วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2559

ROซอกหลืบ ตอน Webboard หลืบ ๆ

(ต้นฉบับปี 2548)


Webboard (เว็บ – บอร์ด) : กระดานชนิดหนึ่งในโลกอินเตอร์เน็ต ทำหน้าที่คล้ายโถส้วม มีไว้สำหรับระบายของเสียทุกขนาดออกจากร่างกาย ไม่เหมาะสำหรับคนที่รักความสะอาด ใช้ร่วมกันได้ทั้งชายและหญิง พบเห็นได้ตามเว็บไซด์ทั่วๆ ไป


หึ ๆ  เป็นไงล่ะ วันนี้ขึ้นหัวข้อมีสาระอีกแล้ว ไม่ใช่ว่าหมดมุขนะ  แค่เล็งเห็นว่าเรื่องเว็บบอร์ดนี่มันก็เป็นปัญหาหนึ่งของวัยรุ่นวัยคะนอง หวังว่าคนอ่านคงเข้าใจ เรื่องตลกนี่ ผมจะตลกเมื่อไหร่ก็ได้ หึๆ เพราะยังไงก็ไม่มีใครขำอยู่แล้ว… โอย พิมพ์ประโยคนี้ทั้งน้ำตา



พูดถึงเรื่องมุขแล้วนึกออกเรื่องนึง มีเมลล์ส่งมาหาครับ เป็นเด็กผู้หญิง เนื้อจดหมายบอกว่าอ่านคอลัมน์พี่แล้ว.. ชอบมากกก บ้านพี่อยู่ไหนเหรอคะ หนูจะส่งน้ำมันหล่อลื่นมาให้


ผมยิ้มนิดๆ แหม… เด็กคนนี้ น่ารักจริงเชียว รู้น๊า… จะเล่นมุขอะไร ก็เลยตอบกลับแบบอารมณ์ดีๆ ไปว่า


“ไม่ต้องหรอกครับ เพราะปกติพี่ก็หล่ออยู่แล้ว อิอิ”


ผ่านไป 2 วัน น้องเขาก็เมลล์กลับมาว่า


“อ๋อ… ไม่ใช่ค่ะพี่ หนูจะให้เอาไปหยอดมุขตลกของพี่ตะหาก มันจะได้หายฝืดซะที อิอิอิ”


อะ.. เอ่อ ขอบคุณมากครับ ไว้วันหลังพี่จะไปเผาบ้านน้องเป็นการตอบแทนละกัน


ฮือ… ฮือ ใช่สิ ผมมันไม่ตลก ผมมันก็มีดีแค่หน้าตาคล้าย “ติ๊ก เจษฎาภรณ์” เท่านั้น การศึกษาก็จบแค่มหาลัยฮาร์วาร์ด คณะช่างอุตฯ  
ถ้าจบคณะเชิญยิ้มก็คงไม่โดนใครดูถูกอย่างนี้  


ฮือ… คิดแล้วเจ็บใจ เลิกเขียนคอลัมน์แล้วไปเดินแบบประชดชีวิตดีมั้ยเรา   เฮ้ย!! ไม่ได้ๆ เดี๋ยวเค้าจะหาว่าขายหน้าตา 


ผมเชื่อว่ามีแฟน ๆ คอลัมน์หลายคนยังเชื่อมั่นในสมองกลวง ๆ ของผม เอาล่ะ! ข้อยเปลี่ยนใจแล้ว ข้อยจะสู้!! สู้เพื่อศรัทธาของแฟนๆ ทุกคน ฮือ… ฮือ… จะร้องไห้ทำไมวะเนี่ย


และกลุ่มแฟนส่วนหนึ่งของผมก็อยู่ในเว็บบอร์ดนี่ล่ะ นี่… เก่งมั้ยล่ะ นอกเรื่องอยู่ดีๆ ดึงกลับมาเข้าเรื่องได้ซะยังงั้น เอาล่ะ ยอตัวเองพอประมาณ เข้าเรื่องต่อ แล้วไอ้เว็บบอร์ดเนี่ย มันมีอะไรบ้างล่ะ


