วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2559

ROซอกหลืบ ตอน ซอกหลืบไฟท์เตอร์

(ต้นฉบับปี 2548)


ชีวิตนั้นคือการต่อสู้ การต่อสู้คือชีวิต 
บู๊ล้างจาน  เฮ้ย! ไม่ใช่ บู๊ล้างผลาญกันให้มันส์หยด ใน… 

RO ซอกหลืบ Fighter...!!!! 



“เป๊งค์..!!” 

“เฮ้ย ยังโว๊ย อย่าเพิ่ง ไอ้เด็กบ้า อย่าสั่นระฆังเล่นสิวะ” 



ท่านผู้อ่านทุกท่าน   สวัสดีและขอต้อนรับเข้าสู่สังเวียนเลือดที่ชาวมิดการ์ดรู้จักกันดี 

“ซอกหลืบ อารีน่า ไฟท์เตอร์ สเตเดี้ยม!!!” 

โอ พอใช้ชื่ออังกฤษแล้วมีชาติตระกูลมั่ก ๆ แต่ดันเขียนอังกฤษไม่ถูกเพราะเรียนน้อย

เออ ว่าแต่ซอกหลืบนี่ภาษาอังกฤษเหรอ ใช่มั้ง.....  โอเค  ช่างมันก่อนเถอะ  

ที่นี่ครับ ที่แห่งนี้ ก่อนอื่นผู้อ่านกรุณานึกภาพสนามต่อสู้ของชาวกรีกโรมัน แบบประมาณแกรดดิเอเตอร์มาเอง นึกเลยครับ เดี๋ยวนี้เลย ช่วยกันทำมาหากินนิดนึง อย่าให้ต้องใช้กำลัง 

นึกออกมั้ยครับ ถ้านึกไม่ออกอนุโลมให้เป็นเวทีชนไก่ก็ได้ แต่อรรถรสความมันจะน้อยลง 

ที่แห่งนี้มีตำนานนะครับ  เมื่อหมื่นปีเศษที่ผ่านมา เทพเจ้า "อริสโต้ สตอยคอฟ"   ได้ลงประมือกับจ้าวแห่งปีศาจ "ไทลิน่อล ทิฟฟี่ มอนสเตอร์" โดยมีเดิมพันเป็นเจ้าหญิงรัชทายาทแห่งอาณาจักรแอนฟิลด์  

ระหว่างพักยก มีรถเข็นส้มตำไก่ย่างเข้ามาขายในสนาม ทั้งคู่สั่งตำลาวใส่ปูทะเลแอนตาร์คติค แม่ค้าใช้เวลาตำ 4 ช.ม. ถ้วน นานมาก ๆ เหตุเพราะปูทะเลแอนตาร์คติคเป็นปูที่แข็งแรงโคตร มันดิ้นสู้และปล่อยแสงจนเฮือกสุดท้ายเท่าที่ทำได้ 

เห็นมั้ย ตำนานจริง ๆ นอกจากมีตำนานแล้ว ยังแถมตำอึดอีกต่างหาก เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย พอเลย เริ่มมาก็เขียนอะไรเลอะเทอะอีกแล้ว









เอาล่ะครับ ขณะนี้เวลา 19 นาฬิกา ได้เวลาที่ทุกคนรอคอยแล้วครับ หลังจากปล่อยให้นักมวยคู่ โท ตรี จัตวา ต่อยเรียกน้ำย่อยมาตั้งแต่ช่วงบ่าย ได้เวลาถึงมวยคู่เอกแล้วครับ 

ขณะนี้นักมวยคู่เอกกำลังเดินเข้าสู่ไฟท์เตอร์สเตเดี๊ยม ท่ามกลางผู้ชมเต็มความจุสนาม 3 หมื่นคน เพื่อบำบัดอารมณ์ของผู้ชมกำลังที่หื่นกระหายอยากเห็นความเจ็บปวดที่เขาไม่ต้องรู้สึก เลือดที่เขาไม่ได้หลั่งเอง และชัยชนะที่เขาใช้เงินเดิมพันไว้ ขณะนี้คาดว่าผู้อ่านก็คงหื่นตามไปด้วย  ไม่รอช้า เข้าสู่สังเวียนเลยดีกว่า 

ฝ่ายแดงครับ!!! เชิญพับกบ  พบกับปีศาจธาตุมืด “บลัดดี้ ไนท์!!! ลูกเจ้าพ่อนิ๊งหน่อง”  

อสูรร้ายผู้ผูกขาดตำแหน่งแชมป์แห่งอารีน่า ไฟท์เตอร์  แชมป์ 4 สมัยติดต่อกันจนถึงปีล่าสุด 




เจ้าของฉายา “ไอ้โหดเลือดหมู” สาเหตุที่ได้ฉายานี้มาก็ตรงตัวครับ เนื่องจากมันมีนิสัยโหดร้ายไม่เกรงใจนรก แถมยังชอบกินต้มเลือดหมูปากซอยเสนาอีก 

เจ้าบลัดดี้นี่เป็นมวยพันธุ์ดุโดยสายเลือดครับ หมอดูหลายท่านลงความเห็นแล้ว สืบความมาว่าดุไล่มาตั้งแต่โคตรเหง้า พ่อโหดดุ แม่ดุโหด ยิ่งตัวลูกนี่ไม่ต้องพูดถึง คน สัตว์ สิ่งของ เห็นยังหลีกทางให้ กระเป๋าสองแถวไม่กล้าเก็บเงิน แค่ชายตามองคู่ต่อสู้ขนเขินก็ลุกชูชัน ขาสั่นเพิม สุดท้ายก็จบด้วยการนั่งร้องขอชีวิต ท่ามกลางสายน้ำหลั่งไหลกลางหว่างขา 

น่ากลัวขนาดไหน ขนาดพี่เลี้ยงยังไม่มีเลย คิดดูละกัน  เพราะดุเกินกว่าใครจะเลี้ยงได้ เอากะมันสิโว้ย 

สำหรับประวัติการชกของฝ่ายแดง เจ้าบลัดดี้นี่ผ่านการชกมาแล้ว 44 ครั้ง ชนะ 35 ครั้ง ชนะลูกโทษ 6 ครั้ง เสมอ 3 ครั้ง เกือบแพ้ 2 ครั้ง ดิวส์ 4 เกม 5 เบอร์ดี้ 1 อีเกิ้ล ไม่เสียโบกี้ ติดคุก 1 ครั้ง ข้อหาวิ่งราวกระเป๋าตังค์คู่ชก แถมยังพ่วงรางวัลนักสู้สุขภาพดีอีก 1 รางวัลจากสถาบันเพ็ดดีกรี 

