วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2558

เกรียนกรึ่มกรึ่ม ตอน ดูเอลลิสม์เถื่อน





มีเกมอีกประเภทนึงครับ ที่สามารถปลุกความเกรียนที่หลับใหลอยู่ในร่างกายคุณให้ออกมาเริงร่าปาทังก้า เหมือนโดนของอะไรสักอย่าง ไม่แพ้พวกเกมที่ต้องพึ่งพาหน้าจอ ต้องใช้ไฟฟ้า


จะเรียกว่าเป็นการเกรียนแบบประหยัดพลังงานก็ได้


มันคือ "เกมการ์ด"


ซึ่งผมสามารถการันตีได้เลยว่า เกมการ์ดนี่แหละ ที่สามารถดึงความเกรียนออกมาได้อย่างน่าทึ่ง มันทำให้ผมนึกไปถึงเกมกระดาษสมัยที่ผมยังเด็กๆ 
เป็นงานแฮนด์เมดทั้งหมดนะครับ เขียนเอง วาดคาแรคเตอร์เอง กำหนดสกิลเอง ตั้งกติกาขึ้นมาเอง


แต่เกมการ์ดต่างจากเกมกระดาษตรงที่ว่า เกมการ์ดยังมีคนเล่นครับ เล่นกันเยอะด้วย แต่เกมกระดาษไม่มี


เกมกระดาษมีแต่ผู้ผลิตครับ แต่เสือกไม่มีคนเล่น นึกเอาในห้องผมมีผู้ชาย 30 คน เป็นผู้ผลิตเกมกระดาษซะ 20 มันจะเอาใครที่ไหนมาเล่นวะ ต่างคนก็ต่างมีเกมเป็นของตัวเอง ผมเองก็มี!! มันลำบากตรงนี้ 


ก่อนเล่นก็ต้องไปตกลงกับมันอีก
"เฮ้ย กูเล่นของมึงก่อนนะ พอเสร็จแล้วมึงค่อยมาเล่นของกูนะ"


มาบรรลุสัจธรรมตอนโต โห ไอ้คนเล่นก่อนโคตรเสียเปรียบ บางทีเราไม่ได้พลิกกระดาษดูของมันไง ว่ามันเขียนไปกี่ด่าน พอหลวมตัวไปเล่นปรากฏว่ายาวเลย รู้สึกตัวอีกทีกริ่งเข้าเรียนก็ดังแล้ว พอเบรกหน้ามันก็หนีไปเตะบอลซะงั้น อืม ตกลงเราโดนหลอกแล้วใช่มั้ย


บางคนฉลาดขึ้นมานิดนึงครับ หากลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิงแทน ซึ่งก็ได้แค่ยอมเล่นให้แหละ แต่สีหน้านี่สนุกสนานยังกะโดนยาเบื่อหนู คิดว่าในใจพวกเธอคงโหยหาโดดหนังยางหรือหมากเก็บโซ่พลาสติกมากกว่า


พูดถึงเกมการ์ด ผมว่าสังคมเกมการ์ดในบ้านเรา ถ้าเอาแบบเป็นทางการ ถือว่ายังไม่ค่อยใหญ่เท่าไหร่ครับ มันต้องเป็นแหล่งซื้อแหล่งขาย เป็นจุดนัดพบ เป็นสังคมของมันจริงๆ ซึ่งผมเคยแค่ไปเห็นมา ไม่ได้ลงไปสัมผัส เพราะรู้มาว่าคนเล่นเกมการ์ดแท้ก็ต้องใช้ทุนและใจรักพอสมควร


ซึ่งผมมีแค่ใจรัก แต่ไม่มีตังค์


แต่ถ้าเอาแบบไม่เป็นทางการ พวกการ์ดยูกิแปลไทยเสร่อๆ นี่ล่ะก็ สังคมแม่มโคตรกว้างเลยครับ เล่นกันตั้งแต่ในห้องเรียน โรงอาหาร ข้างสนามบอล ในห้าง บางคนไม่มีโต๊ะ ก็นั่งเล่นมันตรงพื้นเลย


เอาง่ายๆ นะ คือเล่นตรงไหนมันก็เล่นได้ ดูเหมือนความบันเทิงเราจะหาได้ง่ายๆ  แต่เอาจริงไม่ใช่เลย


พวกเราดูเอลลิมส์ทุนต่ำ ต้องต่อสู้กับสายตาของผู้คนที่ไม่เข้าใจถึงจิตวิญญาณ ต้องทำใจครับว่า ไม่มีหญิงที่ไหนมากรี๊ดเราแน่นอน แถมยังต้องคอยหลบหนีการโดนจับอีก


เพราะดูเผินๆ ดูเหมือนเล่นการพนัน


ผมว่าไอ้พวกที่ดูเอลไม่ดูตาม้าตาเรือมันต้องเคยเจออ่ะ ผมก็เคยเจอ พวกเราต่อสู้กันด้วยจิตวิญญาณของผู้เล่นกับมอนสเตอร์ที่หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว


แต่มาหาว่าเราเล่นไพ่!!!!