เท่าที่เห็น ส่วนประกอบของมันก็จะมี 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ

***********************************************

1. กระทู้

ทู้ กระทู้วว… กระตู้วู้ กระตี้วี้ อืม… แล้วแต่จะถนัดเรียก กระทู้นี่ก็จะเหมือนเป็นห้อง ๆ หนึ่งก็ว่าได้ ซึ่งห้องเหล่านี้ถูกตั้งไว้เพื่อรอคนเปิดประตูแล้วเข้าไปถกเถียงกันในนั้น และแต่ละห้องก็จะขึ้นป้ายไว้ชัดเจนว่าเกี่ยวกับอะไร เนื้อหาอย่างไร เช่น กระทู้กีฬา ก็จะตั้งชื่อประมาณว่า

“ผีอ่อนว่ะ แพ้จุดโทษ ให้บุกทั้งเกม ทำอะไรปืนไม่ได้” ตั้งโดยคุณ เธียรรี่ อองรี

หรือ “แพ้จุดโทษก็แค่แพ้ดวง นั่งปากห้อยอยู่ข้างสนามอย่าพูดมาก” ตั้งโดยคุณ พอล สโคลล์

หรือ “ฝีเท้ากระจอก จุดโทษยังยิงไม่เข้า แขวนสตั้ดไปเล่นเป่ากบดีกว่ามั้ย” ตั้งโดยคุณ ปีแรส

หรือ… เอ่อ พอเหอะ สำหรับกระทู้กีฬาเอาเป็นว่ายกตัวอย่างแค่นี้ละกัน เดี๋ยวจะมีนักเตะฟาดปากกันซะเปล่าๆ



ชื่อห้องกีฬามันก็จะแนวๆ นี้ ถ้าเป็นกระทู้ประเภทอื่นๆ ล่ะ เช่น

การ์ตูน ชื่อกระทู้ก็จะประมาณว่า “ใครชอบอ่าน เนกิมะ เข้ามาเลยค่ะ”

ถ้าเป็นกระทู้ดารา ก็ “ใครชอบพี่ติ๊ก เข้ามาเลยค่ะ”

ถ้าเป็นกระทู้ภาพยนต์ ก็ “ใครชอบสตาร์วอล์ เข้ามาเลยค่ะ”

ถ้าเป็นกระทู้เกมส์ ก็ “ใครชอบเปิดกันดั้ม เข้ามาเลยค่ะ” อย่างนี้เป็นต้น

เห็นมั้ยครับ แค่เห็นชื่อก็เข้าใจกันง่ายๆ และในเว็บบอร์ดเค้าก็จะแบ่งหมวดหมู่ตามชื่อกระทู้ที่ตั้งนี่แหละครับ คนที่เข้ามาเล่นจะได้ไม่หลงทาง อยากระบายเรื่องไหนก็เข้าหมวดนั้นได้เลย



แต่…. ชื่อกระทู้บางชื่อ ก็เห็นแล้วงง ๆ ตะหงิด ๆ นิด ๆ อ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ

อาจไม่ถึงขั้นผดผื่นขึ้น แต่สงสัยเหลือเกินว่าจะตั้งมาหาเหวอะไร เช่น



อั้มโชว์นม (กระทู้ดักวัว)

โอว… เห็นชื่อกระทู้อย่างตื่นเต้น มือไม้สั่นเครือ เหงื่อออกฟื้ดฟ้าด… พระแจ้ว!! ภาพนี้ที่รอคอย คนตั้งกระทู้ทำไมถึงได้ใจบุญยังงี้ เอ้า… กำลังจะคลิกเข้าไปดู แต่เกิดสงสัยข้อความที่อยู่ในวงเล็บเล็กน้อย เอ่อ… ดักวัว ในบอร์ดนี้มีวัวกำลังออนไลน์ด้วยเหรอ เอ.. หรือว่าจะเป็นไวรัส กระทู้สามารถดักไวรัสได้ด้วยหรือเนี่ย อืม ช่างมันเหอะ… ตอนนี้ในหัวมีแต่อั้มโชว์หนองโพเท่านั้น เข้าไปดูเลยดีกว่า แฮ่ๆๆๆ

