วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เกรียนกรึ่มกรึ่ม ตอน ลูกตัวร้าย กับขุ่นนายหม่อมแม่

(ต้นฉบับปี 2557)



คุณแม่ผมนี่นะครับ ถือว่าจัดเป็นผู้สนับสนุนหลักการติดเกมอย่างไม่เป็นทางการ  และไม่เต็มใจจะสนับสนุนด้วย  จนทุกวันนี้ก็ยังไม่สนับสนุนอยู่   แต่ก็อดถอนหายใจไม่ได้ว่าลูกตัวดีของเค้าก็ผ่านช่วงนั้นมาได้แล้ว ได้เรียนจบกลับมาทำงานทำการ  เป็นผู้เป็นคนกับเค้าซะที 


อืม..... ว่าแต่พอพูดถึงเรื่องติดผมติดเกมเมื่อก่อน แกถอนหายใจแรงมาก  ลูกชายอย่างผมก็แอบสะดุ้งเล็กน้อยถึงปานกลาง




จะว่าไปถ้าคนเป็นแม่หลาย ๆ บ้านจะไม่ชอบเด็กติดเกม มันก็ไม่แปลกหรอกครับ   ตอนเด็กผู้ร่วมปฏิบัติการผมโคตรเยอะจะตาย   แถมโตมาก็เปลี่ยนเจเนอเรชั่นไปเรื่อย   เรียกว่าสร้างปัญหาให้ไม่รู้จักหยุดหย่อน  


เรื่องติดเกมนี่ก่อปัญหาสารพัดในบ้านครับ หัวอกแม่หลายคนทนไม่ไหว   แทบจะประกาศศัตรูระดับฆ่าล้างจักรวาลกับไอ้เครื่องเกมทั้งหลายเลยทีเดียว  เพราะอะไร ?




ข้อแรกเลยครับ เพราะแม่ (ส่วนใหญ่) ไม่ได้เล่นเกม เพราะงั้นท่านไม่เข้าใจหรอกครับ  ว่าทำไมพวกเราต้องเล่นกันมืดฟ้ามัวดินขนาดนั้น ทั้งที่จริง ๆ  ระดับความไร้สาระมันก็ไม่ได้ทิ้งห่างอะไรกับที่แม่ดูละครจิกหัวตบล้างน้ำ  แย่งผัว   รัวกระสุน  อะไรประมาณนี้แหละ  ลูกหลายคนก็ไม่เข้าใจว่ามันสนุกกว่าโดเรม่อน ดิจิม่อน ตรงไหน แต่ก็ไม่ได้เดินไปถาม

ลูก ๆ อย่างเราจะรู้ครับ  ว่าเล่นเกมกับใครก็ไม่มันส์เท่าเล่นกับเพื่อน อย่าว่าแต่เล่นเกมกับพ่อแม่เลยครับ  อย่างผมนี่เล่นกับญาติผู้ใหญ่ก็ไม่ใช่แล้ว  มันอึดอัด  มันปลดปล่อยได้แต่ก็ไม่เต็มที่  ยังไงเราก็ต้องคีปลุคต่อหน้าผู้ใหญ่อยู่แล้ว  
เราอยากเกรียน  อยากหลอนนนน  อยากตะโกนคำว่าไอ้อ่อนนนนนน  ไอ้กากกกก  

แต่มันทำไม่ได้เว้ย  ถ้าทำ.... นอกจากจะโดนมองแบบติดลบแล้ว ยังสะเทือนไปถึงค่าขนมรายเดือนอีกต่างหาก   เพราะงั้นเรื่องนี้ถึงไปด้วยกันไม่ได้  โลกเราไม่ได้สวยงามขนาดนั้น

เพราะงั้นสิ่งที่ผมเคยชิน  จึงกลายเป็นโมเมนท์แม่เดินมาปิดเกม หรือไม่ก็เอาไม้มาไล่ฟาด  พร้อมกับประโยคคลาสสิกว่า  


“เมื่อไหร่จะไปกินข้าวซะที แกงจืดเย็นหมดแล้ว” 



แล้วลูกชายก็วิ่งหูตูบ ล้อฟรี หนีแม่กันไป แต่แบบนี้มันก็คลาสสิกดีเหมือนกัน เพราะลึก ๆ ผมก็คงไม่อยากให้แม่ติดเกมอ่ะ  ให้แกเป็นด้านตรงข้ามแบบนี้แหละดีแล้ว




และข้อสอง ซึ่งถือว่าฮิตที่สุดและมาตรฐานที่สุดในสามโลก นั่นคือการติดเกมทำให้เสียการเรียน 


