(ต้นฉบับปี 2548)
ชีวิตนั้นคือการต่อสู้ การต่อสู้คือชีวิต
บู๊ล้างจาน เฮ้ย! ไม่ใช่ บู๊ล้างผลาญกันให้มันส์หยด ใน…
RO ซอกหลืบ Fighter...!!!!
“เป๊งค์..!!”
“เฮ้ย ยังโว๊ย อย่าเพิ่ง ไอ้เด็กบ้า อย่าสั่นระฆังเล่นสิวะ”
ท่านผู้อ่านทุกท่าน สวัสดีและขอต้อนรับเข้าสู่สังเวียนเลือดที่ชาวมิดการ์ดรู้จักกันดี
“ซอกหลืบ อารีน่า ไฟท์เตอร์ สเตเดี้ยม!!!”
โอ พอใช้ชื่ออังกฤษแล้วมีชาติตระกูลมั่ก ๆ แต่ดันเขียนอังกฤษไม่ถูกเพราะเรียนน้อย
เออ ว่าแต่ซอกหลืบนี่ภาษาอังกฤษเหรอ ใช่มั้ง..... โอเค ช่างมันก่อนเถอะ
ที่นี่ครับ ที่แห่งนี้ ก่อนอื่นผู้อ่านกรุณานึกภาพสนามต่อสู้ของชาวกรีกโรมัน แบบประมาณแกรดดิเอเตอร์มาเอง นึกเลยครับ เดี๋ยวนี้เลย ช่วยกันทำมาหากินนิดนึง อย่าให้ต้องใช้กำลัง
นึกออกมั้ยครับ ถ้านึกไม่ออกอนุโลมให้เป็นเวทีชนไก่ก็ได้ แต่อรรถรสความมันจะน้อยลง
ที่แห่งนี้มีตำนานนะครับ เมื่อหมื่นปีเศษที่ผ่านมา เทพเจ้า "อริสโต้ สตอยคอฟ" ได้ลงประมือกับจ้าวแห่งปีศาจ "ไทลิน่อล ทิฟฟี่ มอนสเตอร์" โดยมีเดิมพันเป็นเจ้าหญิงรัชทายาทแห่งอาณาจักรแอนฟิลด์
ระหว่างพักยก มีรถเข็นส้มตำไก่ย่างเข้ามาขายในสนาม ทั้งคู่สั่งตำลาวใส่ปูทะเลแอนตาร์คติค แม่ค้าใช้เวลาตำ 4 ช.ม. ถ้วน นานมาก ๆ เหตุเพราะปูทะเลแอนตาร์คติคเป็นปูที่แข็งแรงโคตร มันดิ้นสู้และปล่อยแสงจนเฮือกสุดท้ายเท่าที่ทำได้
เห็นมั้ย ตำนานจริง ๆ นอกจากมีตำนานแล้ว ยังแถมตำอึดอีกต่างหาก เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย พอเลย เริ่มมาก็เขียนอะไรเลอะเทอะอีกแล้ว
เอาล่ะครับ ขณะนี้เวลา 19 นาฬิกา ได้เวลาที่ทุกคนรอคอยแล้วครับ หลังจากปล่อยให้นักมวยคู่ โท ตรี จัตวา ต่อยเรียกน้ำย่อยมาตั้งแต่ช่วงบ่าย ได้เวลาถึงมวยคู่เอกแล้วครับ
ขณะนี้นักมวยคู่เอกกำลังเดินเข้าสู่ไฟท์เตอร์สเตเดี๊ยม ท่ามกลางผู้ชมเต็มความจุสนาม 3 หมื่นคน เพื่อบำบัดอารมณ์ของผู้ชมกำลังที่หื่นกระหายอยากเห็นความเจ็บปวดที่เขาไม่ต้องรู้สึก เลือดที่เขาไม่ได้หลั่งเอง และชัยชนะที่เขาใช้เงินเดิมพันไว้ ขณะนี้คาดว่าผู้อ่านก็คงหื่นตามไปด้วย ไม่รอช้า เข้าสู่สังเวียนเลยดีกว่า
ฝ่ายแดงครับ!!! เชิญพับกบ พบกับปีศาจธาตุมืด “บลัดดี้ ไนท์!!! ลูกเจ้าพ่อนิ๊งหน่อง”
อสูรร้ายผู้ผูกขาดตำแหน่งแชมป์แห่งอารีน่า ไฟท์เตอร์ แชมป์ 4 สมัยติดต่อกันจนถึงปีล่าสุด