(คลิกเข้าไปดู ปรากฏว่าเป็นรูป อั้ม อธิชาติ ถอดเสื้อโชว์กล้ามอก)

เฮ้ย!! (ความตื่นเต้นลดลง 99.9%)

ไอ้เหี้……..ยม เล่นงี้เลยเหรอ เออ แต่ก็จริงของมันเว้ย อั้มโชว์นมจริงๆ ด้วย ปราชญ์ชาวเปอโตริโกกล่าวไว้ว่า “ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย” แต่ตอนนี้ตูชักอยากจะมอบความตายให้กับคนตั้งกระทู้นี้ซะแล้วสิ เออ… ว่าแต่ ไหนล่ะวัว ไม่เห็นมีสักตัว มีแต่คนมาตอบกระทู้ทั้งนั้น อืม… ตั้งร้อยกว่าคนแน่ะ แต่แปลก ทุกคนที่เข้ามาล้วนแต่พิมพ์ประโยคเดียวกันทั้งนั้น ว่า

“มอ… มอออ….”

เฮ้ย.. เดี๋ยว หรือว่า….





รับสมัครตัวละครค่ะ

ส่วนใหญ่จะสิงสถิตย์อยู่ในบอร์ดการ์ตูน ฟังชื่อกระทู้แล้วนึกว่าบริษัทโมเดลลิ่งมาเอง งงอ่ะ ไหนคลิกเข้าไปดูหน่อยซิ มันยังไงกันแน่


อ๋อ.. รับสมัครตัวละครในนิยายเรื่อง “อวสานโปรแกรมช่วยเล่น” โห… จะสร้างหนังนี่หว่า แฟนตาซีซะด้วย ไหนๆ แล้วมีใครมาสมัครรึเปล่า ดูซิ เออ… มีด้วยแฮะ



“ชื่อ ทาคุโตะ เมก้าสไนเปอร์ อายุ 15 ปี เพศชาย อาชีพโจร

นิสัยรักเพื่อน ร่าเริง แอบขรึมนิดๆ ชอบร้องไห้ เวลาต่อสู้จะจริงจัง เวลาไม่ต่อสู้จะไม่จริงจัง

นักสู้สายฟ้า + ลม

อาวุธ ส้อมพรวน+7”



“ชื่อ เรนะ จ๊ะทิงจา อายุ 14 ปี เพศหญิง อาชีพ เมจ

นิสัยอ่อนโยน รักเพื่อน ชอบทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง ไม่สูบบุหรี่ ใส่หูแมวตลอดเวลา

นักสู้สายไฟ + ปลั๊กไฟ

อาวุธ ไม้เกาหลัง + 5 ใส่การ์ดดรอปศุภโชค 2 ใบ”



“ชื่อ วาสลีน ทากามัตสึ อายุ 18 ปี เพศหญิงโลหะ อาชีพ นักบวช

นิสัยร่าเริง สนุกสนาน ขำๆ ชิวๆ กิ๊วๆ อ่ะเพี้ยวๆ จะแว๊ดๆ

นักสู้สายลม + แสงแดด + ภูเขา + สองเรา

อาวุธ สวอทเมจ + 7”



เอ่อ… ทำไมมีแต่คนต่างชาติมาสมัครวะ แล้วที่อยู่ในสำเนาทะเบียนบ้านไปไหน รูปถ่าย 1 นิ้วล่ะ ใบรับรองอีก เฮ้ย!! พวกนี้ไม่เคยสมัครงานรึไงอ่ะ เออ แต่เราจะไปว่าเขาก็ไม่ถูกนะ ก็เขาไม่ใช่คนไทยนี่หว่า เอ่อ.. แต่มันรู้สึกแหม่งๆ นะเนี่ย ทำไมต้องมารับสมัครในเว็บบอร์ดด้วยวะ ผมสงสัยอยู่หลายเดือน…..

