วันศุกร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2558

เกรียนกรึ่มกรึ่ม ตอน แต่ทำไมทำไมต้องเกรียน






(ขอบคุณรูปประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


(ต้นฉบับวันที่ 17 ก.พ. 56)


          มีอยู่คำถามนึงที่ผมสงสัยตั้งแต่เริ่มเขียนคอลัมน์เมื่อหลายล้านปีที่แล้ว



          นั่นคือ “ทำไมคนเล่นเกมมันต้องเกรียน??” นั่นสิ ทำไม ได้แต่บอกทำไม


          โอเค..... ก่อนจะไปหาคำตอบเรามาขยายความคำว่าเกรียนกันก่อน กระดาษมีเตรียมจด ไม่ออกสอบ   ไม่ต้องตกใจ อยากให้จดเพื่อเป็นกำลังใจในการอธิบายเฉยๆ


          ความเกรียนคืออะไร (ทำเสียง อ.เฉลิมชัย)  มั้น!! คือพลังแฝงในรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเราจะแสดงมันออกมาเมื่อเราต้องการอะไรสักอย่างโดยไม่แคร์ผู้อื่น และเมื่อเราเกรียนมันออกมาแล้ว!! เราจะควบคุมมันไม่ได้!! รู้สึกตัวอีกทีมันก็ไปถึงไหนต่อไหนแล้ว!! โอ้ววว!!!


          ยกตัวอย่างง่ายๆ จากตอนที่แล้ว ไอ้เด็กสเปรสที่มันทะลึ่งบ้องเดี๋ยวก็ต่อครึ่ง ชม. ครึ่ง ชม. นั่นคือมันเกรียนแล้ว แสดงว่าตอนแรกมันไม่ได้กะมาเล่นยาวขนาดนี้ ตอนแรกกะเล่นครึ่ง ชม. แล้วกลับบ้าน เอาเงินที่เหลือไปซื้อแคปหมูเดินแทะเล่นกลับบ้านก็ได้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ดันอยากเล่นต่อซะงั้น คุมตัวเองไม่ได้ เงินหายหมด!!
     
         เดินตาเหลือกกลับบ้านตัวเปล่า เฮ้ย  มันเกิดอะไรขึ้นกับเงินในกระเป๋า


          หรือคุณเคยมั้ย เวลาเล่นเกมต่อสู้กับเพื่อนที่เก่งมากๆ แล้วเอาชนะมันไม่ได้ โอ้โห... คุณเอ้ย คุณจะทำทุกวิถีทางแหละครับ เสียงดัง แขวะ ด่า ออกแอคชั่นสารพัด ชี้ให้ดูจานบิน จะชี้ทำไม.... 



          ปัญญาอ่อน ใช่ แต่มันคุมตัวเองไม่ได้!! แม่มาเรียกให้ไปเก็บผ้า......นี่ก็ปัญญาอ่อน แต่มันคุมไม่ได้!!! เวลาฆ่าบอสก็เหมือนกัน บอสยิ่งเก่งเราจะยิ่งเกรียน เล่นไปพากย์ไทยไป ใส่อารมณ์สุดๆ เท่าที่มนุษย์คนนึงจะทำได้ ถ้าเอ็งแหวกจอถือหน้าสามเข้าไปหามันในนั้นได้ คงทำไปแล้ว



          อย่าว่าแต่เล่นเกม ไม่จำเป็นต้องเล่นเกมคุณก็เกรียนได้ เกรียนถ่ายรูป ตอนปกติอยู่ดีๆ พอกล้องจับก็รั่วขึ้นมาทันที หรือเกรียนเฟส จู่ๆ อยากจะไปเม้นท์ป่วนใครมันก็เกรียนออกซะยังงั้น นี่แหละคือความเกรียนครอบงำ มันจะมาพร้อมกับความต้องการ และมันจะเข้าสิงคุณตอนที่คุณไม่รู้ตัว รู้แต่ว่า คุณต้องเกรียน เกรียน เกรียน!!! และเกรียน!! จนกว่าจะฟีนา.....เล่ห์ ชาเลบังก้า