เจ้าของฉายา “ไอ้โหดเลือดหมู” สาเหตุที่ได้ฉายานี้มาก็ตรงตัวครับ เนื่องจากมันมีนิสัยโหดร้ายไม่เกรงใจนรก แถมยังชอบกินต้มเลือดหมูปากซอยเสนาอีก
เจ้าบลัดดี้นี่เป็นมวยพันธุ์ดุโดยสายเลือดครับ หมอดูหลายท่านลงความเห็นแล้ว สืบความมาว่าดุไล่มาตั้งแต่โคตรเหง้า พ่อโหดดุ แม่ดุโหด ยิ่งตัวลูกนี่ไม่ต้องพูดถึง คน สัตว์ สิ่งของ เห็นยังหลีกทางให้ กระเป๋าสองแถวไม่กล้าเก็บเงิน แค่ชายตามองคู่ต่อสู้ขนเขินก็ลุกชูชัน ขาสั่นเพิม สุดท้ายก็จบด้วยการนั่งร้องขอชีวิต ท่ามกลางสายน้ำหลั่งไหลกลางหว่างขา
น่ากลัวขนาดไหน ขนาดพี่เลี้ยงยังไม่มีเลย คิดดูละกัน เพราะดุเกินกว่าใครจะเลี้ยงได้ เอากะมันสิโว้ย
สำหรับประวัติการชกของฝ่ายแดง เจ้าบลัดดี้นี่ผ่านการชกมาแล้ว 44 ครั้ง ชนะ 35 ครั้ง ชนะลูกโทษ 6 ครั้ง เสมอ 3 ครั้ง เกือบแพ้ 2 ครั้ง ดิวส์ 4 เกม 5 เบอร์ดี้ 1 อีเกิ้ล ไม่เสียโบกี้ ติดคุก 1 ครั้ง ข้อหาวิ่งราวกระเป๋าตังค์คู่ชก แถมยังพ่วงรางวัลนักสู้สุขภาพดีอีก 1 รางวัลจากสถาบันเพ็ดดีกรี
บลัดดี้เป็นเจ้าของสถิติไร้พ่ายทุกครั้งที่ลงแข่ง คู่ชกตายคาเวที 4 ศพ เสียชีวิตที่ ร.พ 7 ศพ เสียชีวิตระหว่างทาง 3 ศพ ประสาทหลอน 2 คน จำทางกลับบ้านไม่ได้ 6 คน ผื่นขึ้นอีก 3 คน โอย กี่คนแล้วเนี่ย ช่วยนับหน่อย
เอาครับ ข้ามมาดูฝั่งผู้ท้าชิงกันบ้าง ฝ่ายชมพูอ่อน!!! “สุรเดช ส. เยลลี่บุกผงพนาไพร เกรียงไกรเลิศหล้า ภูผาสะท้านล้านศพ พิภพธรณีกรรแสง...ฯลฯ”
โอย ชื่อค่ายมันยาวเหลือเกิน ไว้ฉบับหน้าค่อยมาพิมพ์ต่อ
ตอนนี้มาทำความรู้จักกับเขาก่อนดีกว่า ก็สำหรับสุรเดชนี่เป็นนักสู้เชิงเทคนิคครับ ใช้หัวสมองเป็นส่วนใหญ่ ก็แหงล่ะ เพราะแม่งเสือกมีแต่หัวนี่หว่า ขนาดปริมาตรน่าจะเท่าๆ กับโอ่งมังกรเบอร์ 7 เส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เมตร นิสัยรักสงบตามแบบฉบับเผ่าเยลลี่
ประวัติการชกไม่มีครับ ทั้งชีวิตยังไม่เคยต่อยกับใครอย่างเป็นทางการ เคยขบหัวเพื่อนชื่อศุภโชคแค่ครั้งเดียว นอกนั้นเป็นฝ่ายโดนกระทำตลอด
จะว่าไป สมรรถภาพของนักสู้ฝ่ายชมพูอ่อนนั้นเป็นอะไรที่อึดมาก ๆ ทั้งโดนด่าโดนล้อเรื่องการ์ด โดนชุบแป้งทอดก็ยังไม่เป็นอะไร ปะทะแขนเหล็กก็เคยมาแล้ว ปากกาเสียบทะลุปากก็ยังรอดมาได้ โอ ไม่เชื่อได้โปรดอย่าลบหลู่ ไม่ใช้สลิง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน ไม่เล่นของด้วย ความสามารถล้วน ๆ