บลัดดี้เป็นเจ้าของสถิติไร้พ่ายทุกครั้งที่ลงแข่ง คู่ชกตายคาเวที 4 ศพ เสียชีวิตที่ ร.พ 7 ศพ เสียชีวิตระหว่างทาง 3 ศพ ประสาทหลอน 2 คน จำทางกลับบ้านไม่ได้ 6 คน ผื่นขึ้นอีก 3 คน โอย กี่คนแล้วเนี่ย ช่วยนับหน่อย 

เอาครับ ข้ามมาดูฝั่งผู้ท้าชิงกันบ้าง ฝ่ายชมพูอ่อน!!! “สุรเดช ส. เยลลี่บุกผงพนาไพร เกรียงไกรเลิศหล้า ภูผาสะท้านล้านศพ พิภพธรณีกรรแสง...ฯลฯ” 

โอย ชื่อค่ายมันยาวเหลือเกิน ไว้ฉบับหน้าค่อยมาพิมพ์ต่อ 






ตอนนี้มาทำความรู้จักกับเขาก่อนดีกว่า ก็สำหรับสุรเดชนี่เป็นนักสู้เชิงเทคนิคครับ ใช้หัวสมองเป็นส่วนใหญ่ ก็แหงล่ะ  เพราะแม่งเสือกมีแต่หัวนี่หว่า  ขนาดปริมาตรน่าจะเท่าๆ กับโอ่งมังกรเบอร์ 7 เส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เมตร นิสัยรักสงบตามแบบฉบับเผ่าเยลลี่ 

ประวัติการชกไม่มีครับ ทั้งชีวิตยังไม่เคยต่อยกับใครอย่างเป็นทางการ เคยขบหัวเพื่อนชื่อศุภโชคแค่ครั้งเดียว นอกนั้นเป็นฝ่ายโดนกระทำตลอด 

จะว่าไป สมรรถภาพของนักสู้ฝ่ายชมพูอ่อนนั้นเป็นอะไรที่อึดมาก ๆ ทั้งโดนด่าโดนล้อเรื่องการ์ด โดนชุบแป้งทอดก็ยังไม่เป็นอะไร ปะทะแขนเหล็กก็เคยมาแล้ว ปากกาเสียบทะลุปากก็ยังรอดมาได้ โอ ไม่เชื่อได้โปรดอย่าลบหลู่ ไม่ใช้สลิง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน ไม่เล่นของด้วย ความสามารถล้วน ๆ 

น้ำหนักทั้งคู่ ฝ่ายแดงชั่งตอนเช้าได้ 70 ตันถ้วน ส่วนฝ่ายชมพูอ่อน 70 กิโลกรัมถ้วน เลขเท่ากันครับ แสดงว่ารุ่นเดียวกัน แต่ทำไมความรู้สึกเหมือนลูกหมาท้าสู้ก็อตซิลล่ายังไงไม่รู้ ช่างมันเถอะ 

“กรี๊ซซ.... แฮ่” โอ... ผมได้ยินเสียง เสียงนี้มัน ไม่ได้แล้วครับ บลัดดี้คำรามแล้ว เป็นสัญญาณว่าหงุดหงิดมาก อ่านขายหัวเราะสิบเล่มก็ไม่หายแน่นอน สงสัยคงเดือดที่ปล่อยให้รอหลายย่อหน้า 

“โฮ่ง...! โฮ่ง...!!” แย่แล้ว บลัดดี้เห่าแสดงว่าหงุดหงิดใหญ่แล้วครับ กรรมการไม่รอสปอนเซอร์แจกของแล้ว สั่งคู่ชกเข้ามากลางเวทีเลย 

ต้องเริ่มแล้วครับ ต้องเริ่มแล้ว เพราะไอ้บลัดดี้มันเริ่มมองกรรมการแปลก ๆ น้ำลายไหลด้วย ไม่ใช่พิศวาสจับกดแน่ ๆ  ออกแนวหิวชัด ๆ

ถ้ากล้องตัดภาพไปอีกมุมจะเห็นสุรเดช ส. เยลลี่ฯ เหงื่อแตกทำท่าจะหนีกลับบ้าน พี่เลี้ยงศุภโชคกับไนท์หนุ่มต้องรีบเข้ามารั้งไว้เลยครับ เอาน้ำแอปเปิ้ลมาล่อด้วย ได้ผลมั้ย... 

ได้มั้ย โอ ได้ครับ!! สุรเดชกลับเข้าสังเวียนด้วยน้ำตานองหน้าเลย ลูกผู้ชายกระทิงแดงจริง ๆ กล้องตัดไปที่มุมอีกที เห็นไนท์หนุ่มกับดร็อปศุภโชคทำท่าเยส ๆ พร้อมกัน 




“เป๊งค์..!!!” 




เอาล่ะครับ เสียงระฆังดังขึ้น คราวนี้ของจริงแล้วครับ เสียงเชียร์กระหึ่มพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ไม่ต่อยไม่ได้แล้ว ไม่ต่อยไม่ได้แล้ว บลัดดี้ปรี่เข้าหาสุรเดชทันที!! 

