วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ROซอกหลืบ เรื่องสั้น หวานมันฉันคือเธอ ตอนที่ 1


เรื่องวุ่นๆ มันกำลังจะเกิดขึ้นนับตั้งแต่บรรทัดนี้.....



“เฮ้ยๆๆ ระวัง!!!”

โครมมม…!!!!




“เฮ้ยย!! ยัยส้ม!!”

อังโกะ สาวน้อยร่างอวบแว่น ตัวประกอบคอลัมน์ที่รู้จักกันดี ถึงกับตกใจทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นเพื่อนสาวของเธอกระเด็นออกมาจากหัวมุมตึก

“เห็นมั้ยล่ะ เค้าบอกตัวเองแล้วว่าค่อยๆ เดินช้าๆ ก็ได้.... สมน้ำหน้า จะรีบจ้ำไปไหน”

“เจ็บเว้ยย!!!” ยัยอ้วนด่าจบ ส้มปี๊ดลุกขึ้นกุมหัวทันที

“ยัยส้มเน่านี่!! จะรีบไปตายที่ไหนฟะ เจ็บหัวนะว้อยย นี่ดีนะไม่ติด Stun” 

 สาวน้อยหันซ้ายหันขวา ดูท่าจะหงุดหงิดมาก

“บัตรเติม ช.ม!! บัตรเติม ช.ม!! ปล่อยช้าไม่ได้ ต้องรีบไปซื้อแล้ว”



หมับ..!!

ยังไม่ทันที่ส้มปี๊ดจะวิ่งไปจากที่เกิดเหตุ สัญชาติญาณบอกให้อังโกะรีบคว้าแขนเพื่อนซี้ไว้แน่น

“ย... ยัยส้ม เมื่อกี้พูดอะไรอ่ะ เธอบอกจะไปซื้อบัตรเติม ช.ม” 

สาวอวบทำหน้างงที่สุดในชีวิตของเธอ “เราจะไปซื้อการ์ตูนวายกันไม่ใช่เหรอ??”



“การ์ตูน? การ์ตูนอะไร พูดไรของเธอ แล้วเธอมาจับชั้นไว้ทำไมเนี่ย!!”

ส้มปี๊ดโวย อังโกะยิ่งทำหน้างงมากขึ้นไปอีก พอเห็นเพื่อนยิ่งหน้างง งงจนจะเป็นควายอยู่แล้ว มีอะไรผิดปกติแน่ๆ จังหวะนั้นร่างสาวน้อยเริ่มตั้งสติ เธอค่อยๆ หันหลังไปดูช้าๆ

ภาพที่เห็น นายมนัสนอนแว่นแตก กำเดาไหล ตาเป็นดาวเดือนอยู่ที่พื้น เธอก้มมองตัวเองจรดเท้า แล้วมองกลับไปที่มนัสอีกที แล้วเธอก็มองตัวเองอีกครั้ง แล้วก็.....

“เป็น... เป็นเรื่องแล้ว” สาวน้อยอุทานเบาๆ อังโกะก็พลอยลุ้นไปด้วย

“ยัยส้ม.... มีไรเหรอ”



“ส... สลับร่างเหรอวะเนี่ยยย!!!!”

ซอกหลืบเรื่องสั้น "หวานมันฉันคือเธอ ตอนที่ 1"




โครมม!!!



ร่างของส้มปี๊ดถูกเหวี่ยงลงสู่กองเบาะยิมห้องเก็บอุปกรณ์พละ ร.ร ศึกษาโนเนะวิทยา สาวน้อยกลิ้งลงมาจากเบาะ ทั้งหมดเป็นฝีมือเพื่อนร่างอวบอ้วนของเธอ

ตั้งแต่คำว่า “สลับร่าง” หลุดออกมา อังโกะตกใจแทบสติแตก คำนั้นมันเอกโค่ก้องอยู่ในหัว เธอรีบยกแบกร่างเพื่อนเธอย้อนกลับมาที่ ร.ร รวมระยะ 400 เมตร ภายในเวลา 5 นาที ทำได้ไง

“เฮ้ยย!! มันเจ็บนะว้อยย ยัยอ้วน เป็นบ้าอะไรเนี่ย...” 
ร่างสาวน้อยทำท่าฮึดฮัด   แต่ก็หยุดทันทีเมื่อร่างสาวใหญ่เคลื่อนเข้าใกล้.... เหมือนหมีกำลังตะปบเหยื่อ 