จนกระทั่งมีรุ่นน้องคนหนึ่งมาไขข้อข้องใจให้ผม

รุ่นน้อง : โห่… โย่ว แหมน ไม่ใช่ยังงั้นพี่ไนท์ เค้าแค่จะแต่งนิยายลงบอร์ดเฉย ๆ ไม่ได้สร้างหนังจากนิยาย

ไนท์หนุ่ม : แล้วทำไมต้องสมัครตัวละครด้วยวะ เค้าคิดเองไม่ได้รึไง ขี้เกียจเหรอ

รุ่นน้อง : โด่ว… พี่ไนท์ไม่แซ๊บเลย เค้าก็จะให้เพื่อนๆ ร่วมบอร์ดได้มีส่วนร่วมไงพี่ แบบว่าเพิ่มความตื่นเต้นในการอ่านไง เค้าจะได้ลุ้นด้วยว่าตัวละครของเค้าจะมีชะตากรรมยังไงต่อไป จะเพาเวอร์อัพยังไง ตายตอนจบมั้ย เข้าใจมั้ยเนี่ยพี่

ไนท์หนุ่ม : แล้วทำไมต้องชื่อต่างชาติด้วยวะ ใช้ชื่อไทยๆ มันจะตายรึไง คนแต่งก็เป็นคนไทยไม่ใช่เหรอ

รุ่นน้อง : โด่ว… พี่ไนท์นี่ไม่ใจเลย นิยายแฟนตาซีนะพี่ ใช้ชื่อไทยๆ มันก็เสื่อมหมดอ่ะดิ ลองนึกภาพสิพี่ นักรบชุดเกราะชื่อ ”บุญมา” เทพธิดาชื่อ “จำเนียร” โห่.. หมดเลย… คนอ่านกร่อยหมด เซ็ง ผื่นขึ้นเลย เข้าใจมั้ยพี่หัดเอาหยากไย่ออกจากสมองมั่งนะพี่ไนท์!!



เอ่อ.. ค คับ พี่ใจแล้วคับ หายโง่เลยคับ





เด็กใหม่ค่า…

อันนี้ไม่ถึงกับงง แต่สงสัยเหลือเกินว่าทำไมต้องออกมาแนะนำตัวด้วย ได้ ID ไปแล้วเล่นเลยไม่ได้เหรอครับ หรือเล่นเลยแล้วบ้านจะเกิดเพลิงไหม้ ทั้งๆที่ก็รู้อยู่ว่ายังไงคนในบอร์ดก็ต้องออกมาต้อนรับด้วยมิตรไมตรีแห่งสยามประเทศอยู่แล้ว ตั้งขึ้นมาทำม๊าย… ถามจริงๆ เหอะ มีมั้ยที่เห็นใครออกมาแนะนำตัวแล้วโดนแบบนี้บ้าง

ชื่อกระทู้ “เด็กใหม่นะค๊า ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ”

