วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เกรียนกรึ่มกรึ่ม ตอน แฟมิลี่ ฟามิคอม

( ต้นฉบับปี 2558 )










ก่อนจะเข้าเรื่อง ขอสารภาพตรง ๆ  รู้สึกตัวเองโคตรควายเลย ที่เพิ่งมารู้ตอนโตว่า เครื่องฟามิคอม ก็คือเครื่องแฟมิลี่ !! 

ไอ้ชิบหาย  นี่เข้าใจตามเพื่อนมาตลอดเลยนะว่า เฮ้ย บ้านเรามีบุญได้เล่นแค่แฟมิลี่ว่ะ ถ้าอยากเล่นฟามิคอม มึงต้องถอกไปถึงญี่ปุ่นเท่านั้นถึงจะได้เล่น แม่งเอ้ย แสรด  ตกลงเครื่องเดียวกันซะงั้น

พูดถึงเครื่องแฟมิลี่ หรือไอ้ฟามิคอมเนี่ย  ( เอ่อ.... แต่ผมจะเรียกว่าแฟมิลี่ละกัน  เรียกถูกเดี๋ยวเขิน )  
ผมว่ามันเป็นความทรงจำแรกของใครหลาย ๆ คน  โดยเฉพาะพวกอายุ 25 ขึ้นไป 

ถ้าเปรียบเป็นความรักก็เหมือนแฟนคนแรก เลิกกันไปยังไงก็ไม่ลืม เป็นอะไรที่โคตรคลาสสิค จะด้วยความเป็นออริจินอลของเกม มุมมองเดียว กราฟฟิก 8 บิท คือไม่ต้องห่วงกันเลยว่าจะมีใครหื่นตัวละครเหลี่ยมแตก  ส่วนใหญ่พวกเราก็จะตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมกันอย่างเดียว

แฟมิลี่เป็นยุคที่มาก่อนร้านเกม ถ้าแบ่งจาก 100% 
ความทรงจำ 70% เราจะเห็นตัวเองเล่นในบ้านซะส่วนใหญ่ 
อีก 29% เล่นที่บ้านเพื่อน 

และอีก 1% เล่นที่ร้าน.....

สมัยก่อนร้านเกมแฟมิลี่หายากสัด ๆ แถมค่า ชม. แพงอีกต่างหาก แต่ถ้าหาเจอคุณจะได้เห็นงานอลังการ เกมตลับวางเรียงกันเป็นร้อย กระตุ้นต่อมอยากเล่นโคตร ๆ 




สมัยเด็กถ้าผมได้เจอแค่เครื่องเกมกับจอ  ยังไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าได้เห็นตลับเรียงกันเมื่อไหร่ล่ะก็ ตายเป็นตาย ดิ้นเป็นดิ้นอ่ะ  ถึงกับยอมสละชีวิต  ถ้าจะหยุดมันต้องเอาเชือกผูกขาแล้วขับรถลากออกไปจากร้านเกมเท่านั้น

และด้วยความที่ร้านเกมมันน้อยมาก ส่วนใหญ่ไม่เคยเล่นกันแน่ เพราะงั้นฟีลเล่นในร้านตัดทิ้งไปได้เลย ชื่อก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าแฟมิลี่ เครื่องเกมของครอบครัว (อันนี้คิดเอง)  

แต่กว่าจะอัญเชิญแฟมิลี่มาฟีดเจอริ่งกับทีวีที่บ้านได้ แม่งไม่ง่ายเลยว่ะครับ ถ้าท่านไม่ได้มีผลการเรียนดีเด่น ฐานะทางบ้านเยี่ยงเศรษฐี หรือพ่อแม่อยากเล่นซะเอง



แฟมิลี่ราคาเมื่อเกือบ 18 ปีที่แล้ว อยู่ที่ 1500-2000 บาท เงินเดือนหม่อมแม่ 5000 บอกเลยว่าห่างไกล 

จะเก็บเงินซื้อเอง วันละ 5 บาท ก็กลัวว่าจะไม่ได้เล่นในชาตินี้

ด้วยเหตุนี้การซื้อเครื่องแฟมิลี่สำหรับใครหลาย ๆ คนจึงเป็นปัญหาระดับชาติ ช่วงขอซื้อนี่เราจะได้เห็นพลังเด็กดีที่แฝงอยู่ในตัวเด็กน้อย เราจะได้เห็นการทำดีอย่างหักโหม 