“เมื่อกี้ตัวเองบอกว่าสลับร่าง..... ” อังโกะหน้าดุ “หมายความว่านี่ไม่ใช่ยัยส้ม แต่เป็นไอ้มนัส”

มนัสในร่างส้มปี๊ดพยักหน้า หงึ หงึ เหงื่อตก 2 เม็ดครึ่ง

“เฮ้ย งั้นที่นอนอยู่นั่นก็เพื่อนชั้นน่ะสิ” อังโกะพึมพำ

“ก็ใช่น่ะซี่!!! แล้วเธอแบกชั้นมาทำไมเนี่ย ชั้นจะไปหาร่างของชั้น!!” มนัสในร่างส้มปี๊ดลุกจะวิ่งออกไป แต่อังโกะยกมือกันหน้าผากไว้ มนัสเลยวิ่งอยู่กับที่ ฮึ่ย... ฮึ่ย เธอช่างเป็นหญิงที่ทรงพลังจริงๆ



“นายจะบ้าเหรอ!!” อังโกะตวาด  “เรื่องนี้มันเวอร์เกิน นายจะให้ใครรู้ไม่ได้นะ ให้ชั้นไปเอง นายรออยู่นี่”

“เฮ้ย นั่นมันร่างชั้น เธอจะมาตัดสินใจแทนไม่ได้....”

ปึงง!!!! แกร็ก... 

มนัสยังพูดไม่จบ อังโกะจัดการวิ่งออกไปล็อคกุญแจห้องจากด้านนอก เรียบร้อย

“เฮ้ยย!!! ขังกันเลยเรอะ!!!”

“นายอยู่ที่นี่แหละ เดี๋ยวชั้นพาเพื่อนกลับมาเมื่อไหร่ เราจะมาทำพิธีคืนวิญญาณกัน”

“หา..!! คืนวิญญาณ เธอทำเป็นด้วยเหรอ” มนัสตะโกนถาม ได้ยินเสียงตอบมาไกลๆ



“ง่ายจะตาย ชั้นก็จับหัวเธอ 2 คนมาชนกันอีกทีไงล่าวว...”



“อ้อ นั่นสินะ นึกว่า....” มนัสในร่างส้มปี๊ดพลันยิ้ม แต่แล้วหน้าซีดเผือดทันที

“เดี๋ยว!!! เฮ้ย  จับชนกัน เย้อย!! ไม่เอา!! ให้แรงอย่างเธอทำ มันสมองชั้นก็แตกกระจายหมดซีว้อยยย ไม่เอา!! ปล่อยชั้นออกไป๊!! ตูจะไปเล่นแร็คค!! ชื่อในเกมชื่อวิสร๊าดดด!!!”

มนัสโวยวายกระจุยกระจายอย่างบ้าคลั่ง แต่ทั้งหมดนี่อังโกะไม่ได้ยินแล้ว



ตัดกลับมาที่เกิดเหตุ ตรงมุมตึกอีกครั้ง ภาพที่เห็นอังโกะลนลานจนทำอะไรไม่ถูก ร่างของมนัส ที่แบกวิญญาณส้มปี๊ดเพื่อนรักไปด้วย 

มัน ห... หายไปแว้ว

“เฮ้ย!! แย่แล้ว ย.. ยัยส้ม... ไปไหนแล้วเนี่ย หรือว่าได้สติแล้ว” 

อังโกะยังลนลาน วิ่งวนไปมา “ค... เค้าขอโทษ!! เค้าไม่ได้ตั้งใจ ตะเองก็รู้ เค้าตกใจทีไรต้องหาอะไรมาแบกทุกที”

“ยัยส้ม เธออยู่ไหนเนี่ย”




จังหวะนั้นบังเอิญป้างุงิเข็นรถผ่านมาพอดี สวรรค์ทรงโปรด อังโกะเห็นไม่รอช้า รีบเข้าไปถามทันที

“ป้าๆ เด็กหน้าตาประหลาดที่สลบตรงนี้หายไปไหนแล้วคะ”

ป้างุงิยิ้ม “อ๋อ... ป้าอิ่มแล้ว”

คำตอบคลาสสิค อังโกะถึงกับกุมขมับ แลเห็นเส้นเลือดฝอย ไม่ใช่งั้นค่ะ คือ เอ่อ เฮ้ย จะถามยังไงวะเนี่ย แบบว่า.... เอ่อ



“ส้มปี๊ดเหรอ ลูกน้องมันแบกกลับไปร้านลุงแล้ว!!”