น้ำหนักทั้งคู่ ฝ่ายแดงชั่งตอนเช้าได้ 70 ตันถ้วน ส่วนฝ่ายชมพูอ่อน 70 กิโลกรัมถ้วน เลขเท่ากันครับ แสดงว่ารุ่นเดียวกัน แต่ทำไมความรู้สึกเหมือนลูกหมาท้าสู้ก็อตซิลล่ายังไงไม่รู้ ช่างมันเถอะ
“กรี๊ซซ.... แฮ่” โอ... ผมได้ยินเสียง เสียงนี้มัน ไม่ได้แล้วครับ บลัดดี้คำรามแล้ว เป็นสัญญาณว่าหงุดหงิดมาก อ่านขายหัวเราะสิบเล่มก็ไม่หายแน่นอน สงสัยคงเดือดที่ปล่อยให้รอหลายย่อหน้า
“โฮ่ง...! โฮ่ง...!!” แย่แล้ว บลัดดี้เห่าแสดงว่าหงุดหงิดใหญ่แล้วครับ กรรมการไม่รอสปอนเซอร์แจกของแล้ว สั่งคู่ชกเข้ามากลางเวทีเลย
ต้องเริ่มแล้วครับ ต้องเริ่มแล้ว เพราะไอ้บลัดดี้มันเริ่มมองกรรมการแปลก ๆ น้ำลายไหลด้วย ไม่ใช่พิศวาสจับกดแน่ ๆ ออกแนวหิวชัด ๆ
ถ้ากล้องตัดภาพไปอีกมุมจะเห็นสุรเดช ส. เยลลี่ฯ เหงื่อแตกทำท่าจะหนีกลับบ้าน พี่เลี้ยงศุภโชคกับไนท์หนุ่มต้องรีบเข้ามารั้งไว้เลยครับ เอาน้ำแอปเปิ้ลมาล่อด้วย ได้ผลมั้ย...
ได้มั้ย โอ ได้ครับ!! สุรเดชกลับเข้าสังเวียนด้วยน้ำตานองหน้าเลย ลูกผู้ชายกระทิงแดงจริง ๆ กล้องตัดไปที่มุมอีกที เห็นไนท์หนุ่มกับดร็อปศุภโชคทำท่าเยส ๆ พร้อมกัน
“เป๊งค์..!!!”
เอาล่ะครับ เสียงระฆังดังขึ้น คราวนี้ของจริงแล้วครับ เสียงเชียร์กระหึ่มพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ไม่ต่อยไม่ได้แล้ว ไม่ต่อยไม่ได้แล้ว บลัดดี้ปรี่เข้าหาสุรเดชทันที!!
สุรเดชทำไงครับ กลิ้งถอยหลัง แล้วก็... โอ ออกมาแล้วครับ เสต็ปฟุตเวิร์คแห่งทุ่งป่าโพริ่งอันลือลั่น !! ต้องอธิบายนิดนึงครับ ท่านี้เป็นวิชาลับที่สืบทอดมาตั้งแต่โบราณกาลของเผ่าเยลลี่ เป็นการเร่งเซลล์ปีโป้ให้สั่นสะเทือนโดยแรง ทำให้ตัวสั่นไปมาคล้ายเต้นฟุตเวิร์ค ซึ่งเผ่าเยลลี่ส่วนใหญ่ใช้หลอกผู้เล่นที่จะเข้ามาจู่โจม ประมาณว่าของขึ้น ให้คิดว่าจะกลายร่างเป็นดาร์คลอร์ดแล้วนะ
ท่านี้จะใช้ต่อเมื่อมีภัยจวนตัวจริง ๆ เท่านั้น จวนตัวนะครับ ไม่ใช่ จวน จี ฮุน โอ๊ย...!! การต่อสู้กำลังตื่นเต้น จะตลกทำไมวะเนี่ย
ตัดกลับมาที่เวที ดูเกมต่อ โอ... ไม่ครับ ท่าฟุตเวิร์คสงสัยจะไม่เวิร์คดั่งชื่อท่าซะแล้ว เจ้าบลัดดี้ใช้เท้างัดสุรเดชขึ้นเหนือหัวแล้วพักไว้ ไม่ต่างอะไรกับลูกฟุตบอลเลยครับ ผู้ชมโห่ร้องกันใหญ่ เอาล่ะครับ เจ้าบลัดดี้เริ่มตอบสนองความต้องการของคนดูและสื่อมวลชนแล้ว ค่อย ๆ ปล่อยให้สุรเดชกลิ้งลงมาให้หน้าอกพักเดาะทีนึง จากนั้นก็โชว์เดาะด้วยข้างเท้าด้านใน!! ด้านนอก!!
