้าเป็นมอนสเตอร์ที่เก่งใกล้ๆกับระดับบอส เราก็อาจจะได้เห็นพื้นที่ว่างขนาดใหญ่กลางตลาดก็เป็นได้ 


แต่ไอ้ที่พูดไปก็ไม่ได้รำคาญเท่าไหร่หรอกครับ อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นสีสันของตลาด แต่บางวันไอ้สีสันที่ว่านี่ก็ออกจะเยอะไปนิดนึง เห็นแล้วรู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้า กินข้าวไม่อร่อย


สีสันอีกอย่างของตลาดมอร็อค ที่จะเรียกว่าขาดไม่ได้เลยก็คือ เหล่าพ่อค้ามากหน้าหลายตาที่หอบเอาสินค้านานาชนิดมาขาย มีทั้งถูกทั้งแพง และสไตล์การขายที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร  
อันนี้สังเกตได้จากชื่อร้านเป็นหลัก ประมาณว่าเห็นชื่อร้านก็พอจะเดาสันดานของเจ้าของร้านได้ลางๆแล้ว ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่


พูดแค่นี้อาจจะนึกกันไม่ค่อยออก ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวผมจะขออธิบายอย่างเป็นทางการซะเลย เกี่ยวกับชื่อร้านที่เราสามารถเห็นได้ตามท้องตลาด(มอร็อค)ทั่วไป มันมีแบบไหนกันบ้าง



รับของร้อน

แบบแรกนี่ต้องบอกว่า 2in1 ทั้งขายของไปในตัว และรับซื้อของถูกเอาไปขายต่อได้อีกต่างหาก ผมก็เคยใช้บริการของพวกพ่อค้าที่ตั้งร้านแนวนี้มาเหมือนกัน


เห็นบอกว่ารับของร้อน ก็เลยเอาทูแฮนสวอท(1เวรี่)ธาตุไฟมาขายให้ ไม่รู้ร้อนพอมั้ย  ให้ทาย…ว่า  ไอ้พ่อค้าขี้หนาวคนนี้มันให้ราคาเท่าไหร่ 


1ล้าน อืม… มากไป

600k   อืม... ก็ยังมากไป

100k อืม…ถ…ถะ…ถ.ถถ..ถูกต้องนะคร้าบบบบบบ


โห…พี่ท่าน ให้แค่เนี๊ย พี่รู้มั้ยผมซื้อมาเท่าไหร่ ล้านห้าเฟ้ย ล้านห้า อย่าให้รู้นะว่าบ้านอยู่ไหน จะไปลอบวางเพลิงซะให้เข็ด





นูเงิน/นูไฟ/เรด/วิง/อื่นๆ

การตั้งชื่อร้านแบบนี้จะทำให้ลูกค้าอ่านได้ง่าย รู้ว่าในร้านขายอะไรบ้างโดยไม่ต้องคลิกเข้าไปในร้าน


คนที่ตั้งชื่อร้านแบบนี้ขอชมเลย คุณเป็นคนที่เข้าใจความต้องการของลูกค้า รู้จักวางแผน ละเอียด รอบคอบ ขอให้ท่านประสบความสำเร็จในการค้าขาย ทางบริษัทขอมอบประกาศนียบัตรนี้ให้แก่ท่าน เพื่อให้ท่านรักษาคุณงามความดีดั่งเกลือรักษาความเค็ม….เฮ้ย!! ขนาดนั้นเลย



ไวท์คลิปโอริริงปอมสี่รูเบลดลมน้ำไฟมุดม็อกกิ้ง

แบบนี้ออกแนวรีบร้อน ไม่รู้มีธุระที่ไหน ไม่รู้ว่ากดเว้นวรรคแล้วบ้านจะไฟไหม้รึไง   อืม…อันนี้ผมก็ไม่รู้  ขี้เกียจไปคิดต่ออ่ะ แค่เห็นชื่อร้านก็ปวดหมองตึ๊บๆแล้วเว้ย  



ลดแล้ว ถูกมาก

ตอแหล!!  จริงๆ เห็นมาเยอะแล้ว เห็นบอกถูกๆ พอคลิกเข้าไปในร้าน แทบจะบ้า โห…นี่เหรอถูกของแก ตรงไหนว๊ะ!! ขอดร๊อปคิกทีได้มั้ยเนี่ย


จริงๆเราจะโกรธเค้าก็ไม่ถูก เค้าอุตส่าห์ใจดีลดให้แล้ว เราต้องขอบคุณเค้าต่างหากถึงจะถูกต้อง แต่แค่ขอบคุณอย่างเดียวนะ ไม่ต้องไปซื้อของมัน



ไม่อยู่….ไปเรียน

อยากติดต่อกระทรวงศึกษาให้มามอบโล่เยาวชนดีเด่นให้กับไอ้พวกที่ตั้งชื่อร้านแบบนี้เหลือเกิน


คิดดูสิครับ..ถึงจะติดเกมแค่ไหนก็ยังแบ่งเวลาไปเรียน เวลาเล่นเราเล่น เวลาเรียนเราเรียน น่ายกย่องจริงๆ ใครมีลูกมีหลานแบบนี้ชื่นใจตาย น้องๆที่อ่านอยู่ก็อย่าลืมเอาเยี่ยงอย่างนะครับ โตขึ้นจะได้เป็นอนาคตที่ดีของชาติ


ว่าแต่….มันไปเรียนจริงรึเปล่าวะ



กินข้าว , นอน

อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าจะมาบอกกันทำไม มีใครเค้าอยากรู้บ้างเนี่ยว่าแกกำลังทำอะไรอยู่ สู้บอกว่าร้านแกขายอะไรบ้างไม่ดีกว่าเหรอ 


