(ต้นฉบับปี 2548)
นี่คือ.. การกลับมาของ “ไดอารี่ลับเฉพาะของโพริ่งสุรเดช 2”
วันที่ 1 เมษายน 2548
เอาล่ะ… วันนี้ตั้งใจจะเขียนไดอารี่อีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนาน รู้สึกพักหลังเราจะดังใหญ่แล้ว ผู้คนรู้จักเยอะขึ้น เดินไปไหนมาไหนมีแต่คนอยากจะเอาคมดาบมาทักทาย เพิ่งรู้ การเป็นคนดังบางทีก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าอิจฉา เพราะต้องอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ ออกไปข้างนอกก็ต้องใส่หมวก ใส่แว่นดำ เหมือนกำลังหลบหนีอะไรบางอย่าง ชีวิตเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ตั้งแต่รอดตายจากการชุบแป้งทอด เพื่อน ๆ ในป่าหาว่าเราหยิ่งขึ้น ไม่พูดไม่จา ไม่ใช่ไม่พูด แต่ปากมันพองว้อยย..!! พวกแกไม่โดนชุบแป้งทอดบ้างก็ไม่รู้หรอก
วันนี้ที่เขียนไดอารี่นี่ไม่ใช่ว่าอยากเขียนหรอกนะ ทำกายภาพบำบัดกล้ามเนื้อปากต่างหาก เข้าใจมั้ย
วันที่ 8 เมษายน 2548
ไอ้คุณดรอปศุภโชค… ไอ้เพื่อนเฮ็งซวย จะตบหลังทักทายกันไม่ว่า แต่อยากให้มึงหัดดูจังหวะซะบ้าง ไม่ใช่ว่ามาตอนกำลังงับปากกาเขียนไดอารี่อยู่ ด้ามปากกาทะลุปากเลย สยองนะเฟ้ย เศษเยลลี่กระจายก็ไม่ช่วยเก็บ เจ็บหนักกว่าเดิมอีก
กว่าจะมาเขียนอีกก็ต้องพักฟื้น 1 สัปดาห์เต็มๆ เสียเวลาทำมาหากินนะเพื่อน โอย… อะไรนักหนา สงสัยช่วยนี้ดวงจะตก พรุ่งนี้ตักบาตรด้วยปราสาทกิลล์วอร์ท่าจะดี เผื่อดวงจะขึ้นบ้าง
วันที่ 9 เมษายน 2548
วันนี้ไปเดินเล่นในพรอนมา มีพรีสสาวหน้าตาน่ารักหักสวาทมาขอลายเซ็นด้วยแหละ แหม… เราก็เล่นตัวซะหน่อย ดังแล้วนี่ ท่าทางเค้าปลื้มเรามากเลยนะ หึ ๆ แต่สุดท้ายผมก็ไม่เซ็นให้หรอก ไม่ใช่หยิ่ง แต่เพราะอะไรน่ะเหรอ…
“อุ๊ยๆ พี่คะๆ ขอลายเซ็นหน่อยค่ะ หนูชอบพี่มากเลยนะคะ”
“พี่ไนท์หนุ่มใช่มั้ยคะเนี่ย!!”