สุรเดชทำไงครับ กลิ้งถอยหลัง แล้วก็... โอ ออกมาแล้วครับ เสต็ปฟุตเวิร์คแห่งทุ่งป่าโพริ่งอันลือลั่น !!  ต้องอธิบายนิดนึงครับ ท่านี้เป็นวิชาลับที่สืบทอดมาตั้งแต่โบราณกาลของเผ่าเยลลี่ เป็นการเร่งเซลล์ปีโป้ให้สั่นสะเทือนโดยแรง ทำให้ตัวสั่นไปมาคล้ายเต้นฟุตเวิร์ค ซึ่งเผ่าเยลลี่ส่วนใหญ่ใช้หลอกผู้เล่นที่จะเข้ามาจู่โจม ประมาณว่าของขึ้น ให้คิดว่าจะกลายร่างเป็นดาร์คลอร์ดแล้วนะ 

ท่านี้จะใช้ต่อเมื่อมีภัยจวนตัวจริง ๆ เท่านั้น จวนตัวนะครับ ไม่ใช่ จวน จี ฮุน โอ๊ย...!! การต่อสู้กำลังตื่นเต้น จะตลกทำไมวะเนี่ย 

ตัดกลับมาที่เวที ดูเกมต่อ โอ... ไม่ครับ ท่าฟุตเวิร์คสงสัยจะไม่เวิร์คดั่งชื่อท่าซะแล้ว  เจ้าบลัดดี้ใช้เท้างัดสุรเดชขึ้นเหนือหัวแล้วพักไว้ ไม่ต่างอะไรกับลูกฟุตบอลเลยครับ ผู้ชมโห่ร้องกันใหญ่ เอาล่ะครับ เจ้าบลัดดี้เริ่มตอบสนองความต้องการของคนดูและสื่อมวลชนแล้ว ค่อย ๆ ปล่อยให้สุรเดชกลิ้งลงมาให้หน้าอกพักเดาะทีนึง จากนั้นก็โชว์เดาะด้วยข้างเท้าด้านใน!! ด้านนอก!! 

สีหน้าสุรเดชทรมานเหลือเกิน  บลัดดี้เปลี่ยนมาเดาะด้วยปลายเท้า ใช้เข่าเดาะ!! ใช้ไส้ติ่ง!! ถุงน้ำดี!! สนุกจริงๆ เจ้าบลัดดี้คงคิดว่ากำลังเล่นสนุกอยู่เป็นแน่  จะเก็บเลยเมื่อไหร่ก็ได้ (ปรี๊ดดด!!!) โอ๊ะ เสียงนกหวีดครับ เกิดอะไรขึ้น  กรรมการวิ่งมาชี้เลย 

โอวว.... แฮนด์บอลครับ บลัดดี้ทำแฮนด์บอล เดาะไปเดาะมาใช้มือพักซะยังงั้น แถมเป็นการจงใจด้วย เอาแล้วครับ อย่างต่ำก็ต้องใบเหลืองแล้วล่ะครับแบบนี้ 

กรรมการว่าไง ควักกระเป๋าแล้วครับ โอ้...!! ผู้ชมสนามฮือฮากันใหญ่ ไม่ใช่ทั้งใบเหลืองและแดงครับ เป็นปฏิทินนู๊ดรูปน้องซินนั่นเอง บลัดดี้ตาลุกวาวเชียว สงสัยชอบของแปลก บลัดดี้รับแล้วรีบเอาไปเก็บไว้ที่มุม ตอนนี้สุรเดชสะบักสะบอมเหลือเกินจริง ๆ แต่ก็ยังยืนหยัดที่จะลุกขึ้นสู้ เหตุการณ์จะเป็นยังไงต่อไป 



ขอย่อหน้าอีกทีครับ ตัวหนังสือแน่นเหลือเกิน ถึงตอนนี้เจ้าบลัดดี้กลับเข้ามาในสนามแล้วครับ วิ่งง้างหมัดมาแต่ไกล!! สุรเดชหลับตาปี๋เหมือนรู้ชะตากรรม ผลั้วว!!! เต็มๆ ครับ กลางกบาล!! เลือดพุ่งกระจาย แต่ไม่ใช่สุรเดชครับ เป็นกรรมการซะงั้น 

เกิดอะไรขึ้น เจ้าบลัดดี้นิสัยโจรอีกแล้ว มันทำร้ายร่างกายกรรมการเพื่อจะเอาปฏิทินน้องซินอีกชุดครับ ทั้งหื่นทั้งโลภ กรรมการรีบควักให้หมดตัวเลย ไม่งั้นเดี๋ยวห้ามเลือดไม่ทัน เลือดพุ่งใหญ่แล้ว ดูเผิน ๆ นึกว่าน้ำพุเคลื่อนที่ เลือดชุ่มเวทีน่ารัก 

จังหวะนี้สุรเดชถือเป็นโอกาสทองครับ ระหว่างที่บลัดดี้หันหลังให้ เขารวมรวบพลังแล้ววิ่งเข้ากระแทกข้างหลังทันที แต่บลัดดี้ไม่รู้สึกอะไรเลยครับ เดินเอาปฏิทินไปเก็บที่มุมหน้าด้าน ๆ กระแทกได้กระแทกไป  

กระแทกไปได้ 15 นาที สุรเดชเริ่มรู้ว่าแผนน้ำหยดลงหินท่าจะไม่ได้ผล ถอยฉากออกมาครับ แล้วก็หยิบการ์ดโพริ่งออกมาคาบไว้ที่ปาก แฟน ๆ กรี๊ดเลยครับ เป็นภาพที่เท่ห์จริง ๆ บลัดดี้เก็บปฏิทินเสร็จหันกลับมาเห็นหัวเราะเยาะครับ ฮ่าๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ คงเป็นภาพที่มันเห็นแล้วน่าสมเพสมาก 




“เป๊งค์…!!!”    แต่หมดยกเสียก่อน 





สุรเดช ส. เยลลี่กลับเข้ามุม เหงื่อแตกซิกเลยครับ เจ้าตัวคงงงว่ารอดมาครบยกได้ยังไง พี่เลี้ยงศุภโชคกับไนท์หนุ่มรีบเข้ามาให้น้ำให้ท่า สุรเดชดีขึ้นมั้ย สีหน้าค่อยยังชั่วครับ 

ไนท์หนุ่มเอาพินัยกรรมมาให้เซ็น ส่วนศุภโชคกำลังใช้ปากจับพลั่วขุดหลุมข้าง ๆ เวที กะว่ายกนี้ไม่รอดแน่ ๆ 

สุรเดชเห็นแบบนี้กลับไปเหงื่อตกอีกครั้ง บลัดดี้นั่งขำอยู่ที่มุม รอเสียงระฆังดังเท่านั้น แชมป์สมัยที่ 5 ปูพรมรออยู่แล้ว 




“เป๊งค์…!!!” 