สีหน้าสุรเดชทรมานเหลือเกิน บลัดดี้เปลี่ยนมาเดาะด้วยปลายเท้า ใช้เข่าเดาะ!! ใช้ไส้ติ่ง!! ถุงน้ำดี!! สนุกจริงๆ เจ้าบลัดดี้คงคิดว่ากำลังเล่นสนุกอยู่เป็นแน่ จะเก็บเลยเมื่อไหร่ก็ได้ (ปรี๊ดดด!!!) โอ๊ะ เสียงนกหวีดครับ เกิดอะไรขึ้น กรรมการวิ่งมาชี้เลย
โอวว.... แฮนด์บอลครับ บลัดดี้ทำแฮนด์บอล เดาะไปเดาะมาใช้มือพักซะยังงั้น แถมเป็นการจงใจด้วย เอาแล้วครับ อย่างต่ำก็ต้องใบเหลืองแล้วล่ะครับแบบนี้
กรรมการว่าไง ควักกระเป๋าแล้วครับ โอ้...!! ผู้ชมสนามฮือฮากันใหญ่ ไม่ใช่ทั้งใบเหลืองและแดงครับ เป็นปฏิทินนู๊ดรูปน้องซินนั่นเอง บลัดดี้ตาลุกวาวเชียว สงสัยชอบของแปลก บลัดดี้รับแล้วรีบเอาไปเก็บไว้ที่มุม ตอนนี้สุรเดชสะบักสะบอมเหลือเกินจริง ๆ แต่ก็ยังยืนหยัดที่จะลุกขึ้นสู้ เหตุการณ์จะเป็นยังไงต่อไป
ขอย่อหน้าอีกทีครับ ตัวหนังสือแน่นเหลือเกิน ถึงตอนนี้เจ้าบลัดดี้กลับเข้ามาในสนามแล้วครับ วิ่งง้างหมัดมาแต่ไกล!! สุรเดชหลับตาปี๋เหมือนรู้ชะตากรรม ผลั้วว!!! เต็มๆ ครับ กลางกบาล!! เลือดพุ่งกระจาย แต่ไม่ใช่สุรเดชครับ เป็นกรรมการซะงั้น
เกิดอะไรขึ้น เจ้าบลัดดี้นิสัยโจรอีกแล้ว มันทำร้ายร่างกายกรรมการเพื่อจะเอาปฏิทินน้องซินอีกชุดครับ ทั้งหื่นทั้งโลภ กรรมการรีบควักให้หมดตัวเลย ไม่งั้นเดี๋ยวห้ามเลือดไม่ทัน เลือดพุ่งใหญ่แล้ว ดูเผิน ๆ นึกว่าน้ำพุเคลื่อนที่ เลือดชุ่มเวทีน่ารัก
จังหวะนี้สุรเดชถือเป็นโอกาสทองครับ ระหว่างที่บลัดดี้หันหลังให้ เขารวมรวบพลังแล้ววิ่งเข้ากระแทกข้างหลังทันที แต่บลัดดี้ไม่รู้สึกอะไรเลยครับ เดินเอาปฏิทินไปเก็บที่มุมหน้าด้าน ๆ กระแทกได้กระแทกไป
กระแทกไปได้ 15 นาที สุรเดชเริ่มรู้ว่าแผนน้ำหยดลงหินท่าจะไม่ได้ผล ถอยฉากออกมาครับ แล้วก็หยิบการ์ดโพริ่งออกมาคาบไว้ที่ปาก แฟน ๆ กรี๊ดเลยครับ เป็นภาพที่เท่ห์จริง ๆ บลัดดี้เก็บปฏิทินเสร็จหันกลับมาเห็นหัวเราะเยาะครับ ฮ่าๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ คงเป็นภาพที่มันเห็นแล้วน่าสมเพสมาก