ช่วงนี้จะเชื่อฟังพ่อแม่ผิดปกติ ให้ทำเหี้ยอะไรทำได้หมด ยกเว้นขยันเรียน กวาดบ้าน ถูพื้น ล้างจาน ล้างรถ ล้างห้องน้ำ ถ้าดูดส้วมให้ได้คงทำไปแล้ว คือมันไม่มีอะไรจะเสีย เรียกว่าวัดใจบุพการีกันไปเลย ถ้าไม่ซื้อให้ก็เป็นปมด้อยไปตลอดชีวิตอ่ะ แต่สุดท้ายส่วนใหญ่ก็แฮปปี้เอนดิ้งทุกคน

ผมเองก็ได้เครื่องแฟมิลี่มาด้วยทรงนี้เหมือนกัน ทั้งเก็บเงิน รับจ้างทำทุกอย่าง สุดท้ายความดียังไงก็ชนะ ก่อนที่จะกลับมาเป็นเด็กเหี้ยหลังได้เครื่องเกม

แต่พอได้เครื่องมา ก็ยังมีปัญหาระดับชาติต่อไปอีก มีเครื่องก็ต้องมีเกม แล้วตลับเกมแฟมิลี่ราคามันคุยกันได้ที่ไหน ตลับละ 400-500 เทียบเป็นค่าเงินเดี๋ยวนี้ก็เป็นพัน เกมยิ่งสนุกยิ่งแพง เพราะงั้นทางแก้ปัญหาที่โคตรคลาสสิคของการซื้อตลับเกมแรกๆ นะครับ

สุดท้ายก็มาจบที่ตลับ 999 in 1

แล้วตอนเด็กเราก็เสือกเชื่อกันจริง ๆ นะ ว่าตลับนี้โคตรพ่อโคตรแม่คุ้ม ได้เกมเกือบพันเกมในราคาแค่ร้อยกว่าบาท ฮุฮุฮุฮุ บางร้านแถมฟรีด้วยซ้ำ 




พอมาได้ลองเล่นจริงน้ำตาแทบไหล ทั้งตลับพอบรรเทาทุกข์ได้แค่ 2 เกม คอนทร้ากับมาริโอ้ นอกนั้นเกมเหี้ยอะไรก็ไม่รู้ ยากชิบหาย มึงเอาด่านสุดท้ายมาเป็นด่านแรกให้เล่นรึไง 



จำชื่อเกมนี้แม่นมาก “โรดรันเนอร์” เกมอะไรวะแม่งเดินได้แต่กระโดดไม่ได้ พอจะกดกระโดด แม่งก็สร้างหลุมขึ้นมาซะงั้น แล้วกูก็เดินลงไปเฉยเลย ตายห่า เป็นงี้ตลอด




อีกเกม “แพคแมน” เป็นเกมที่ไม่เคยหาความสนุกจากการเล่นได้เลย เป็นเกมที่ต้องวิ่งหนีอย่างเดียว มีแต่ความลนลาน เริ่มเกมมาก็จะโดนแดกเลย แล้วกว่าจะเก็บไอเท็มมาแดกคืนได้ เลือดตาแทบกระเด็น

บางทีมันก็ชวนคิดนะ ว่าคอนทร้านี่มันดังเพราะสนุก หรือเพราะเราถูกสถานการณ์บังคับให้เล่นกันแน่วะเนี่ย 
ถ้าไม่คอนทร้าแล้วจะเล่นอะไร เวลาเพื่อนมาบ้าน 

หรือเล่นกับน้อง มาริโอ้ก็เล่นพร้อมกัน 2 คนไม่ได้
ทุกวันนี้ก็ไม่เข้าใจ ให้สลับกันเล่นทำไมวะ กูเล่นคนเดียวแล้วผลัดกันคนละชีวิตก็ได้

นี่แหละตลับสามัญประจำบ้าน ตอนซื้อคิดว่าโคตรคุ้ม แต่พอเล่นจริงแม่งตรงไหนวะ เวลาไปห้างก็ไปทำตาละห้อยที่แผนกเกมเหมือนเดิม 

เพราะงั้นอย่าแปลกใจถ้ามีบ้านไหนถอยเกมตระกูล Rockman หรือ คุนิโอะ มาได้สำเร็จ บ้านหลังนั้นจะเป็นบ้านที่เรืองแสงที่สุดในอำเภอ เด็กระแวกนั้นจะทำทุกอย่างเพื่อเป็นเพื่อนกับลูกบ้านนี้ให้ได้ ไม่เข้าไปเล่นด้วยก็ยืมเกมนี่แหละ 

สมัยก่อนนี่ เกมตลับเดียวยืมหมุนเล่นกันทั้งหมู่บ้านนะครับ  เล่นจนตลับแตกอ่ะ บางหมู่บ้านเล่นกันจนหายสาปสูญไปเลยก็มี

พูดถึงความคลาสสิคอย่างนึงของตลับแฟมิลี่ เวลาเสียบตลับแล้วเข้าเกมไม่ได้ ไม่รู้มีใครสอนหรือเราทำกันด้วยสัญชาติญาณ 

เราจะแกะตลับออกมา ให้เหลือแต่แผ่นเปลือย ๆ แล้วเสียบเข้าไปใหม่!!!