เอาแล้วครับ ยก 2 เริ่มขึ้นแล้ว บลัดดี้เดินแยกเขี้ยวเข้ามาแล้วครับ คงไม่มีเล่นสนุกอีกแล้ว เก็บภายในยกนี้แน่ ๆ สุรเดชคงรู้ตัวครับ ไหน ๆ ก็จะต้องตายอยู่แล้ว ขอตายเท่ห์ ๆ หน่อย 

สุรเดชเอาการ์ดขึ้นมาคาบไว้ที่ปากอีกแล้วครับ เหมือนปลายยกที่แล้วเลย แต่คราวนี้เพิ่มเอียงซ้าย 45 องศา เท่ห์มากครับ แฟนๆ ที่มาเชียร์กรี๊ดทั้งน้ำตาเลย เพราะนี่คงเป็นภาพสุดท้ายที่เราจะได้เห็น ไดอารี่ฉบับล่าสุดที่เราได้อ่านคงไม่มีอีกแล้ว ที่เหลือคงรวมแล้วเย็บเล่มแจกหน้างานศพ 


ศุภโชคขุดหลุมเสร็จแล้วครับ หลุมเบ้อเร่อเลย คงกะว่าพ่วงศพกรรมการด้วยอีกคน เพราะรายนั้นก็อาการร่อแร่ไม่แพ้กัน ยังเดินไร้สติอยู่บนเวที เลือดที่พุ่งมาจากกลางหัว เลอะชุ่มพื้นเวทีมันช่างได้บรรยากาศสังเวียนเลือดจริง ๆ ขนาดห้ามเลือดยังเอาไม่อยู่เลย 

ไนท์หนุ่มนิมนต์พระมารอแล้วครับ พวงหรีด ดอกไม้จันทน์อะไรก็พร้อมแล้ว ขาดแต่เจ้าของงานอย่างเดียว กลับไปที่สังเวียนต่อ บลัดดี้มาแล้วครับ!!! มันเปลี่ยนจากเดินมาเป็นวิ่งแล้ว ตึกๆๆๆๆๆ พอได้จังหวะเทคออฟ บลัดดี้กระโดดขึ้น!!! ง้างหมัดขวาสุดแรง เศษเยลลี่กระจายแน่ครับคราวนี้ ไม่มียั้งแล้ว เป้าหมายอยู่ที่รสสตอว์เบอรี่ เชื่อเลยว่าแฟนคลับโพริ่งสุรเดชหลายคนคงปิดหนังสือเลิกอ่านไปนอนร้องไห้แล้ว เพราะรู้ชะตากรรม 



 แต่... แต่ว่า!!! 



“พึ่บบ!!!” สุรเดชใช้แรงทั้งหมดที่มีอยู่ร่อนการ์ดโพริ่งออกมาจากปาก โอ้วว... การ์ดหมุนติ้ว แล้วก็เฉือนเข้าที่ตาซ้ายของบลัดดี้ที่ลอยกลางอากาศอย่างจัง เท่ห์อีกแล้วครับ 

สุรเดชคงคิดว่า ไหนๆ ก็จะไม่รอดแล้ว ขอฝากบาดแผลเล็กๆ ไว้ก่อนตายสักหน่อยก็แล้วกัน โอ... แต่รู้สึกจะไม่ใช่แล้วครับ!! ผลของการร่อนการ์ดท่าจะมีอะไรที่มากกว่านั้น

บลัดดี้เสียจังหวะไปเลยครับ เพราะเลือดเข้าตา หมัดที่ปล่อยออกพลาดเป้าแล้วครับ สุรเดชรอดได้อย่างหวุดหวิด บลัดดี้ลงสู่พื้นเสียงดังสนั่น!!! แต่... แต่เบรกไม่อยู่ครับ ด้วยความแรง และบวกกับที่พื้นสนามเปียกเลือด ร่างของบลัดดี้สไลด์เลยสุรเดชไปแล้ว มันไปทางมุมของสุรเดช!! 

ไนท์หนุ่มกับศุภโชคเห็นแล้วครับ แต่ยืนขาสั่นทำไรไม่ถูก บลัดดี้พยายามกลับตัว!! แต่ด้วยน้ำหนักที่มหาศาล มันกลายเป็นการใส่เกลียวแบบ จา พนม ซะยังงั้น 

ร่างของบลัดดี้ชนทะลุขอบเวทีออกไป ลอยขึ้นเหนือฟ้า ตอนนี้บลัดดี้หมดสติไปแล้ว เพราะเวียนหัวอย่างแรง เกิดมายังไม่เคยใส่เกลียวขนาดนี้ 


ตอนนี้ผู้ชมนั่งไม่ติดแล้วครับ!!! ร่างของบลัดดี้กำลังจะตกเวที แชมป์ที่เขาคิดว่ามันแสนง่าย ไม่แน่นอนแล้ว



“โครมมมม!!!!!” 



และแล้วร่างของบลัดดี้ก็ร่วงลงสู่นอกเวที.... ตรงจุดที่ศุภโชคขุดหลุมฝังศพไว้ พอดีเป๊ะ... จบข่าว 

บลัดดี้ไม่อยู่ในสภาพที่สู้ต่อได้ ผู้ชนะไม่ใช่ ไม่ใช่... ...เขา.... 


ทุกชีวิตที่ ซอกหลืบ อารีน่า ยังอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น 




“นิวแชมเปี้ยน!!!! ไฟท์เตอร์ สุรเดชชชช!!!!” 




กรรมการใช้แรงเฮือกสุดท้ายพูดชื่อของแชมป์เปี้ยนคนล่าสุด ก่อนที่เขาจะสิ้นใจเพราะเลือดออกหมดตัว จากนั้นเสียงเฮก็ดังขึ้นตอนรับแชมป์คนใหม่อย่างเอิกเกริก 

สุรเดชอยู่ในอารมณ์ไม่แน่ใจ ว่าเขาควรจะดีใจหรือเสียใจดี เพราะเมื่อเขาเป็นแชมป์ การต่อสู้มันก็จะต้องมีต่อไป แล้วเขาจะมีจุดจบน่าทุเรศเหมือนบลัดดี้หรือเปล่า 

สุรเดชกระดึ๊บลงจากเวที ก่อนที่ประธานจะอัญเชิญเข็มขัดแชมป์มาให้ ไนท์หนุ่มกับศุภโชคทำท่าจะเข้าไปถาม แต่สุรเดชก็ใช้ปีกผีเสื้อวาร์ปหนีไปเสียก่อน 



ทั้งสนามเงียบกริบกับสิ่งที่เกิดขึ้น..... 