“อี๋… ไม่รับฝากเฟ้ย ไม่ใช่ธนาคาร จะไปไหนก็ไป ที่นี่ไม่ต้อนรับ” โพสโดย พรีสน่ารัก

“เด็กใหม่เหรอ… ที่นี่มีแต่ผู้ใหญ่เล่น ไม่ต้อนรับ!!” โพสโดย จิ้มจุ่มจัง

“ไปตายซะ..!! ทีนี่ไม่ต้อนรับ นังพจมาน เอ้ย!! ไม่ใช่ นังเด็กใหม่” โพสโดย หญิงเล็ก



เนี่ย… เคยเห็นมั้ยล่ะครับ ไม่มีหรอก ยกเว้นจะบอกเค้าว่าชื่อ”ไนท์หนุ่ม”เท่านั้นแหละถึงจะโดนแบบนี้ นี่ผมไม่ได้ว่าคนตั้งกระทู้นะ แค่อยากบอกว่า เล่นเว็บบอร์ด ไม่ต้องมีพิธีรีตรองอะไรมากหรอกครับ ลงเรานิสัยดี เล่นอย่างมีมารยาทซะอย่าง ทุกคนก็ยิ้มต้อนรับเราโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว

*************************************************

2. คนตอบกระทู้

มีกระทู้… แต่ไม่มีคนตอบ แล้วจะตั้งขึ้นมาหาซอกตึกอะไร คนในที่นี้ก็หมายถึงมนุษย์นี่แหละ พอจะนึกออกมั้ย อย่านึกถึงไอ้มนัสนะ ไอ้นั่นเค้าเรียกว่าผิดมนุษย์ คนตอบกระทู้ก็คือคนธรรมดานี่แหละ คนที่มีความคิด มีชีวิตจิตใจ ที่อยากเอาความคิดเห็นของตัวเองมาถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือลงบนอินเตอร์เน็ต จะเพื่อระบาย หรือเพื่อถ่ายทอดสาระอะไรก็ว่าไป แล้วแต่ตัวบุคคล

และประเภทของคนตอบกระทู้ ส่วนใหญ่ๆ จะแบ่งได้ดังนี้



ประเภทที่ 1 “ได้ใจความ”

คนประเภทนี้จะออกความคิดเห็นตามหัวข้อ และตอบกระทู้ค่อนข้างได้ใจความ รู้เรื่อง ใช้ตัวหนังสือคุ้ม คนอ่านเข้าใจง่าย ได้สาระ สรุปคือเป็นคนปกตินั่นเอง จะอธิบายทำไมวะเนี่ย ข้ามไปเลยละกัน



ประเภทที่ 2 “ช่างปั้ม”

พวกนี้จะเน้นตอบสั้นๆ ง่ายๆ เหมือนส่งโทรเลข แต่ไม่ได้ใจความอะไรเลย ไม่ว่าหัวข้อดุเด็ดเผ็ดมัน มีสาระ หรือต้องการความเห็นมากแค่ไหนก็ตาม เมื่อเห็นกระทู้ คนเหล่านี้จะเข้ามาปรากฏตัวครับ… แล้วเขาก็จะฝากวลีที่คนตั้งกระทู้เห็นแล้วแทบอยากจะส่งคนไปกระทืบ เช่น

“เห็นด้วย… อิอิ”

“ชอบจังเรย”

“เอิ๊กๆๆ”

“ง่า…”

โดยสถิติโลกที่คนกลุ่มนี้สร้างไว้ต่ำสุดแค่ 1 พยางค์ เท่านั้น แต่ล่าสุดครับ สถิตินี้ได้ถูกทำลายลงเรียบร้อยแล้ว โดยฝีมือนักเล่นเว็บบอร์ดนิรนาม มันโพสว่า

“ ^o^ “

ฮือ… ตกลงพวกแกมีสมองไว้ถ่วงหัวใช่มั้ย



ประเภทที่ 3 “อวดฉลาด”


คนตอบกระทู้ประเภทนี้จะต่างจากแบบที่แล้วราวฟ้ากับเหว คนประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กเรียนดี ตอบสั้นๆ ไม่เป็น!! ไม่ได้ๆ เดี๋ยวเค้าไม่รู้ว่าเราเกรดเฉลี่ยเท่าไหร่ ที่บ้านมีประกาศณียบัตรกี่ใบ ไม่ว่ากระทู้จะไร้สาระหรือไม่แค่ไหนก็ตาม มันไม่เคยพิมพ์ต่ำกว่า 4 บรรทัด และส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบการเถียง เถียงด้วยคำสุภาพๆ เหมือนจะมีความรู้ อืม… สงสัยที่บ้านให้กินสารานุกรมเป็นอาหาร โอย… ใครจุดธูปขอร้องให้มันทำวะเนี่ย เห็นแล้วเหนื่อยใจ