“เป๊งค์…!!!” แต่หมดยกเสียก่อน
สุรเดช ส. เยลลี่กลับเข้ามุม เหงื่อแตกซิกเลยครับ เจ้าตัวคงงงว่ารอดมาครบยกได้ยังไง พี่เลี้ยงศุภโชคกับไนท์หนุ่มรีบเข้ามาให้น้ำให้ท่า สุรเดชดีขึ้นมั้ย สีหน้าค่อยยังชั่วครับ
ไนท์หนุ่มเอาพินัยกรรมมาให้เซ็น ส่วนศุภโชคกำลังใช้ปากจับพลั่วขุดหลุมข้าง ๆ เวที กะว่ายกนี้ไม่รอดแน่ ๆ
สุรเดชเห็นแบบนี้กลับไปเหงื่อตกอีกครั้ง บลัดดี้นั่งขำอยู่ที่มุม รอเสียงระฆังดังเท่านั้น แชมป์สมัยที่ 5 ปูพรมรออยู่แล้ว
“เป๊งค์…!!!”
เอาแล้วครับ ยก 2 เริ่มขึ้นแล้ว บลัดดี้เดินแยกเขี้ยวเข้ามาแล้วครับ คงไม่มีเล่นสนุกอีกแล้ว เก็บภายในยกนี้แน่ ๆ สุรเดชคงรู้ตัวครับ ไหน ๆ ก็จะต้องตายอยู่แล้ว ขอตายเท่ห์ ๆ หน่อย
สุรเดชเอาการ์ดขึ้นมาคาบไว้ที่ปากอีกแล้วครับ เหมือนปลายยกที่แล้วเลย แต่คราวนี้เพิ่มเอียงซ้าย 45 องศา เท่ห์มากครับ แฟนๆ ที่มาเชียร์กรี๊ดทั้งน้ำตาเลย เพราะนี่คงเป็นภาพสุดท้ายที่เราจะได้เห็น ไดอารี่ฉบับล่าสุดที่เราได้อ่านคงไม่มีอีกแล้ว ที่เหลือคงรวมแล้วเย็บเล่มแจกหน้างานศพ
ศุภโชคขุดหลุมเสร็จแล้วครับ หลุมเบ้อเร่อเลย คงกะว่าพ่วงศพกรรมการด้วยอีกคน เพราะรายนั้นก็อาการร่อแร่ไม่แพ้กัน ยังเดินไร้สติอยู่บนเวที เลือดที่พุ่งมาจากกลางหัว เลอะชุ่มพื้นเวทีมันช่างได้บรรยากาศสังเวียนเลือดจริง ๆ ขนาดห้ามเลือดยังเอาไม่อยู่เลย
ไนท์หนุ่มนิมนต์พระมารอแล้วครับ พวงหรีด ดอกไม้จันทน์อะไรก็พร้อมแล้ว ขาดแต่เจ้าของงานอย่างเดียว กลับไปที่สังเวียนต่อ บลัดดี้มาแล้วครับ!!! มันเปลี่ยนจากเดินมาเป็นวิ่งแล้ว ตึกๆๆๆๆๆ พอได้จังหวะเทคออฟ บลัดดี้กระโดดขึ้น!!! ง้างหมัดขวาสุดแรง เศษเยลลี่กระจายแน่ครับคราวนี้ ไม่มียั้งแล้ว เป้าหมายอยู่ที่รสสตอว์เบอรี่ เชื่อเลยว่าแฟนคลับโพริ่งสุรเดชหลายคนคงปิดหนังสือเลิกอ่านไปนอนร้องไห้แล้ว เพราะรู้ชะตากรรม
แต่... แต่ว่า!!!