เสียงสวรรค์ทรงโปรดอีกที อังโกะรีบหันมองอีกครั้งอย่างรวดเร็วแบบไม่กลัวคอหัก เขาคือไนท์หนุ่มนั่นเอง เขามาซื้อ Roclub แล้วเดินผ่านมาพอดี

“เอ่อ ขอบคุณมากค่ะพี่ไนท์!!” อังโกะยิ้ม กำลังจะวิ่งเข้าซอย “เอ๋ ว่าแต่ พี่ไนท์รู้ได้ไง”

“เอ้า.... ทำไมจะไม่รู้ นี่คนเขียนนะ”

อังโกะนึก เออ ก็ใช่แฮะ แล้วคนเขียนจะออกมาทำแย้อะไรเนี่ย

“หึๆ คนเขียนรู้ทุกอย่างนะ อยากรู้ตอนจบเลยมั้ยล่ะ” ไนท์หนุ่มยิ้มเท่ห์ เอามือล้วงกระเป๋า

“เอ่อ ไม่ล่ะค่ะพี่ ขอบพระคุณมาก พี่เก็บมุกไว้เขียนหาเงินต่อเถอะค่ะ”  
อังโกะนึกในใจ เชื่อเขาเลย เรื่องนี้ไม่มีบทแท้ๆ พี่แกก็ยังอุตส่าห์เขียนให้ตัวเองมีบทอีก.... 2 – 3 บรรทัดมันก็เอา เฮ้อ

สาวอวบถอนหายใจ อนิจจัง ก่อนรีบวิ่งเข้าซอยไปทันที





“ท่านวิสาจ..... ท่านวิสาจ.....”

นี่คือเสียงเพรียกที่ส้มปี๊ดได้ยิน มันเป็นเสียงที่แว่วอยู่ในหูนานแล้ว ตาที่ปิดเริ่มค่อยๆ เปิด ทีละนิด ทีละนิด ภาพที่เห็น พัดลมติดเพดานกำลังหมุนเบอร์ 1 ครึ่ง

และ.... เด็กหัวเกรียน หัวเกรียน เกรียน นี่ก็เกรียน นี่ก็เกรียน เกรียน เกรียน เกรียน และเกรียน

เฮ้ยยย!!! อะไรวะเนี่ย ทำไมมีแต่เกรียน ที่นี่ที่ไหน มิติไหน ทำไม เฮ้ย งงไปหมดแล้ว ส้มปี๊ดเธอรีบลืมตาให้กว้างที่สุดเท่าที่ทำได้ และแล้ว!!



กรี๊ดดด...!!!!



“พวกเรา ท่านวิสาจฟื้นแล้ว!!” กลุ่มหัวเกรียนวิ่งออกไปจุดพลุญี่ปุ่นดีใจอย่างยิ่งใหญ่ ส้มปี๊ดในร่างมนัสตกใจที่สุดในชีวิต เฮ้ยย!! อะไรเนี่ย!! เกิดไรขึ้น!! เฮ้ย!! เฮ้ย!! แอนด์เฮ้ย!!

ในขณะที่สาวน้อยยังเลิกลั่ก ทำอะไรไม่ถูก “พรีสน่ารัก” หนึ่งใน 4 จตุรเทพก็เดินเข้ามาจับมือ

“ข้านึกว่าท่านจะกลับไปจุดเซฟเสียแล้ว ขอต้อนรับกลับสู่อาณาจักร อย่ารอช้าเลยท่าน เราไปประจำที่กันเถอะ บอสใกล้จะออกแล้....”



เพี๊ยะยยยยย!!!!! (โครมม..!!!)



“ไอ้ทุเรศ!! ไอ้เชื้อโรค!! ไอ้เชื้อราในร่มผ้า!! แกถือดียังไงมาจับมือเรียวงามของชั้น!!”

“อ... เอ่อ” ทั้งพรีสน่ารักที่ถูกตบใส่เกลียวล้ม และสมาชิกเกรียนกรุ๊ปต่างอึ้ง ตาค้าง พูดอะไรกันไม่ออก


“แล้วที่นี่ที่ไหน!!! พวกแกทำอะไรชั้น”  

ส้มปี๊ดชี้ไม้ชี้มือมั่วไปหมด เดี๋ยว... เธอลองทบทวนเหตุการณ์ เมื่อเย็นเราวิ่งชนกับไอ้เชื้อโรค แล้วเราก็สลบไป แล้วก็มาฟื้นที่นี่ แล้ว.... ไอ้พวกนี้ หน้าขาดสารอาหารแบบนี้

ใช่แน่ๆ เราถูกพวกไอ้เชื้อโรคจับตัวมา พลันนั้น เธอเห็นภาพมนัสในกระจก ด้วยความโกรธ จึงเดินเข้าไปหาเรื่องทันที

“ไอ้มลพิษ!! มาหลบอยู่นี่เองเรอะ!!” 