ยกตัวอย่าง ชื่อกระทู้ “คิดยังไงกับรถเมล์สีส้ม…”

คนอื่นเค้าตอบเฉยๆ ธรรมดา

“อ๋อ.. แอร์เย็นมากเลยค่ะ แต่ก็นั่งทุกวัน”

หรือ “แพงอ่ะครับ น่าจะถูกกว่านี้” พอเค้าโพสเสร็จ ไอ้นี่มาเลยครับ!! โพสต่อเลย

“ผมว่าคุณความเห็นที่ 2 พูดยังงี้ก็ไม่ถูก เพราะ….

เอาล่ะครับ จากนั้นมันก็จะเริ่มอ้างอิงความรู้ที่ไม่มีใครอยากอ่าน เริ่มจากเศรษฐกิจค่าน้ำมัน ระบบบริหารของ ข.ส.ม.ก เปรียบเทียบกับเมืองนอก เอเชีย ยุโรป ถึงจังหวะนี้ ถ้าไม่มีใครเอาดาบไปฟันแขนมันล่ะก็ มันก็จะเริ่มร่ายพงศาวดารของการขนส่งไทย ขุดประวัติรถเมล์คันแรกแห่งสยามประเทศ กระเป๋ารถเมล์เกิดขึ้นได้ยังไง ใครเป็นบิดาแห่ง ข.ส.ม.ก ฯลฯ โอ๊ย ไม่ได้อยากรู้เล้ย…

แต่ที่แน่ ๆ ทั้งหมดต้องอ่านแล้วไม่ได้ใจความหลักสักนิด

แต่คุณอย่าไปเถียงมันเชียวนะ!! ไม่งั้นคุณจะได้เห็นความดื้อดึงที่สุดน่ารังเกียจแน่ๆ คุณจะโดนระดมด่าด้วยคำสุภาพ เช่นไร้สมอง โง่เง่า โดนดูถูกต่างๆ นาๆ จากนั้นมันก็จะสาธยายเหตุผลปนความรู้ที่ไม่มีใครอยากจะอ่านต่ออีก 5-6 บรรทัด พร้อมกับยกหางตัวเองเป็นจังหวะ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกสูงขึ้น หยุดไม่ได้แล้ว… สมองไหลแล้ว

อะไรวะ… แค่ถามว่าคิดยังไงกับรถเมล์สีส้ม แค่เนี้ย



ประเภทที่ 4 “คนโฆษณา”

อันนี้ขี้เกียจอธิบาย ยกตัวอย่างเลยละกัน

ชื่อกระทู้ “ช่วยกันให้กำลังใจน้องฮ่องเต้กันเถอะ”

“หายเร็วๆ นะ พี่เอาใจช่วย” จากกุ๊กไก่

“สู้เค้านะ พี่เอาใจช่วยอีกแรง” จากต้นอ้อ



“อยากสุขภาพดี ไม่ต้องจ่ายแพง

ลดน้ำหนักวิธีใหม่ ไม่ต้องกินยา ไม่ลดฮอร์โมน

ไม่ต้องออกกำลังกาย เดือนละ 5000 บาท

โทร 01-856-xxxx” จากคุณจามจุรี



เนี่ย… แล้วมันก็เที่ยวโพสแบบนี้ทุกๆ กระทู้…. เฮ้อ ผมขออนุญาตไม่บรรยายเป็นตัวหนังสือนะ เพราะคิดว่าคนอ่านก็คงรู้สึกเหมือนกันน่ะแหละ ละไว้ในฐานที่เข้าใจละกัน