นักสู้คนนั้นกลับไปแล้ว..... เขาทิ้งร่องรอยการต่อสู้ ชัยชนะ ความพ่ายแพ้ และความตายไว้ตรงที่เดิม โดยที่ไม่คิดกลับไปมองมันอีกเลย 


นี่อาจเป็นชะตากรรมของการต่อสู้ แม้ไม่ชอบเราก็ต้องเจอมัน ตราบใดที่ยังมีคนที่ต้องการเป็นผู้ชนะ และคนที่ชอบเยาะเย้ยผู้แพ้


THE END.....


วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559

เกรียนกรึ่มกรึ่ม ตอน โภชนาเกม

(ต้นฉบับ ม.ค. 59)

ท่ามกลางการเวลอันยาวนาน.....

ท่ามกลางการบวกอันยืดเยื้อ.......

แม้งานหลักเราจะเดินด้วยใจอันมุ่งมั่น แต่กองทัพอย่างไรก็ต้องเดินด้วยท้อง เล่นเกมไปหากไร้เรี่ยวแรง... ก็ต้องหาอะไรกิน

เป็นเวลานานแล้วครับ ที่ผู้สนับสนุนหลักเหล่านี้ได้อยู่กับเรามา และคาดว่าน่าจะอยู่ตลอดไป ถ้าเครื่องเกมไม่ระเบิดใส่หน้าพวกเราตายซะก่อน เหล่าของกินเกรดพรีเมี่ยมของเกมเมอร์ ภายใต้สโลแกน Fast and Easy ง่ายและรวดเร็ว 


ไม่เชื่อเข้าร้านเกม ไปดูซากอารยธรรมหน้าโต๊ะกันได้ ถ้าไม่มี อมขี้หมาสดมาพ่นหน้าออฟฟิต OS เลยมา ผมจะยืนรับดาเมจอย่างแมน ๆ

ว่าแต่มันมีอะไรบ้างล่ะ



ชาเขียว

เครื่องดื่มมาตรฐาน ที่อยู่คู่หน้าจอมากกว่า 10 ปี  เอ่อ ประโยชน์ของชาเขียวช่างแม่งเถอะครับ เพราะเรากินน้ำตาลมากกว่าอีก ประโยชน์หลักคือกินแล้วสดชื่น ประโยชน์รองคือบางยี่ห้อมีโอกาสได้โชค เงินล้าน ทองคำ ไอโฟน เบาหวาน ความดัน บางทีก็สงสัยนะว่าพวกเราชอบกันจริง ๆ หรือกินเพราะมันสิ้นคิดกันแน่ เพราะเหลือบมองตู้น้ำในร้านเกม ขวดชาเขียวเรียงเป็นตับเลย ล่อให้ซื้อซะเหลือเกิน




เอ็มร้อย

ไอเท็มเสริมของสายลาก ไม่ใช่ลากมอนส์..... รากเลือด ลากมาตั้งแต่เที่ยงคืน มีชาเขียวที่ไหน ต้องมีเอ็มร้อยเคียงคู่เสมอ คาดว่าชาเขียวเอาไม่อยู่

สำหรับประสบการณ์เอ็มร้อย (หรือพวกชุกำลังยี่ห้ออื่น) ครั้งแรกของเกมเมอร์หลายคน ล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เหมือนอัพโพชั่น ฟื้นทันทีในอึกแรก ร่าเริงในอึกที่สอง และอ้วกแตกในอึกที่สาม..... เดี๋ยว  ไม่ใช่ละ อันหลังนี่ล้อเล่น

และด้วยศักยภาพสุดยอดนี้นี่เอง คาดว่าเราคงจะโด๊ปกันต่อไปอีกนาน เพราะพวกเราไม่รู้จักคำว่าพักผ่อนเพียงพออยู่แล้ว






กาแฟไม่สด

อีกทางเลือกของสายลากยามค่ำคืน ยามตื่นสโลว์ไลฟ์ ถ้าไม่ถนัดโด๊ปเอ็มร้อย ก็จิบกาแฟเบา ๆ กันไป 

จริง ๆ กาแฟสดอร่อยนะ แต่เด็กสายร้านเกมงบไม่ค่อยถึง เห็นกระป๋องกับแก้วเนสกาแฟเกลื่อนเลย บางโต๊ะวางคู่กับเอ็มร้อยด้วยซ้ำ

อยากเดินเข้าไปถามจริง ๆ มึงจะกินให้เป็นอมตะเลยใช่มั้ย หลังก็ดีด ตาก็ค้าง นอนดีกว่ามั้ย



น้ำแร่

ตัวนี้ไม่รู้ติดโผมาได้ไง แต่ก็เห็นซากขวดมาจริง ๆ ตามร้านเกม เยอะด้วย เดาว่าเอามาดื่มล้างคอจากไอ้ 3 ข้อแรก 

แต่ก็ถือว่าแอบเข้ากันแปลก ๆ น้ำแร่ กับคนร่อแร่ อืมนะ ยังอุตส่าห์มีของดี ๆ เข้าตัวบ้าง ถึงจะคิดเป็น % อันน้อยนิดก็ตาม



ชาไข่มุก

กลับมาทำลายสุขภาพกันต่อ สำหรับคนที่เบื่อกินแต่น้ำ อยากหาอะไรเคี้ยวบ้าง ชาไข่มุกคือตัวเลือกที่ดี เพราะหาซื้อง่าย 

บอกคนขายใส่มุกเยอะ ๆ อ๊า!! จะได้ตลก ทุ้ย...... ไม่ใช่มุกตลก อืม แต่บางทีมันก็ตลกจริง ๆ ทุกครั้งที่ดูดมุกด๊วบเข้าลำคอ รู้สึกตัวเองเหมือนปลาแดกซากุระยังไงไม่รู้

ชาไข่มุกมีหลายเกรดครับ แต่เกรดที่เห็นตามร้านเกมบ่อย ๆ แน่นอน แบบปั่นเกล็ดแก้วละไม่เกิน 20 เพราะงั้นอย่าแปลกใจถ้าพ่อค้าจะเข็นรถมาดักหน้าร้านเกมอยู่ได้ค่อนวัน เพราะขายดีมาก เด็กร้านเกมเสมือนกินแทนข้าวเลยทีเดียว