โอ้โห.....เจ็บไปถึงไส้ติ่ง ผมนี่เจอมาทั้งอาจารย์ ทั้งตำรวจ อธิบายให้ตายยังไงก็ไม่เข้าใจ ว่ามันเป็นการ์ด!!! ไม่ได้พนันเงิน!! ไอ้พวกนี้ก็โคตรตึ๊บอ่ะ เห็นมีไพ่ มีบวกลบตัวเลข โอ....ไพ่ ไพ่ การพนันแน่นอน โหยย ยิ่งพูดยิ่งขึ้น เดี๋ยวเอาการ์ดปาดคอแม่มเลย


บางคนพวกเราก็อุตส่าห์ทุ่มเทพลังชีวิตทั้งหมดอธิบายให้เข้าใจจนได้ แต่สิ่งที่เขาทำกับเราก็คือ


“ถึงยังไงมันก็ไม่เหมาะสม มันดูเหมือนเล่นไพ่ เก็บซะ”


โอเค ยังไงก็ผิด จบข่าว เหนื่อยอธิบายฟรีซะงั้น จำได้ว่าวันนั้นจบแบบนี้ กร่อยเลยครับ แทบจะแขวนการ์ดเลยทีเดียว


งั้นวันหลังผมบอกให้พี่ไปส่งจดหมายให้ผมหน่อยได้มั้ย เพราะพี่ดูคล้ายบุรุษไปรษณีย์มากเลยทีเดียวครับคุณตำรวจ


ผมว่าเกมการ์ดมันมีความอัศจรรย์อย่างหนึ่ง นั่นคือเราสามารถเกรียนได้เท่ากับเกมคอมพิวเตอร์ หรืออาจจะเกรียนได้มากกว่าด้วยซ้ำ โดยที่เราไม่ต้องใช้ไฟฟ้าเลยแม้แต่วัตต์เดียว เป็นการประหยัดพลังงานทางอ้อมนะฮะ


แต่ถามว่าช่วยประหยัดเงินด้วยไหม อืม..... ผมว่าไม่ โคตรสิ้นเปลือง สมัยที่ผมเล่นใหม่ๆ นี่ ของปลอมเด๊คละ 100 นะครับ ไม่ต้องพูดถึงพวกเล่นของแท้ ผมเคยได้การ์ดแท้มาใบนึง ขอบอกว่าไม่กล้าเอามาเกลือกกลั้วกับของปลอม เอาใส่กระเป๋าตังค์แยกไว้ต่างหาก คล้ายๆ เก็บรูปบรรพบุรุษเอาไว้ดูต่างหน้า


พูดถึงความเกรียน กล้าบอกเลยว่า ใครเล่นการ์ดเกมแล้วไม่ปากดีเนี่ย คุณเป็นดูเอลลิสม์ตัวปลอม คุณยังเข้าไม่ถึงจิตวิญญาณตัวต่อพันปี พวกผมนี่นั่งกินข้าวกับบลูอายส์มาแล้ว เห็นเป็นภาพหลอนแล้ว


แวะนิดนึง ไอ้เรื่องภาพหลอนนี่แบบ ใครเล่นการ์ดนี่จะโดนแซวหนักมาก


“เฮ้ย เล่นแล้วมันเห็นมอนสเตอร์ลอยออกมาเหรอวะ”


แหม่.... ไอ้พวกเรามันก็ชนกลุ่มน้อยอ่ะนะ ก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ กลับไป 


ไม่มีหรอกครับ.......


แต่ในใจ ลอยไม่ลอยแล้วมันไปหนักหัวพ่อมึงรึไง


อืม...... แต่ก็ไม่พูดนะ แบบมารยาทดี


เกรียนบังคับข้อแรกเลย คุณต้องโรคจิตตั้งแต่จั่วไพ่ เอ้ย ไม่ใช่ จั่วการ์ด จั่วมาแล้วทำหน้านิ่งๆ ไม่ได้


ม่ายด้ายยยย..... มันต้องโจมตีตั้งแต่หยิบการ์ดออกจากกอง มันต้องทำหน้าตาให้เหมือนกับว่า ทุกใบเป็นไพ่ตายหมดอ่ะ



จั่วได้มอนสเตอร์พลังกาก แต่ต้องทำหน้าเหมือนกับว่า มึงตายแน่ หรือไม่ก็หัวเราะแบบบ้าคลั่ง ประหนึ่งกำลังมั่นใจในชัยชนะ แต่ในใจนี่แบบ เชี่ยละกู......... อะไรประมาณนี้ เพราะงั้นอย่าแปลกใจถ้าพวกดูเอลลิสม์จะเป็นพวกสับสนทางอารมณ์ประมาณหนึ่ง ยิ่งพวกไซโคหนักๆ นี่ไม่ต่างอะไรกับคนบ้าเลยทีเดียว