          ส่วนผมน่ะเรอะ ก็.....เคยเป็นนะ แต่ก็ไม่ได้อยากจะเป็นนักหรอก....ชริ


         แต่ทำไม ทำไมต้องเกรียน..... ทุกครั้งที่จับจอยเกม หรือจอยเกมกับคีย์บอร์ด มันเคลือบสารเกรียนโนติลิบัลมซันฟ่าทอกซิลหรืออย่างไร ซึ่งผิวหนังเราจะสามารถดูดซึมแล้ววิ่งเข้าสู่สมองได้ทันที เป็นเหตุให้เลือดบ้าสูบฉีด หลุด รั่ว มั่ว แหลก ไร้ซึ่งมารยาทที่คนไทยโบราณควรจะมี จะบ้าเหรอ ไม่ต้องให้ท่องซ้ำ จำชื่อสารไม่ได้แล้ว



          แต่จะพูดไปเราก็ไม่เห็นภาพ ยกตัวอย่างเลยดีกว่า ผมเคยเจอนะ เด็กเรียนจ๋าที่ดูลุคยังไงก็โคตรเนิร์ด ชื่อยัยผักบุ้ง อายุประมาณ 11-12 ขวบ เป็นลูกเพื่อนแม่ มาพร้อมกับแบบเรียนสนทนาภาษาอังกฤษฟุดฟิด แม่แกเอามาฝากไว้ แล้วก็ออกไปซื้อของ






          ตอนนั้นผมให้ผักบุ้งเล่น Ps1 เกมพี่แบ๊งค์แคลช บาติครูส ตัวเอกมันจะเป็นเหมือนหมาบ้า วิ่งๆ หมุนทำลายสิ่งกีดขวางไปเรื่อย ผมยกให้เป็นเกมสิ้นคิดเวลาที่ไม่รู้จะชวนเพื่อนเล่นเกมอะไร มาจบที่แผ่นนี้ทุกที เพราะมันเล่นง่าย!!! จับครั้งแรกก็เล่นได้แล้ว แค่วิ่งไปเรื่อยๆ กระโดดหลบนู่นหลบนี่ เจอตัวอะไรขวางหมุนตัวใส่ม่างเลย ใครเล่นไม่เป็นก็สมควรไปทำฮาราคีรีหน้าตึกฟิวเจอร์อย่างเป็นที่สุด เพราะมันง่ายไม่รู้จะง่ายยังไงแล้ว



          ก่อนผมจะหยิบแผ่นใส่เครื่องให้ โอโห.... คุณเอ๋ย เด็กบ้าอะไรจะเรียบร้อยขนาด นั่งนิ่งเป๊ะ โมเอ่ะซะเหลือเกิน เดี๋ยวปั๊ดเลี้ยงต้อยซะเลยนี่

          “เล่นเกมไปละกันนะ เดี๋ยวพี่ต้องไปทำงานก่อน”

          “เล่นไงอ่ะพี่”


          “ก็ง่ายๆ น้องผักบุ้งเลื่อนขึ้นไปอ่านย่อหน้าก่อนหน้านั้นนะครับ พี่เขียนอธิบายไว้หมดแล้ว”



          น้องผักบุ้งก็เลื่อนขึ้นไปอ่านย่อหน้าก่อนหน้านั้น ก่อนจะพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจ แต่ในขณะที่คนอ่านเริ่มไม่เข้าใจแล้วว่ามุขอะไร....... ให้เลื่อนไปอ่านย่อหน้า....ไอ้บ้าเอ้ย


          จากนั้นผมก็กลับไปห้องส่วนตัว เพื่อจะทำงาน....... จนเวลาล่วงเลยไป 10 นาที 



          ได้ยินเสียง โครมมมม!!!!