น้ำอัดลมขวด


สุดยอดคลาสสิคมาตั้งแต่สมัยร้านเพลย์ 1 ตัดสายสะดือ ยาวนานมาจนถึงวันนี้ ทั้ง ๆ ที่ก็รู้อยู่ว่าประโยชน์แม่งไม่มีอะไรเลยนอกจากเพิ่มอัตราการเรอให้คนข้าง ๆ ได้ยิน 
แต่มันก็น่าคิดมั้ยล่ะ  ว่าของไร้ประโยชน์ขนาดนี้ คนที่กินเป็นนิสัยต้องใจถึงขนาดไหน นอกจอเขาไม่กลัวอะไร ในจอเขาก็ไม่มีอะไรให้กลัวเช่นกัน 

เดี๋ยวนะ  ทำไมเราต้องเขียนดึงบวกให้ขนาดนี้ด้วยวะเนี่ย




บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

รางวัลของกิน “ขวัญใจเกมเมอร์” ไม่ได้มาเพราะจับฉลาก อย่าว่าแต่เกมเมอร์เลย มวลมหาประชาชนทั้งประเทศเลยดีกว่า นี่แหละ Fast and Easy ของจริง ง่ายและเร็วมาก กดน้ำร้อนแล้ววางชามไว้หน้าจอได้เลย กินได้ทั้งร่ำรวยและยากจน

ถ้าเงินเยอะก็อัดท๊อปปิ้งเข้าไป บางคนโป่ะจนรวมราคาร้อยกว่าบาท ถ้าจนก็ใส่น้ำร้อนเพียว ๆ แต่ถ้าจนมากก็ซัดแห้ง แต่ถ้าจนกว่านั้นอีก แย่งเพื่อนกินแม่งเลย 

เห็นมั้ย ง่ายขนาดไหน เป็นอาหารที่สุดยอดทุกด้าน ยกเว้นด้านสารอาหารจริง ๆ



ข้าวกระเพรา

สำหรับร้านอาหารตามสั่งทำเลใกล้ร้านเกม  พูดเลย  เปิดเมนูเดียวขายได้ตลอดชีวิต ปลูกกระเพราในบ้านรอไว้ได้เลย 

ถ้ามีกระเพราน้อยก็เพิ่มถั่วฝักยาวเข้าไป พวกเราไม่ซีเรียส สั่งง่ายกินง่าย ภายใต้สโลแกน "หนึ่งคนสั่ง ทั้งร้านตาม" ทรงมันจะเป็นแบบนี้

สั่งคนแรกคือผู้นำ "กระเพราหมูสับจานนึงครับ" 

หลังจากนั้นเสียงเล็กเสียงน้อยจะตามมาทันที

"สองเลย!!" 

"กูด้วย สาม!!" 

"เฮ้ย กูเอาด้วย สี่!!"

ทวีคูณแบบนี้ คนขายแฮปปี้ แต่ที่ต้องระวังสำหรับคนสั่งช้าก็คือ อย่าไปเพิ่มจำนวนตอนเขาเริ่มทำไปแล้ว อัตราส่วนเนื้อและใบกระเพราบางจาน อาจจะออกมาแบบอุบาทว์มาก 

จานนี้หมูเพียบ ไร้กระเพรา ส่วนอีกจานกระเพราบานเลย หมูเหลือแค่วิญญาณ อีกจากหนักสุด ถั่วฝักยาวล้วน ๆ เสิร์ฟแล้วคนกินจิตตกเกิน





ข้าวไข่เจียว

เป็นเมนูอีกจาน ที่ทุกวันนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่า ระหว่างข้าวไข่เจียวกับข้าวกระเพรา จานไหนสิ้นคิดกว่า แต่ความง่ายไข่เจียวชนะขาดแน่ เพราะทอดกินกันเองได้เลย 

ในรายที่หลังร้านมีครัวหรือเตาแก๊สเล็ก ตอกกี่ฟองก็ได้ จ่ายทีหลัง ขูดหม้อข้าวกันสนุกสนาน 

แน่นอนยังอยู่ภายใต้สโลแกนเดิม "หนึ่งคนสั่ง ทั้งร้านตาม" 

ใครลุกไปทอดคนแรก เตรียมประจำการยาวอยู่หลังร้านได้เลย 

"เฮ้ย ทอดเผื่อกูด้วย" 

 "กูด้วย สามเลย"

ไอ้พวกขี้เกียจลุกเนี่ย แนะนำให้ใส่ผงชูรสช้อนพูน ๆ เอาให้แม่งบวกไปขนร่วงไปเลยสัส



หมู ไก่ กระเทียม

ติดโผมากะเขาเหมือนกัน สำหรับคนที่ชอบกินข้าวกับเนื้อเน้น ๆ ทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจคนกลุ่มนึงว่า สั่งข้าวกระเพราหมู แล้วมึงจะมานั่งเขี่ยใบกระเพรากับพริกออกทำไม ไม่สั่งหมูไก่กระเทียมเลยวะ

แต่เมนูนี้ต้องลุ้นหน่อย เพราะตามสั่งไม่ได้ทำเหมือนกันทุกร้าน บางร้านทอดแห้ง ๆ บางร้านใส่น้ำมันกับซอสเยอะ ออกมาเค็มชุ่มฉ่ำ

ส่วนใหญ่แบบหลังจะนิยมมากกว่า ยิ่งโป่ะไข่ดาวไม่สุกมาด้วยนะมึง โต๊ะข้าง ๆ มีเสียสมาธิแน่นอน



ไส้กรอก ลูกชิ้นปิ้ง

พูดชื่อแล้วน้ำลายก็ไหล เป็นของกินเล่นที่แทนข้าวได้ เพราะงั้นก็เลยเป็นที่นิยมอย่างไม่ต้องสงสัย

นึกภาพคนนั่งเล่นเกมอยู่หน้าร้าน มองไปหน้าร้านมีรถเข็นดริฟมาจอด ไอ้พวกที่เล่น ๆ อยู่ลุกไปกรูซื้อกันยังกะโดนของ สามารถจัดสรรราคาได้ตามความยากจน ตั้งแต่ไม้ละ 5-15 บาท 

เงินเยอะจัดหนัก เงินน้อยไม้เดียวพอ แล้วไปอัดผักฟรีแทน หลอกตัวเองว่าผักเพื่อสุขภาพ ทุกวันนี้ก็ยังฮิตอยู่ ส่วนใหญ่ชอบกินกันมื้อเย็น ๆ ไม่รู้ทำไม