จบเลย… จบ อย่าเอามันเลยลายเซ็น จูบก็ไม่ให้ด้วย ภาพรวมเราออกจะเหมือนโดม ปกรณ์ ลัม ซะขนาดนี้ ดูยังไงเป็นไอ้ดีเจขี้เหร่นั่นได้วะ สวยแต่ตาต่ำซะยังงั้น
ว่าแต่… ตัวเป็นก้อนนิ่วยังเงี้ย มันดูยังไงเป็นไนท์หนุ่มวะ
วันที่ 10 เมษายน 2548
วันนี้มีไนท์สายวิทขี่ปีโก้แรลลี่ผ่านหน้าบ้านประมาณ 20 คน
ถ้าผมไม่ติดอาการบาดเจ็บล่ะก็… พวกมันคงจะได้เห็นนรกกันบ้าง
วันที่ 11 เมษายน 2548
ตื่นเต้น ๆ อีกวันเดียวก็จะสงกรานต์แล้ว สุรเดช มอนสเตอร์ธาตุน้ำน่ารักตัวนึง ยังไม่รู้เลยจะไปเล่นน้ำที่ไหน
ศุภโชคซิบมาแนะนำว่าไปเล่นที่เกาะบีบาลันสิ คนเยอะ จะได้ไปดูนมนางเงือกด้วย เออ ๆ ก็อยากไปอยู่หรอก แต่น้ำหน้าอย่างพวกเราจะแบก HP ไปถึงชั้น 3 ได้เหรอวะ ไม่ค่อยมั่นใจยังไงไม่รู้
วันที่ 12 เมษายน 2548
วันนี้ตื่นเต้นอีกแล้ว เพราะโฆษณาอโยธยาจะออกฉายทางทีวีเป็นครั้งแรก ผมนั่งดูตั้งแต่ต้นจนจบ สวยดี เอ่อ ว่าแต่… ตูหายไปไหนวะเนี่ย
เฮ้ย!! ตอนทีมงานโทรนัดไปถ่าย เห็นจะบอกให้เป็นตัวเด่นในซีนนั่งเรือเลยไม่ใช่เหรอ วันนั้นผมสลัดคราบเยลลี่ใส่ชุดลายไทยด้วยนะ อลังการมาก พอส่องกระจกรู้สึกตัวเองเหมือนขนมจ่ามงกุฏยังไงไม่รู้ เฮ้ย!! หรือว่า!! หรือว่า!! เราจะโดนหลอก เฮ้ย!!
โธ่เว้ย… จำไว้เลย ฮือ… ฮือ พวกมนุษย์ 2 ขานี่ไว้ใจไม่ได้จริง ๆ
วันที่ 13 เมษายน 2548
วันนี้สงกรานต์ ได้ออกไปเล่นน้ำสมใจอยาก ผมกับศุภโชคนั่งเรือไปเกาะบีบาลัน โชคดีไม่เสียตังค์ค่าเรือ เพราะส่วนสูงไม่ถึง
แต่ก็โชคร้ายที่ต้องเจอการเล่นน้ำที่หนักหน่วง Wizard ร่ายวอเตอร์บอลใส่กันอย่างโหดเหี้ยม พวกไนท์ก็เอาดาบธาตุน้ำไล่ฟันสนุกสนาน ไม่กลัวหรอก แต่สยองยังไงไม่รู้ เพราะหน้ามันจริงจังมาก เห็นแล้วไม่กล้าเข้าไปร่วมวง
ไปไม่ถึงชั่วโมงก็กลับ เข้าใจว่าสังคมเปลี่ยนไปแล้ว อีกอย่าง… เห็นใจศุภโชค เพราะมันธาตุไฟ
เพื่อนใครวะเนี่ย บื้อจริง ๆ แพ้ธาตุน้ำ แล้วจะชวนเล่นสงกรานต์หาเหวอะไรว๊า
วันที่ 16 เมษายน 2548
เฮ้อ… เก็บตัวหนีน้ำ 3 วัน ตื่นเช้าวันนี้อากาศสดชื่น รู้สึกเพลียๆ ยังไงไม่รู้ สงสัยวันนี้ต้องฟิตซะหน่อย
เริ่มต้นด้วยการวิดพื้น 50 ครั้ง 4 เซ็ท ดึงข้ออีก 10 ครั้ง 2 เซ็ท ซิทอัพอีก 100 ครั้ง
อืม… เข้าท่า ๆ ไว้ชาติหน้ามีแขนแล้วค่อยทำละกัน
วันที่ 17 เมษายน 2548
แผลที่ถูกปากกาทิ่มเริ่มสมานกันแล้ว ดีใจจัง ซิบไปบอกศุภโชค ท่าทางมันไม่รู้เรื่อง แถมยังถามอีกว่า ไปโดนใครเค้าแกล้งมาล่ะ
ผมก็เลยตอบว่า โดนเพื่อนโพริ่งสีซีดหน้าโง่ ๆ สมองควาย ปัญญาอ่อนตัวหนึ่งแกล้งโดยมิได้ตั้งใจ เพื่อนงี่เง่าแบบนี้ เราควรเลิกคบดีมั้ย
ศุภโชคไม่เสียเวลาครุ่นคิด บอกเห็นด้วยทันที เพื่อนที่พาเสื่อมแบบนี้ไม่ควรคบให้ชีวีมัวหมอง ตัดเยลลี่ปล่อยวัดได้เลย
อืม…. ก็เห็นด้วยเหมือนกัน
วันที่ 18 เมษายน 2548
วันนี้มีจดหมายท้าดวลส่งมาถึงผม ไม่ปรากฏชื่อผู้ส่ง ในเนื้อความบอกว่า .