          ไม่ใช่กูเกิลแน่ๆ!!! สมัยนั้นยังไม่มีโครม แล้วมันเสียงอะไร หรือว่ายัยผักบุ้งตกเก้าอี้!!! ผมรีบวิ่งออกไปดู..... ยัยผักบุ้งนั่งอยู่ที่เดิม ส่วนเครื่องเกมโดนกระชากลงมาอยู่ที่พื้นแล้ว



          “เย้อยยยย....... อะไรเนี่ยยยย”



         แต่ผักบุ้งไม่สนครับ กำลังเมามันกับการวิ่งหลบหินอยู่!!!



          “ว้าวๆๆๆๆๆๆๆๆ กระโดด!!! กระโดด!! ว้าวๆๆๆๆๆๆ มาเด้ มาเลย!!! ว้าวๆๆๆๆๆๆ”




          เฮ้ย........ เหมือนเป็นคนละคน ไอ้เด็กน้อยใสซื่อ มือจับหนังสือเรียนเมื่อกี้หายไปไหนแล้ววะ!!! แล้วยัยนี่มันใครวะเนี่ย โอ้โห แม่คุณ เล่นเกมเยี่ยงไปออกรบ!!! เดี๋ยวลุกเดี๋ยวนั่ง เอ็งจะกระชากเครื่องลงมาที่พื้นได้ก็ไม่แปลกหรอก



          “เฮ้ย เบา!!! เดี๋ยวพัง!!!!”



          “ว้าวๆๆๆๆๆๆๆๆ”



          พอแม่กลับมารับ ยัยนี่ก็กลับสู่สภาพเดิมอย่างแนบเนียน กลายร่างเป็นเด็กเนิร์ดอีกครั้ง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อกี้นี้



          “ผักบุ้ง ได้อ่านหนังสือรึเปล่าเนี่ย กลับบ้านแม่จะสอบก่อนกินข้าวเย็นนะ”


          “อ่านค่ะแม่..... แม่ แม่ขา ถ้า....ถ้า ผักบุ้งสอบได้เกรด 3.5 แม่ซื้อเพลย์สเตชั่นให้หนูนะ นะ”


          “ได้สิลูก แน่ะ อยากจะหัดเล่นเกมเหรอ....” 


          โอ้โห.... หัดเหิดอะไร คุณแม่ไม่รู้อะไร ยัยนี่มันขั้นเทพแล้ว ว้าวๆๆๆ มันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ถ้าตอนนั้นมือถือถ่ายคลิปได้นะ เดี๋ยวแม่จะได้เห็นว่า เวลาวีรสตรีโบราณเค้าออกรบ มันเป็นยังไง



          แต่ผมเชื่อนะว่า ในโลกนี้ไม่มีใครหรอก ที่เล่นเกมแล้วไม่เกรียน ผมเอาหัว บก.วีคลี่เป็นประกันเลย อยู่แค่ว่าจะเกรียนช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง ไอ้ที่เล่นนิ่งๆ ทำเหนือๆ นั่นน่ะสร้างภาพ ผมน่ะเคย ทำไมจะไม่รู้ พอมีสายตาอื่นจับจ้อง จะต้องมีฟอร์มของเกมเมอร์ ต้องแบบมีแอคติ้งเล็กน้อย อุ๊บส์....แหม่ กดไม่ติด จะต้องเล่นท่ายากเรื่อยๆ โชว์ทริกเอาใจไทยมุง เวลาชนะแล้วก็ไม่แสดงอาการ ทำให้เหมือนว่าเป็นเรื่องกล้วยๆ ง่ายๆ ทำจนเคยชิน 

 

          แต่ลับหลังตอนเล่นที่บ้านเพื่อนสิครับ ไอ้นี่แหละคือร่างที่แท้จริงของคุณ


          “ฮ่าๆๆๆๆ กร๊ากกกก อ่อนว่ะ!!!! เจอนี่หน่อย ว๊ากกกกก เฮ้ยโกงนี่หว่า ไม่แน่จริงนี่หว่า อะไรของเอ็งวะเนี่ยยยยย กร๊ากกกก อ๊อน อ่อน ว้าวๆๆๆๆๆๆ”