เป็นไงบ้างครับ สังเกตว่าส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เป็นของกินที่ดีต่อสุขภาพเท่าไหร่

แต่ไม่ต้องห่วงครับ เราไม่ได้เล่นเกมตลอดเวลาฉันใด เราก็ไม่ได้กินของพวกนี้ทุกมื้อฉันนั้น

คิดซะว่าเป็นพรหมลิขิต ที่ชีวิตคนเล่นเกมต้องเจอ

เราไม่ได้กินเพื่อสุขภาพ แต่กินเพื่อเอาแรงไปถล่มให้ป่าราบ



ว่าแต่ อ่านจบแล้วหิวกันไหมล่ะ ผมนี่ไม่ไหวละ น้ำลายเลอะคีย์บอร์ดไปหมดแล้วเฟ้ย

วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2559

เกรียนกรึ่มกรึ่ม ตอน ล่อเหมียว เหมียวก็มา

(ต้นฉบับปี 2558)



เคยคิดมั้ยว่าเกมง่ายๆ ที่ดูเหมือนไม่มีอะไร จะฮิตเป็นกระแสขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ 

เนื่องจากตอนนี้ผมมีปัญหากับเรื่องหาเวลาเล่นเกมมาก ๆ งานหลักก็กินเวลาไปถึงเย็น ต้องดูแลเพจ เขียนคอลัมน์ แบ่งเวลาอ่านหนังสือ (การ์ตูนนะ) แล้วไหนจะงานนอกที่นึกจะงอก  ก็งอกมาอีก 

ระหว่างทำงานไปผมก็เคยนึกเล่นไปเพลิน ๆ นะว่า มันจะมีไหมวะ เกมที่ไม่ต้องใช้เวลากับมันมาก แต่มีของอะไรสักอย่างที่เล่นได้เรื่อย ๆ เล่นให้ตายยังไงก็ไม่เครียด ไม่ต้องแข่งกับใคร ไม่ต้องเติมเพชร (อันนี้เบื่อมาก ทำไมต้องเพชรวะ) ไม่ต้องใช้เน็ตด้วยยิ่งดี 

และที่สำคัญ อยากให้เป็นกระแสที่ใคร ๆ ก็เล่น ก็พูดถึง สร้างสังคมเล็ก ๆ ขึ้นมาได้…… ประมาณว่าเล่นแล้วอยากมีเพื่อนคุย เอ่อ คือ..... ก็กลัวเหงาน่ะแหละ 

แต่นึกดี ๆ แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไงวะ  จินตนาการซะเวอร์เลย ยิ่ง 2 ข้อหลังนี่ขัดแย้งกันชิบหาย  ไม่ต้องใช้เน็ต แล้วมันจะสร้างสังคมคนเล่นขึ้นมาได้ยังไง จะให้ประธานหมู่บ้านปั่นจักรยานโทรโข่งทำสำรวจแต่ละบ้านว่าใครเล่น แล้วส่งหมายนัดเจอที่สโมสรแอโรบิกทุกเย็นรึไง

แต่เชื่อกันมั้ยครับ ว่าอะไรที่เราคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่เรา "อยาก" ให้เป็น เน้นที่ความอยากเลย 

ขอเหอะ ขอให้มีความอยากเหอะ สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นจริงเสมอ 

เกมที่ใช้เวลาเล่นไม่มาก แต่เล่นได้เรื่อย ๆ ไม่เครียด ไม่แข่ง ไม่ต้องเติมเพชร ไม่ใช้เน็ต และเป็นกระแสที่ใคร ๆ ก็เล่นกัน คุยกันได้เธอเล่น ฉันเล่น 

เกมล่อน้องแมว เนโกะอาสุเมะ (Neko atsume) คือเกมที่ตอบโจทย์พวกนี้ได้ครบทุกข้อ





นี่คือเกมโมบายที่ผมแทบจะยกให้เป็นเกมแห่งปีเลย มันสุดติ่งแมวเหมียวมาก  ผมเคยบอกไปแล้วว่า เกมที่เป็นกระแส เราไม่ต้องออกตามหาอะไรทั้งนั้น แค่นอนเกาไข่ไปวัน ๆ สักวันมันก็จะเข้ามาหาเราเอง และมันก็มาจริง ๆ 

ที่ประทับใจแต่แรกกับเกมนี้ก็คือ เกมน้องแมวมาแบบเป็นมิตรมาก ๆ ไม่มีคำเชิญเตือนเด้งให้รำคาญลูกตา ไม่มีใครออกมาด่าให้สงสัยว่าเขาด่าเกมอะไร แต่มันมาเป็นภาพเลย คือไล่อ่านไทม์ไลน์อยู่ดี ๆ เฮ้ย ทำไมมีแต่รูปแมววะ คนนั้นก็อวด คนนี้ก็อวด คือเหมือนแชร์กันเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็เล่นกัน ทำให้ วูบแรกที่เห็น เกมนี้ก็กลายเป็นชีวิตส่วนนึงของใครหลาย ๆ คนไปแล้ว 

อ้าว.... เค้าเล่นกันหมด แล้วเราไม่ได้เล่น 

ความรู้สึก ณ จุด ๆ นั้นจะเหมือนตัวเองเป็นคนนอกประเทศมาก ๆ 

อืม  แล้ว แล้วกูทำอะไรอยู่วะเนี่ย เจ็บนะเว้ย มีกระแสอะไรดีงามทำไมไม่บอกกันบ้าง 

เอาจริงตอนนั้นไม่ได้อยากเล่นอะไรหรอกครับ แต่ความสงสัยมันมาเต็มเลยว่ามันคืออะไรวะ และประโยคคลาสสิคก่อนติดเกมก็มา

"แม่งสนุกตรงไหนวะ" 

ในที่สุดมันก็เข้าตัวครับ มาถึงตัวผมละ ถึงคราวน้องที่สนิทเอามาอวดบ้าง นี่ ๆ พี่ดูแมวหนูสิ เต็มบ้านเบย 

แล้วมาถามผมด้วยนะ แมวพี่เป็นไงบ้าง?? 