“ให้ไปเจอกันที่จุดเรือล่ม เวลาหกโมงเย็น เราจะตัดสินกันว่าใครเป็นผู้ที่เก่งที่สุดในรูน มิดการ์ด ถ้าไม่ไปถือว่าปอดแหก”
ได้อยู่แล้ว ท้ากันอย่างนี้ ไม่ไปเสียชาติเยลลี่หมด
พอแบกชีวิตไปถึงสถานที่นัดพบ เจอแอสซาซินแสงติดเท้าอยู่คนนึง ไอ้นี่แน่ๆ ไอ้นี่แน่ ๆ วอนซะแล้วผมเปล่งวาจาแบบไม่คิดถึงอนาคตตัวเองทันที!!
“มาสู้กัน!!!” แอสซาซินก้มมองผมหัวจรดหัว แล้วเอ่ยเบา ๆ ก่อนเดินจากไปว่า
“หึ… ไอ้เซฟิรอสมันปอดแหกถึงขั้นส่งสัตว์เลี้ยงมาตายแทนเชียวเหรอวะ น่าสมเพสจริงๆ”
ผมเงียบแปปนึง วิเคราะห์ดี ๆ
อ้าว… ไอ้บ้า!! ส่งจดหมายผิดบ้านนี่หว่า
วันที่ 19 เมษายน 2548
หาปากกาไม่เจอ… วันนี้งดเขียน 1 วัน
วันที่ 21 เมษายน 2548
วันนี้จัดชั้นหนังสือเก่า และแน่นอน เหมือนในหนังและในการ์ตูน มันจะต้องมีชอตน้ำเน่า
เราจะเจอหนังสือเก่า ๆ ที่ไม่คิดว่าจะอยู่ในชั้น 1 เล่ม ผมก็เจอเหมือนกัน หนังสือหน้าปกเขียนว่า
“ตำนานซุปเปอร์โพริ่ง”
เนื้อหาเกี่ยวกับสุดยอดโพริ่งในตำนาน ดวงตาสีเขียว ร่างกายสีทอง และตัวจะเรืองแสง โพริ่งที่สามารถเป็นได้จะต้องมีความโกรธจนถึงขีดสุด หนึ่งหมื่นปีจะเกิดขึ้น 1 ตัว
อืม… ตาเขียว ตัวสีทอง เรืองแสง คุ้นๆ เว้ย เหมือนเคยเห็นในการ์ตูนช่อง 9 เมื่อสิบปีที่แล้ว
ท่าจะเป็นเรื่องโกหก เก็บเข้าชั้นหนังสือตามเดิมดีกว่า
วันที่ 22 เมษายน 2548
วันนี้มีโทรซิบจากบริษัท Rograde คุณไนท์หนุ่มเชิญให้ไปอัดรายการทำอาหาร
ฝันไปเหอะ… จะหลอกไปลงบ่อน้ำมันอีกอ่ะดิ ลูกผู้ชายชื่อสุรเดชเจ็บแล้วจำนะเฟ้ย ลาขาด!!