 ส้มปี๊ดเลือดขึ้นหน้าสุดขีด ชี้หน้าด่าในกระจกอย่างเอาเป็นเอาตาย 

“แกวางแผนจะล้างสมองชั้นใช่มั้ย แผนสูงนักนะแก หนอย... บังอาจดักชนเลยเรอะ ให้อภัยไม่ได้”

สมาชิกทุกคนในร้านงงเต็ก....

ส้มปี๊ดเลือดขึ้นหน้าจนลืมสังเกตว่า ตัวเองกำลังทะเลาะกับกระจกอยู่



“ยังจะมองหน้าอีก เอานี่ไปกิน หมัดสาวน้อยน่ารัก!!!”

ย๊ากกก....!!

เพล๊งงงง!!!




“เฮ้ย!! ท... ท่านวิสาจ”

หมัดส้มปี๊ดต่อยค้างอยู่ที่กระจก เลือดเริ่มไหลปริ สติเริ่มมา เลือดที่ขึ้นหน้าก็เริ่มลดตามไปด้วย

“น... นี่กระจกหรอกเหรอ” สาวน้อยดึงหมัดกลับ ก่อนจะรีบจับเนื้อตัวอย่างตื่นตระหนก

“เฮ้ย ก็หมายความว่า......”



กรี๊ดดดด...!!!!!



“ท่านวิสาจเป็นอะไรน่ะ” สมาชิกเกรียนต่างตะลึงงัน ทำอะไรไม่ถูก

“หรือว่าสมองถูกกระทบกระเทือน”



กรี๊ดดดด...!!!!!

ส้มปี๊ดหลับตาวิ่งหนีออกจากร้านลุงด้วยความเร็วสูง และเป็นจังหวะเดียวกับที่อังโกะวิ่งมาเจอพอดี

“เฮ้ยๆ ไอ้มนั... เอ้ย ไม่สิ ยัยส้ม”

“อังโกะ!!! ช... ชั้นกลายเป็นไอ้สิ่งปฏิกูลนั่นแล้ว เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ช่วยด้วย.... เฮ้วมีพรีสสส ฮือ... ฮือ แง๊!!!”

“รู้แล้วๆ ใจเย็นๆ ก่อนยัยส้ม อย่าร้องไห้สิ หน้าไอ้มนัสร้องไห้ทุเรศมากเลยเนี่ย”

“ไม่เย็นแหล่วว..... เค้าอยากคืนร่าง ง่า...”

อังโกะสงสารเพื่อนจับใจ นี่ล่ะนะ ด่าเค้าไว้เยอะ ไงล่ะยัยส้ม กรรมตามทันชาตินี้เลย เอาเถอะ แต่อย่างไรก็เพื่อน เซลล์ตกใจยังร้อนอยู่ เธอรีบยกร่างเพื่อนขึ้นแบกทันที

“ป่ะ ชั้นจะช่วยเธอเดี๋ยวนี้แหละ รีบไปกันเลย.... ”

400 เมตร ภายใน 5 นาที ไม่เกินกำลังอังโกะจังอยู่แล้ว



หลังจากอังโกะแบกส้มปี๊ดหายไป เหล่าสมาชิกเกรียนก็ช่วยกันออกตามหาผู้นำของพวกเขา ทุกคนต่างถือไฟฉายคนละกระบอก สวิงคนละอัน และบัตรเติม ช.ม เอาไว้ล่อ

“เฮ้ย นักธนู แกไปดูในถังขยะซิ” พระโหดฯ สั่ง

“ดูแล้ว ไม่มี”



“เฮ้ย!! หายไปไหนเนี่ย”



(ติดตามตอนต่อไป)

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ4 กรกฎาคม 2558 เวลา 11:42

    คิดถึงซอกหลืบจังครับ ตามอ่านอยู่เรื่อยๆนะครับ ถึงจะไม่ค่อยได้เม้นท์ก็เถอะ

    ตอบลบ