เฮ้ย…. ทำไมถามเหมือนเป็นเรื่องปกติยังงั้นล่ะ เข้ากลางเรื่องเฉยเลย ไม่ถามก่อนวะว่าเล่นหรือเปล่า เอาละไง จะตลกกลบเกลื่อน แมวไม่อยู่หนูก็ร่าเริงไง..... ก็คงไม่ตลก ก็ไม่รู้ทำไง เลยตอบแมน ๆ ไปเลยว่า ไม่ได้เล่นโว้ย ไม่รู้จักเลยด้วย สอนกูที 

ก็แน่นอนประโยคคลาสสิคต้องได้ยิน โหย…. พี่ไปหลงป่าหลงเขาที่ไหนมา ใคร ๆ เค้าก็เล่นกัน 

อืม มึงจะทำให้กูรู้สึกผิดไปถึงไหนวะเนี่ย รีบเทรนให้ไวเลย อยากรู้นักมันสนุกตรงไหน ถ้าชาตินี้ไม่ได้เล่นมันจะถึงตายมั้ย 

โอ๊ย เล่นง่ายพี่ นี่นะ…. หนูจะพูดรอบเดียวไม่รีพีท เราก็เอาของ เอาอาหารมาวางล่อแมวนะ พอแมวมามันก็จะเอาปลามาให้เรา แล้วเราก็เอาปลาไปซื้อของมาล่อแมวอีกที แค่นี้แหละ จบ!! 

แค่เนี้ย  ล่อแมวเอาปลา เอาปลาซื้อของล่ออีกทีนึง มีอยู่แค่นี้จริงดิ ไอ้ชิบหาย…. แล้วความสนุกความตื่นเต้นมันอยู่ตรงไหนวะ 

ตอนแรกเห็นภาพนึกว่าเป็นเกมไล่จับแมว คนทำเกมมันจะมักง่ายเกินไปมั้ยเนี่ย

เออน่าพี่ ลองเล่นดู แล้วพี่จะรู้ว่าทำไมมีแต่คนติดเกมนี้งอมแงม 

ผมนึกในใจ พูดเป็นเล่น มันดูไม่มีอะไรเลยนะเนี่ย 




อร๊ายยย นั้ลล๊ากกกกก……!!! 




และนี่คือเสียงที่ตอแหลที่สุดในชีวิตผม สาบานเลยว่าไม่เคยทำตัวแบบนี้ให้กับเกมไหนในโลก พอเริ่มเล่นผมก็ทำตามที่มันสอนเลย ไอ้ตอนวางของล่อยังไม่มีอะไร 

แต่ผ่านไปสักพักเท่านั้นล่ะ แมวมา 2 ตัว !!...... 

เฮ้ย ๆ ๆ ๆ  แมวมาแล้วว 






อรั๊ยยยยยย นั้ลล๊ากกกกกก 

คือผมแม่งเก็บอาการไม่ได้เลย เหมือนโดนของ โดนไสยศาสตร์อะไรสักอย่างที่ทำให้สีหน้าท่าทางควบคุมไม่ได้ มุ๊งมิ๊งกิงก่องแก้ว ดัดจริต ดอกทองขึ้นมาทันที 

วินาทีนั้นเข้าใจละว่าทำไมเค้าเล่นกันทั้งบ้านทั้งเมือง เพราะมันนั้ลล๊ากก ยังงี้นี่เอง 

สรุปคือพวกที่ติด ก็คือพวกแพ้ทางน่ะแหละครับ หนึ่งเลยแพ้ทางแมว.... บางคนชอบแมวเป็นทุนอยู่แล้ว สองคือแพ้ทางลายเส้น ลายเส้นในเกมเป็นลายเส้นง่าย ๆ แต่จุ๊มุ๊มาก (ไม่รู้จะใช้คำไหนละ) สังเกตที่จมูกกับปากแมว มันจะแบบ...จุ๊มุ๊ คือมันน่ารักแบบไม่มีเหตุผล เห็นแล้วกฎหมายบังคับให้น่ารักเลยทันที 

แล้วแมวมันจะกลม ๆ อ้วน ๆ กำลังดีทุกตัว บอดี้เวทเท่ากันหมด ยัง.... แต่นี่ยังไม่พอ ถ้ายังนั๊ลล๊ากไม่พอ ต้องดูต้องน้องแมวเล่นของล่อ มันจะเป็นภาพเคลื่อนไหวซ้ำไปซ้ำมา ทำให้ความนั๊ลล๊ากคูณ 2 เข้าไปอีก บางคนนี่นั่งดูแล้วยิ้ม…. เยิ้มเหมือนเมากาวยังไงไม่รู้ 

บางคนเลี้ยงแมวจริง ๆ อาจลืมแมวที่บ้านไปเลย 





ถ้าถามผมว่าความพีคของเกมนี้มันอยู่ตรงไหน.... ไม่มีจุดพีคครับ มีแต่เรื่อย ๆ 

อ้เรื่อยๆ นี่แหละน่ากลัว กลัวว่าจะเลิกยาก วัน ๆ ก็ซื้อของไปเรื่อย ๆ เก็บปลาสีทอง (ที่คุณสมบัติคล้ายๆ เพชรน่ะแหละ ใช้เงินจริงซื้อได้ด้วย) เก็บได้เยอะก็ซื้อของอีก เบื่อฉากเก่าก็รอเปลี่ยนฉากกันเบื่อกันไป 

ผมคารวะแนวคิดของเกมนี้เลย ปรัชญาที่บอกว่าเรียบง่ายคือใช่ มันใช่จริง ๆ ยิ่งยุคนี้เราตามหาความง่ายในการใช้ชีวิตกันด้วย เกมนี้เลยโดนใจใครหลาย ๆ คนอย่างจัง บางคนไม่ชอบแมว แต่ชอบเกมนี้ก็มีเยอะ 

เกมนี้ต้นฉบับเป็นญี่ปุ่นนะครับ แต่ขอทิ้งท้ายแบบให้คิดกันเล่น ๆ ถ้าเราเอามาทำเป็นเวอร์ชั่นไทย อะไรมันจะเกิดขึ้น 

พวกเราจะเลี้ยงอะไรกันดี หมาสามขา ตุ๊กแกตัวเท่าเหี้ย คางคกสีทอง เปิดโหมดล่อพญานาค จับจระเข้ตอนน้ำท่วมกันแน่นอน 

เฮ้ย ของเราเจ๋งกว่าเยอะอ่ะ 

แค่คิดก็เร้าใจกว่าน้องแมวแล้วนะเนี่ย !!