ซึ่งพูดกันในแง่ความเป็นจริง  แต่ไม่มีงานวิจัยอะไรมารองรับนะ  ความรู้สึกล้วน ๆ เลย  เด็กเรียนห่วยอ่ะ ยังไงมันก็ห่วยอ่ะ จริง ๆ .... ผมกับผองเพื่อนยืนยันได้เลย  การติดเกมไม่ได้ทำให้โง่วิชาการ  หรือสมองการเรียนรู้น้อยลงนะ

แต่มันไม่ได้เข้าหัวกบาลตั้งแต่แรกแล้ว

สาบานอยู่ในห้องเรียนผมก็ไม่ได้เอาหนังสือเกมมานั่งอ่านตลอดเวลา   หรือแอบ ๆ คุยเรื่องเกม  หรือเอาเกมบอยพอตเก็ตมานั่งกดเล่น ไม่มีหรอกครับ  ผมก็นั่งเรียนตามปกตินี่แหละ รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง เหม่อบ้าง หิวบ้าง คิดเรื่องลามกบ้าง สารพัด  


คนจะเรียนห่วยมันมีหลายปัจจัยนะ  ไม่ใช่แค่เกมหรอก ขนาดตอนสอบโดนบังคับให้อ่านหนังสือก็ยังสอบไม่ได้เลย 

บางคนเก็งข้อสอบมาอย่างดี  เฮ้ย  ข้อนี้ออกแน่ ครูก็ย้ำนักหนาเลยว่าตรงนี้ออกแน่ ท่องเลยนักเรียน  ปรากฏว่าออกจริง แต่แม่งออก 3 ข้อจาก 60 ข้อ ต่อให้ท่องได้ อีก 57 ข้อกูก็ต้องพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ดี

สรุปคือพวกติดเกมน่ะ มันไม่ใช่สายเรียนอยู่แล้ว เกมมันมาทีหลังครับ พวกเรามีควายเป็นทุนอยู่ก่อนแล้ว

แต่ถ้าจะเอาให้ติดเกมจนเสียการเรียนจริง ๆ ต้องถึงขั้นหนีเรียนจนไม่มีสิทธิ์สอบ โดนไล่ออก นั่นแหละถึงเรียกเสียจริง ๆ 


ถ้าสอบตกนี่ยังไม่ใช่นะ คนไม่ติดเกมก็สอบตกได้ ได้เกรดห่วยได้ เรื่องปกติ




ข้อสาม อันนี้ผมว่าหัวอกแม่เจ็บสุด นั่นคือเรื่องเงินทอง 


แต่ข้อนี้เอาจริง ๆ ก็ไม่ถึงขนาดนั้น  ถ้าเงินที่เอาไปทุ่มเทให้มันเป็นวงเงินค่าขนมของเราอยู่แล้ว   อันนี้เราเลือกจะเดือดร้อนเอง

ผมเคยบอกว่า สมัยเรียนค่าขนมวันนึงผมเอาไปกินจริง ๆ ได้แค่ข้าวเหนียวหมูห่อเดียว  กับยำยำจ๊างน้อย นอกนั้นหายไปกับเล่นเกมหมด

คือไม่ใช่ต้องจ่ายค่าเล่นเกมเพิ่ม แต่จะเล่นไม่เล่นค่าขนมมันก็เท่าเดิมทุกวันอยู่แล้ว แต่ก็ยอมรับว่าก็มีแอบขอค่ารายงานเกินบ้าง ตอดเล็กตอดน้อยอะไรแบบนี้ พวกที่เกินมาแบบนี้ไม่ใช่ละครับ ก็ต้องยอมรับผิดครับ ไม่ดีจริง ๆ น่ะแหละ ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง




มาถึงข้อสี่ การเล่นเกมทำให้เพิ่มประชากรแปลกหน้าในบ้าน  


อันนี้แม่เซ็งครับ มันก็ไม่ถึงกับเป็นความผิดอะไรมาก แต่ผมก็เข้าใจแม่ในฐานะเจ้าของบ้าน  ถ้ามาคนเดียวไม่เท่าไหร่ แต่บางบ้านนี่แม่งมายังกะบอยแบนด์  มากัน 5-6 คน 

ถ้าเป็นร้านเกม เจ้าของร้านโคตรแฮปปี้  แต่นี่มันเป็นบ้านคน แล้วไม่รู้ทำไมเว้ย ถ้ามากันกลุ่มใหญ่ ๆ มันต้องมีไอ้อ้วนติดมาด้วยคนนึงเสมอ ไม่ใช่อ้วนน่ารักนะครับ อ้วนสายแดกอ่ะ จริง ๆ ไม่ต้องอ้วนหรอก พวกสายแดกนี่มีทุกกลุ่มอยู่แล้ว  