          เนี่ย!!!! ผมกล้าพนันล้านนึงแบบไม่เอาอะไรเลยว่า ถ้าเล่นอยู่คนเดียวหรืออยู่กับเพื่อน คุณจะต้องเกรียนออก!! ไม่มากก็น้อยล่ะ ไม่มีหรอกมา หึหึ.... โดนอีกแล้ว แหม วันนี้ฟอร์มไม่ค่อยดีเลย......... โอ้ว ไม่ไหวเลยนะไนท์หนุ่ม ไม่มีหรอกครับ ส่วนตัวขนาดนี้จะวางฟอร์มหาพระแสงของ้าวอะไร



           ผมอยากให้สถาบันไหนก็ได้ครับ ช่วยพาเด็กธรรมดาๆ ไปสัก 2-3 คน จับใส่ห้องหลอดแก้วแคปซูลหอกเหวอะไรก็ได้ แล้วให้มันเล่นเกมแอคชั่นมันส์ๆ สักเกม แล้วจับเวลา!!! เอาตั้งแต่เริ่มจับจอยนี่แหละ ดูซิว่าพวกมันจะเกรียนแตกกันเมือไหร่ หาค่าเฉลี่ยออกมาเลย ผมล่ะอยากรู้จริงๆ สถาบันไหนก็ได้ ถ้าว่างจากวิจัยเห็ดสกัด พรุนสกัด ซุปไก่สกัดแล้วก็ช่วยทำให้ผมที แล้วผมจะหอมแก้มทีนึงเป็นค่าตอบแทน



          ความเกรียนมันดูเหมือนเลวร้ายนะ แต่ก็ไม่ร้ายแรง มันเหมือนเป็นการปลดปล่อยอะไรอย่างนึง ที่เราไม่สามารถทำออกมาได้อย่างถูกต้องในชีวิตประจำวัน ถามว่าจำเป็นไหม??..... ผมมองว่าโคตรจำเป็น คนเรามันเจอความเครียดอะไรมาเยอะครับ เราควรจะต้องมีโหมดปลดปล่อยสวัสดิกะบ้าง




          ถ้าถามผมว่า ทำไมเล่นเกมแล้วต้องเกรียน ผมจะตอบว่า “ก็เรากำลังสนุกอยู่อ่ะ เรากำลังปลดปล่อย เรากำลังได้ทำอะไรที่ในชีวิตจริงเราทำไม่ได้ ต่อสู้ ฆ่าฟัน ยิงปืน ปล่อยแสง ร่ายเวทย์ สารพัดจะบ้าบอคอแตก ไม่ผิดกฎหมายด้วย…..



          แล้วคุณจะเก็บอาการไว้ทำไมครับ เก็บไว้แลกกิฟวอยซ์เชอร์ที่ไหนเหรอ???



          ในชีวิตผมน่ะ ผมไม่เคยสอบได้ที่ 1 นะ แต่ผมเคยเล่นเกมแล้วได้คะแนนเป็นที่ 1 ผมว่าความรู้สึกมันคงไม่ต่างกัน แต่มุมมองสังคมที่มองเข้ามาจะต่างกัน หากเราโตขึ้นแล้วไม่ได้เล่นเกมแบบนี้อีก จงภูมิใจไว้ครับ ที่ครั้งหนึ่งเราได้เกรียน หากเรามีลูกมีหลาน เล่าให้เขาฟังเลยว่า ความเกรียนมันฟินยังไง



         ลูกคุณอาจมองคุณด้วยหน้าเฉินหลง แล้วบอกว่า นี่พ่อตูหรือเนี่ย......



         อันที่จริงของแบบนี้ ไม่ต้องหาคำตอบก็ได้ครับ ลองได้สัมผัสสักครั้งจะเข้าใจเอง.....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น