โห..ไม่อยากคิดเลยอ่ะ ว่าในอนาคตจะเป็นยังไง  อาจจะมีตั้งชื่อร้านว่า  “คุยโทรศัพท์กับแม่”   “กำลังวิดพื้น20ครั้ง”  “ขี้อยู่ ออกมาครึ่งก้อนแล้ว”  “ไฟไหม้บ้าน ดับไฟอยู่”


ว้อยย… ฉันจำเป็นต้องรู้มั้ยเนี่ย



(ไม่ตั้งชื่อ)

อาจจะลืม หรือจงใจไม่ตั้งชื่อผมก็ไม่รู้ เอ…หรือว่าภาษาไทยไม่แข็งแรง หรือจะต้องการให้คนอื่นเค้าคิดกันเอาเองว่าขายอะไร หรือว่าชอบความว่างเปล่า อืม….ช่างมันเถอะ จะคิดมากทำไมเนี่ย

เอ…หรือว่า มันจะ…


ด่วน!! 10นาที จะปิดร้าน

แบบนี้ท่าทางจะโรคจิต ชอบกดดันคนอื่น แต่ไม่รู้เป็นอะไร เวลาเห็นใครตั้งชื่อร้านแบบนี้  มันอดที่จะเข้าไปดูไม่ได้จริงๆ 


พอเข้าไปดู ปรากฎว่ามันขายเรด อืม….ไอ้เราก็นึกว่าเป็นของหายากอะไร แล้วไอ้พวกที่ตั้งชื่อร้านแบบนี้นะ ผมว่าเหมือนกันทุกคน บอกว่า 10 นาทีจะปิดร้าน


ผมน่ะ เคยเปิดร้านข้างๆมันเลย ผ่านไป 2 ชั่วโมง มันก็ยังไม่ปิดร้าน



ลดได้ ..ซิบมา

เห็นครั้งแรกต้องบอกว่า ตื้นตันมากๆ โถ…พ่อคุณ ถ้าเงินเราไม่พอก็ยังจะอุตส่าห์จะลดให้อีก  
แต่พอเข้าไปดูในร้าน

เฮ้ย!!...แพงชิบห..ย การ์ดวิสเปอร์ราคา 4m รีบซิบไปเลยครับ

“นายๆ วิสเปอร์ลดหน่อยดิ” สักพักมันก็ตอบมา 

“อืม...งั้น 3.99m” 

ขอบคุณมากครับ…ไอ้บ้าา มันก็ยังแพงอยู่ดีน่ะแหละ

“ตกลงเอามั้ยครับ”

“ไม่เอาว้อยยย….” 



โล๊ะ…ของเก่า

อันนี้ออกแนวปลง สิ้นหวังกับชีวิต ประชดประชัด ชะเอิงเงิงเงย ประมาณนั้น…. แต่เห็นแล้วสงสารอ่ะ ก็เลยว่าจะเข้าไปช่วยซื้อซะหน่อย พอเห็นราคาเท่านั้นแหละ 


โอวว…มายก๊อด…..นี่หรือราคาโล๊ะ จากนั้นความสงสารก็เปลี่ยนเป็นความหมั่นไส้ในบัดดล



ขาดทุนแล้ว..ซื้อหน่อยเหอะ

อีกแล้วครับท่าน… ตั้งชื่อร้านล่อซะขนาดนี้ จะไม่เข้าไปดูได้อย่างไร ก็อยากจะรู้อ่ะ..ว่ามันขาดทุนจริงเหรอวะ

พอได้เห็นราคา… หึๆๆ ขาดทุนเหรอ ตลกสิ้นดี อย่ามาพูดให้ขำดีกว่าน่า..อาหลง



ร้านนี้ถูกกว่าร้านข้างๆ

อืม..ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็เห็นบ่อย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นแล้ว คาดว่าคงโดนไอ้ร้านข้างๆส่งมือปืนมาฆ่าทิ้งไปแล้วก็เป็นได้


หรือว่าถ้าอยู่ร้านเดียวกัน ก็คงลุกขึ้นไปฟาดปากกันให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย โทษฐานกวนส้นอวัยวะที่ใช้เดิน เค้าขายของๆเค้าดีๆ ดันไปตั้งชื่อร้านก่อศัตรูซะยังงั้น สมน้ำหน้า…



ถูกที่สุดในมอ

เป็นไงล่ะแก เจอตั้งชื่อร้านแบบนี้เข้าไป สยบทุกร้านเลยครับ ขอบอก ไอ้ที่บอกว่าถูกๆนี่เก็บร้านหนีแทบจะไม่ทัน


คิดดูสิครับ อะไรมันจะอลังการขนาดนั้น เพาเวอร์แรงสูงมาก ใครเห็นแล้วไม่เข้าไปดูเนี่ย ถือว่าใจแข็งมาก ใครๆก็อยากได้ของถูกกันทั้งนั้นแหละครับ


แต่พอเข้าไปดูของในร้านแล้ว ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันหมดครับว่า....หึหึ ถูกที่สุดในมอเรอะ…อยากจะหัวเราะเป็นภาษาอิสราเอล





เฮ้อ…นี่แหละครับมารยาพ่อค้า ชื่อร้านไม่ได้ช่วยให้ของถูกขึ้นเลย ไม่ว่าจะตั้งชื่อร้านยังไงก็ช่างเถอะครับ ว่าแต่…ไอ้การหาของถูกจริงๆในตลาดมอร็อคเนี่ย

งมเข็มในมหาสมุทรยังจะดูง่ายกว่าอีก ว่ามั้ย…..