วันที่ 23 เมษายน 2548
วันนี้ไปเดินเล่นที่โคโมโด เห็นใน Roclub บอกว่าอากาศดี แต่พอไปเดินทำไมได้กลิ่นน้ำมัน แปลก สังเกตดี ๆ อ๋อ มาจากหุ่นยนต์นี่เอง เดินตีกบกันให้ควักเลย เทคโนโลยีที่โคโมโดช่างล้ำสมัยจริง ๆ
วันที่ 24 เมษายน 2548
อากาศร้อน.. วันนี้อากาศร้อนมาก รู้สึกเหมือนตัวจะละลาย นี่ขนาดได้ร่มไม้บังแล้วนะเนี่ย ไม่ได้ ๆ เดี๋ยวผิวเสีย ยิ่งเราเป็นดาราดังของคอลัมน์นี้ด้วย เรทติ้งตกไอ้ไนท์หนุ่มมันก็มาโทษเราอีก หาซันบล็อคมาทาด่วนเลย
ซันบล็อคหาเจอแล้ว แต่ทาไม่ได้!! ไม่มีมือ!! ว้อยย…!! ชีวิตซุปเปอร์สตาร์ทำไมถึงได้ลำบากยังงี้
วันที่ 26 เมษายน 2548
หายไปหนึ่งวัน ท้องเสีย สาเหตุเนื่องจากกินซันบล็อคทั้งขวด กะประชดพระเจ้าที่สร้างให้เราไม่มีแขน ไม่น่าหงุดหงิดเล้ย… เป็นงี้ทีไรสติขาดทุกที
ไม่ไหวแล้ว เพลีย… นอนดีกว่า
วันที่ 27 เมษายน 2548
วันนี้มีโทรซิบมาหา เสียงผู้หญิง บอกว่าคิดถึงมาก อยากเจอหน้าจัง ชอบนะรู้มั้ย จุ๊บ ๆ
ไม่เสียเวลาเดา พอลล่าแน่นอน หึ ๆ แล้วตอนถ่ายมิวสิควีดีโอด้วยกันทำเป็นเล่นตัว ลับหลัง 1 เดือนแอบโทรหา ไม่เป็นไร ผมให้อภัยผู้หญิงทั้งโลกได้อยู่แล้ว เข้าใจว่านางพญาก็ต้องมีลีลากันบ้าง จะมาบอกชอบก้อนเยลลี่กลางกองถ่ายมันก็ดูเป็นหญิงไร้ค่า เอาล่ะ… สนองความต้องการภายในของเธอสักหน่อย
“พอลล่าเหรอจ๊ะ สุรเดชก็ชอบพอลล่าเหมือนกันนะ รู้มั้ย จุ๊บๆ”
“อะไรนะ พอลล่า!! ข้อยชื่อนงเปรียะตะหาก นายชื่ออะไรน่ะ สุรเดชเหรอ ว๊าย!! ขอโทษๆ ข้อยนึกว่าพี่อ่ำปรึก แค่นี้นะคะ”
เค้าโทรผิด….
วันที่ 28 เมษายน 2548
วันนี้นั่งอ่านหนังสือปรัชญาเยลลี่ แต่งโดยเซอร์เจเล่ไลท์ จอห์น เบาว์ริ่ง ที่ 14.5 อยู่หน้าบ้าน
ผมรู้สึกว่าเป็นหนังสือที่ดีมาก วันนี้นั่งอ่านทั้งวัน ได้คติสอนใจ ชอบคำคมที่ท่านกล่าวไว้ในหน้า 116 วรรคที่ 2 ย่อหน้าที่ 4 แยกเกษตร เลี้ยวซอยหน้า หลังซ้ายมือ
ในหน้านั้น ตรงนั้น มันเป็นคำที่โดนผมมาก
ในหน้านั้น ท่านกล่าวว่า
มีดโกน….!!
อืม.. เป็นคำที่คมจริง ๆ
วันที่ 29 เมษายน 2548
วันนี้ผมออกไปเดินเล่นที่หน้าพรอน ไม่มีโนวิทวิ่งไล่ตีผมเลยสักคน หุ ๆ ไม่ต้องแปลกใจ วันนี้ไม่มีใครจำผมได้
เพราะวันนี้ทาสีดำหนึ่งวัน เพื่อไว้อาลัยให้กับมุขมีดโกนของคุณไนท์หนุ่ม น่าสงสารจริง รู้ว่าไม่ตลกแล้วยังจะดันทุรังเล่นอีก
วันที่ 30 เมษายน 2548
เอาล่ะ..!! ในที่สุดก็เขียนครบอีกเดือน ตามที่แพทย์สั่งพอดี แผลที่ถูกทอดที่ปากก็ใกล้จะหายแล้ว สุรเดชกำลังจะกลับมาเริงระบำอีกครั้ง ยิบปี้!! เย้!!
เอาล่ะ… เก็บไดอารี่ใส่ตู้เซฟดีกว่า
เดี๋ยวไอ้ไนท์หนุ่มแอบฉกไปลงคอลัมน์มันอีกล่ะก็… แย่เลย ค่าตัวก็ไม่ได้ เฮ้อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น