ถ้าไม่ติด เป่าที่เสียบตลับ!!!

ถ้าไม่ติดอีก ลองเสียบแบบเฉียงๆ กดด้านซ้ายของแผ่นให้แน่น!!!

ถ้ายังไม่ติดอีก เอายางลบมาถูแผ่น!!!

และอีกสารพัดวิธีที่เห็นแล้วแบบ.....  เย็ดเข้ ใครสอนพวกมึงวะ แม่งลองโน่นลองนี่จนเล่นเกมได้อ่ะ

เพราะงั้นอย่าแปลกใจว่า ทำไมพอผลัดมาถึงยุคเครื่องเพลย์ เราถึงจับเครื่องตะแคงหัว หกสูงตีลังกากันอย่างสนุกสนาน เพราะรากฐานเราเทพกันมาแบบนี้

จอยเกมนี่ก็คลาสสิค นอกจากจอยมาตรฐานที่มีแค่ปุ่มหลักเป็น AB ยังมีจอยเทอร์โบที่อำนวยความสะดวกสุด ๆ สำหรับเด็กขี้แพ้กล้ามนิ้วไม่แข็งแรง  





เพราะบางเกมไม่ได้ตัดสินที่เทคนิค แต่ตัดสินด้วยพลังกล้ามนิ้วล้วน ๆ พอเปลี่ยนเป็นเทอร์โบนี่ฟินเลย กดค้างแล้วรอดูชัยชนะอย่างเดียว  

แต่บางคนก็ยังติดฟีลลิ่ง กดค้างแรง ๆ เพราะคิดว่ามันจะรัวมากกว่าเดิม 2 เท่า

จอยปืน แรกเห็นรู้สึกเลยว่า ไฮโซมาก นี่แหละที่รอมานาน 

แต่เกมที่มึงทำมารับกับจอยปืนนี่แบบ.... สัสเอ้ย  ยิงเป็ดอ่ะ !!!
จอยแม่งอย่างล้ำเลยนะ  ให้กูยิงเป็ดกลางทุ่งซะงั้น  แทนที่จะให้ยิงผี ยิงทหาร ยิงผู้ร้าย ให้มันมีอารมณ์ร่วมหน่อย 



ให้ยิงเป็ดนี่ ไม่ต้องก็ด้ายยย  พวกกูเอาง่ามหนังสติ๊กไปไล่ยิงกันนอกบ้านสนุกกว่าเยอะ 

แต่เอาจริงจอยปืนเห่อกันได้ไม่นานครับ แป๊บเดียวเจ๊ง แต่เจ๊งหลังเราเบื่อยิงเป็ดไปก่อนแล้ว ยังไงก็ไม่เดือดร้อน

ถ้าถามผมว่า…. แล้วจุดสูงสุดของการเล่นเครื่องแฟมิลี่อยู่ที่ไหน?  

ยุคนั้นไม่มีสังคมเกม ร้านเกมน้อยจนถึงไม่มี อีเวนท์เกมยังเป็นสเปิร์มอยู่เลย หนังสือนิตยสารเกมก็ไม่มี 

จุดสูงสุดของแฟมิลี่ก็คงเป็นความรู้สึกของเพื่อนกลุ่มนึงที่โตมาด้วยกัน ทุกวันนี้ให้กลับไปนึกถึงเกมแฟมิลี่ ก็จะมีเพื่อนที่เล่นด้วยกันลอยติดมาด้วย เป็นฟีลที่อบอุ่น สามัคคี บางเกมมันก็ไม่ได้สนุกอะไร แต่เล่นกับเพื่อนมันทำให้สนุกขึ้นได้

เชื่อนะว่าทุกวันนี้ก็ยังมีหลายคนที่ยังชอบเอาเกมแฟมิลี่มาเล่น (ในคอม) อยู่ ผมก็เล่นเหมือนกัน บางวันเล่นไปก็คิดไป ว่าเกมที่รายละเอียดน้อย ๆ แบบนี้ ทำไมมันสนุกจังวะ 

เพราะเราแก่ เพราะคิดถึง หรือเพราะมันคลาสสิค

หรืออาจจะทั้ง 3 อย่างรวมกัน

แต่ถึงยังไง นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมมีวันนี้ได้เลย 
 
ขอบคุณแฟมิลี่  เอ้ย.... ฟามิคอม...... มาก ๆ ครับ 
สำหรับความทรงจำดี ๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น