ข้อต่อไปที่เกรียนทุกคนแน่นอน เวลาที่ตัวเองได้เปรียบ สกิลปากดีจะทวีคูณเป็น 2 เท่า 3 เท่า


“เฮ้ยยยย ลงมาเลย ลงมาเลย ตีแม่งให้แหลกกกกก เทิร์นต่อไปเจอแน่เมิงงงงงง ลงมาเด้ดดดดด.... จบเทิร์นยางงงงง จบได้แล้วววววววว กุยังไม่ตีก็ได้นะว้อยยยยยย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”



ส่วนใหญ่เป็นทุกคน....... แล้วไอ้พวกนี้นะ เวลามันจะตีให้ตายในเทิร์นนี้ได้ ไม่ค่อยทำกันหรอกครับ อารมณ์ได้เปรียบแบบนี้มันต้องเก็บเหยื่อไว้ถากถาง!!! ไว้เยาะเย้ย!!! ไว้กดดัน!!! เก็บเอาไว้ทรมานเล่นๆ ฮ่าๆๆ เก็บเอาไว้ เก็บไว้จนถึงเมื่อไหร่......... หึหึหึ ก็เก็บไว้จนกว่าเหยื่อจะพลิกเกมได้ไง แล้วก็กลับมาชนะทีหลังน่ะแหละ แหม่.... สมน้ำหน้าแท้ ยังกับการ์ตูน



ซึ่งหลังเกม อาจมีเสียงอ่อยเล็กน้อย หัวเราะเบาๆ กลบเกลื่อน “เหอๆ..... รู้งี้ตีมันให้ตายแต่แรกดีกว่า” 


หรือไม่พูดอะไร พาลเลิกเล่น ทิ้งการ์ดไว้ตรงนั้น แล้วชวนไปเตะบอลเปลี่ยนบรรยากาศเลยก็มี


และเกรียนอีกประเภทนึง ที่สมควรฆ่าหมกส้วมหลุมมากๆ คือไอ้พวกมั่ว คือไม่มีนักเล่นการ์ดสมัครเล่นคนไหนนะครับ ที่รู้ไปหมดว่าการ์ดนี้ทำอะไรได้บ้าง ทีนี้มันจะมีไอ้พวกมั่ว!!! มั่วสกิลการ์ดขึ้นมาเอง


ไอ้คนมั่วไม่เท่าไหร่ ไอ้คนเชื่อนี่โง่กว่า


เคยโดนมาแล้ว เนี่ย..... การ์ดใบเนี้ย สามารถขโมยมอนสเตอร์ของอีกฝั่งมาได้หมด โห....... สกิลอย่างเทพ ขัดกับหน้าตาโง่ๆ ของมอนสตัวนั้นเหลือเกิน


อีกใบนี่แจ่มกว่า ถ้าลงการ์ดใบนี้นะ มอนสเตอร์อีกฝ่ายจะล่องหน ตีเข้าผู้เล่นได้เบย....... โห นี่เทพกว่า ตอนนั้นผมเล่นไปผวาไป กลัวไอ้ 2 ใบนี้ออกจริงๆ


ตอนนั้นพยายามตามล่าการ์ดเทพ 2 ใบนี้ด้วย มาตาสว่างตอนเจอแปลไทย ที่แท้เอฟเฟคจริงๆ ได้แค่จั่วการ์ดเพิ่มใบนึง เจ้ดเป็ด แทบจะออกรถถังไปพังบ้านไอ้เด็กเหี้ยนั่นเลยทีเดียว 


พิมพ์ไปก็คิดถึงไป เดี๋ยวนี้ไม่ได้เล่นแล้วนะครับ เพราะตอนนี้เพื่อนไม่ค่อยว่างกัน งานยุ่งว่างั้น


แหม่ แต่เมื่อก่อนไม่อยากจะคุย การ์ดเถื่อนนี่มีเป็นลัง แม่ชมเลยว่า ถ้าไฟไหม้บ้านขึ้นมา พวกนี้แหละเป็นเชื้อฟืนอย่างดี เขินเลยทีเดียว


สุดท้ายนี้ ใครว่าเป็นดูเอลลิสม์ไม่เท่ห์ มันเท่ห์มากครับถ้าเราเข้าถึงมัน ดูเด๊คเก่งผมซะก่อน ใส่ถุงพลาสติกใส มัดหนังกะติ๊กแน่นเปรี๊ยะเหมือนมัดถุงแกงจืดมะระ เปิดกระเป๋าให้ยามรถไฟฟ้า ยังได้ทึ่ง


“โอ.......... คุณมันดูเอลลิสม์!!!!”



ดูเอลกันมั้ยล่ะ!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น