“พึ่บบ!!!” สุรเดชใช้แรงทั้งหมดที่มีอยู่ร่อนการ์ดโพริ่งออกมาจากปาก โอ้วว... การ์ดหมุนติ้ว แล้วก็เฉือนเข้าที่ตาซ้ายของบลัดดี้ที่ลอยกลางอากาศอย่างจัง เท่ห์อีกแล้วครับ
สุรเดชคงคิดว่า ไหนๆ ก็จะไม่รอดแล้ว ขอฝากบาดแผลเล็กๆ ไว้ก่อนตายสักหน่อยก็แล้วกัน โอ... แต่รู้สึกจะไม่ใช่แล้วครับ!! ผลของการร่อนการ์ดท่าจะมีอะไรที่มากกว่านั้น
บลัดดี้เสียจังหวะไปเลยครับ เพราะเลือดเข้าตา หมัดที่ปล่อยออกพลาดเป้าแล้วครับ สุรเดชรอดได้อย่างหวุดหวิด บลัดดี้ลงสู่พื้นเสียงดังสนั่น!!! แต่... แต่เบรกไม่อยู่ครับ ด้วยความแรง และบวกกับที่พื้นสนามเปียกเลือด ร่างของบลัดดี้สไลด์เลยสุรเดชไปแล้ว มันไปทางมุมของสุรเดช!!
ไนท์หนุ่มกับศุภโชคเห็นแล้วครับ แต่ยืนขาสั่นทำไรไม่ถูก บลัดดี้พยายามกลับตัว!! แต่ด้วยน้ำหนักที่มหาศาล มันกลายเป็นการใส่เกลียวแบบ จา พนม ซะยังงั้น
ร่างของบลัดดี้ชนทะลุขอบเวทีออกไป ลอยขึ้นเหนือฟ้า ตอนนี้บลัดดี้หมดสติไปแล้ว เพราะเวียนหัวอย่างแรง เกิดมายังไม่เคยใส่เกลียวขนาดนี้
ตอนนี้ผู้ชมนั่งไม่ติดแล้วครับ!!! ร่างของบลัดดี้กำลังจะตกเวที แชมป์ที่เขาคิดว่ามันแสนง่าย ไม่แน่นอนแล้ว
“โครมมมม!!!!!”
และแล้วร่างของบลัดดี้ก็ร่วงลงสู่นอกเวที.... ตรงจุดที่ศุภโชคขุดหลุมฝังศพไว้ พอดีเป๊ะ... จบข่าว
บลัดดี้ไม่อยู่ในสภาพที่สู้ต่อได้ ผู้ชนะไม่ใช่ ไม่ใช่... ...เขา....
ทุกชีวิตที่ ซอกหลืบ อารีน่า ยังอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“นิวแชมเปี้ยน!!!! ไฟท์เตอร์ สุรเดชชชช!!!!”
กรรมการใช้แรงเฮือกสุดท้ายพูดชื่อของแชมป์เปี้ยนคนล่าสุด ก่อนที่เขาจะสิ้นใจเพราะเลือดออกหมดตัว จากนั้นเสียงเฮก็ดังขึ้นตอนรับแชมป์คนใหม่อย่างเอิกเกริก
สุรเดชอยู่ในอารมณ์ไม่แน่ใจ ว่าเขาควรจะดีใจหรือเสียใจดี เพราะเมื่อเขาเป็นแชมป์ การต่อสู้มันก็จะต้องมีต่อไป แล้วเขาจะมีจุดจบน่าทุเรศเหมือนบลัดดี้หรือเปล่า
สุรเดชกระดึ๊บลงจากเวที ก่อนที่ประธานจะอัญเชิญเข็มขัดแชมป์มาให้ ไนท์หนุ่มกับศุภโชคทำท่าจะเข้าไปถาม แต่สุรเดชก็ใช้ปีกผีเสื้อวาร์ปหนีไปเสียก่อน
ทั้งสนามเงียบกริบกับสิ่งที่เกิดขึ้น.....
นักสู้คนนั้นกลับไปแล้ว..... เขาทิ้งร่องรอยการต่อสู้ ชัยชนะ ความพ่ายแพ้ และความตายไว้ตรงที่เดิม โดยที่ไม่คิดกลับไปมองมันอีกเลย
นี่อาจเป็นชะตากรรมของการต่อสู้ แม้ไม่ชอบเราก็ต้องเจอมัน ตราบใดที่ยังมีคนที่ต้องการเป็นผู้ชนะ และคนที่ชอบเยาะเย้ยผู้แพ้
THE END.....
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น