พวกนี้ขุ่นแม่บอกภัยสังคมในบ้านเลยลูกเอ้ย   เผลอเมื่อไหร่หาจังหวะเปิดตู้เย็นตลอด ไอ้พวกเล่นก็จัดหนักไป ถึงเวลากลับก็ทิ้งซากไว้ตรึม อันนี้แม่ก็ไม่แน่ใจว่าพวกหนูมาเล่นเกม   หรือจะมาพังบ้านกูกันแน่ จัดหนักจนหายอยากแล้วจากไป



โอเค  แค่ 4 ข้อก็ซึ้งไปถึงทรวง ไอ้ผมตอนเด็กนี่หนักกว่านั้นอีก มีแถมไปสร้างตำนานหนีเรียน 1 เดือน ทุกวันนี้ครูใหญ่ยังพูดถึงให้เด็กรุ่นหลังฟังอยู่เลย  พร้อมมโนเสร็จสรรพว่าป่านนี้คงไปเสียคนที่ไหน..... อืม ก็เสียคนอยู่บนแผงนิตยสารเกมใกล้บ้านพี่น่ะแหละ  


หนีเรียนยังไม่พอ มีแอบขโมยเงิน ขโมยของห้างมาขาย ทะเลาะวิวาท   ก็เรียกว่าเลวเต็มรูปแบบ HD Master กันเลยทีเดียว ขาดแต่ยาเสพติดที่ไม่เล่นจริงๆ เท่านั้น (สาธุ....)

ผมเชื่อว่าตัวผมเองเนี่ย ไม่ใช่เด็กวัยรุ่นคนเดียวในประเทศที่มีชีวิตแบบนี้ โดยเฉพาะผู้ชายนี่ตัวแสบเลย แต่ละคนก็อัพสเตตัสในช่วงนั้นไม่เหมือนกัน สายเกม สายแว๊นซ์ สายเที่ยวหญิง โอเคผมนี่อยู่สายเกมแน่นอน 


ตอนนี้ผมมองที่ผ่านมาว่าเป็นประสบการณ์ แต่ถามว่าผมภูมิใจกับมันมั้ย 

ครึ่ง ๆ ครับ  ครึ่งนึงผมก็ภูมิใจที่ประคองตัวเองจนผ่านมาได้  แต่อีกครึ่งหนึ่งก็ละอายใจครับ  ที่ทำให้แม่เดือดร้อน  ไม่สบายใจ

ผมลองคิดกลับกันด้วยซ้ำว่า ถ้าผมมีลูก แล้วลูกเป็นแบบนี้ เรามีความสุขไหม  ก็คงไม่

คนเราบางทีมันก็แพ้ต่อความต้องการของตัวเองนะ เราอยากทำอะไร เราก็ต้องทำให้ได้ จนลืมคิดไปว่า ยังมีคนที่มองเราจากข้างหลังอยู่ และเป็นคนที่รักเรามากที่สุดด้วย 


โมเม้นท์ผมกับร้านเกมนี่ เต็มสูบครับ แต่กับแม่นี่จำได้แต่ขอตังค์ กับห้องฝ่ายปกครอง  มันทุเรศบัดซบจนแบบ.... รับไมได้อ่ะ

แต่ผมก็ลูกผู้ชายคนนึงครับ  ทำผิดได้  ก็ต้องรับผิดชอบได้ 


ทุกวันนี้ผมก็เหมือนเป็นช่วงชดใช้กรรมยังไงไม่รู้ ต้องเป็นคนจ่ายค่าขนมให้แม่ ทำงานเลี้ยงแม่ เกมก็ไม่ค่อยได้เล่น 

เรียกว่าตอนนี้กรรมตามสนองเลย  เข้าใจทุกอย่างเลยว่าการที่ต้องหาเลี้ยงดูแลใครสักคนมันเหนื่อยแค่ไหน

แต่ผมก็ยินดีที่จะทำแบบนี้ไปตลอดชีวิต  เพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าจะมีเวลาทำแบบนี้ให้ท่านอีกนานแค่ไหน   จากนี้ก็จะดูแลท่านให้ดีที่สุด เรียกว่าจะติดแม่  ให้เท่ากับที่เคยติดเกม..... ไม่สิ จะติดให้มากกว่าด้วยซ้ำ 


คิดดูแล้ววันนี้ก็ตลกดี  ตอนเด็กลูกเอาเงินแม่ไปเล่นเกม

ทุกวันนี้ลูกเขียนคอลัมน์ลงหนังสือเกม เอาเงินมาให้แม่ซะงั้น


สุดท้ายมันก็ยังวน ๆ  อยู่กับเรื่องเกมนี่แหละน้อ  แม่ลูกบ้านนี้.....






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น