ประเภทที่ 5 “หยาบลอยๆ”

คนประเภทนี้จะใช้คำหยาบค่อนข้างบ่อย ภายใต้ Concept “ขำๆ“ เพราะมันหยาบแบบไม่มีเป้าหมาย ไม่ได้ด่าใคร แค่พูดออกมาเหมือนภาษาปากเท่านั้น อืม… คาดว่าอยู่บ้านพวกนี้คงแทะกระดูกเป็นอาหารแน่ๆ

เฮ้อ.. บางเว็บเค้าอุตส่าห์บล็อคคำหยาบไว้แล้ว มันก็หาทางพิมพ์เล่นกันจนได้ เขียนผิดบ้าง พยายามวรรคบ้าง อยากถามมัน… วันไหนพวกแกโพสคำสุภาพๆ คีย์บอร์ดมันจะช็อตรึไง จริงอยู่… อาจจะไม่ใช้คำหยาบด่าใคร แต่ลืมไปรึเปล่าว่าเว็บบอร์ดเป็นของสาธารณะ ใครจะเข้ามาก็ได้

มันอาจจะอ่านแล้ว ขำๆ แต่ไม่มีใครประทับใจกับมันหรอกนะ


*************************************************


ถึงเว็บบอร์ดมันจะเป็นโถส้วมที่เน่าเหม็นไปด้วยอารมณ์ส่วนตัวของคน แต่บางคนก็ติดความเน่าเหม็นตรงนี้ซะแล้ว ก็ขอฝากน้องๆ เพื่อนๆ ที่อ่านคอลัมน์นี้จบช่วยรักษาความสะอาดหน่อยละกัน อย่าลืมว่าของสาธารณะน่ะ มันใช้กันหลายคนนะครับ ลองคิดดู ถ้าคุณเป็นคนที่เข้ามาใช้ทีหลัง แล้วคุณเจอสิ่งสกปรกเอ่อนองอยู่

คุณจะยิ้มออกมั้ย….. เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างนะครับ

*******************************************

ใครชอบ Rograde เข้ามาเลยค่ะ  โพสโดย...............



วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2559

เกรียนกรึ่มกรึ่ม ตอน อุปสรรคของหมู่เฮา


(ต้นฉบับปี 2557)


นักปราชญ์ลูกครึ่งชาวจีน-บรูไน ท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า



“ไม่ว่าการที่เราจะทำอัลไลนั้น ไม่มีเส้นทางใดโรยด้วยกลีบกุหลาบ และก็ไม่มีเส้นทางใดโรยด้วยอัลมอนด์ เคลือบช็อคโกแลต ท็อปปิ้งคาลาเมล เช่นกัน 


 อืม.... มึงไม่สั่งชีสเค้กมาด้วยเลยล่ะ”


สรุปง่ายๆ หลังจากอธิบายไม่รู้เรื่องไปเมื่อกี้ละกันว่า อุปสรรคมีอยู่ทุกวัน ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม แต่ ณ จุด จุด นี้นะคะ พวกเราคือเด็กเล่นเกมอันสุดหล่อ เท่ เฟี้ยว เยี่ยวไกล หัวใจเกรียน 


อุปสรรคของพวกเรามันคืออะไร พวกเราต้องต่อสู้กับอะไร วันนี้ เราสรุปมาให้ดูกัน ว่าเส้นทางสู่ว่าที่ร้อยตรีเกมเมอร์นั้น มันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบจริงๆ และก็ไม่ได้โรยด้วยอัลมอนด์ เคลือบช็อคโกแลต ท็อปปิ้งคาลาเมล..... พอ พอ 

มึงไปสั่งเฟรบเป้มาแก้วนึง เอาชีสเค้กมาแกล้มด้วยนะ เกริ่นได้เปลืองตัวหนังสือชิบหาย...... นักเขียนสายไหนวะเนี่ย

**********************************************

การเรียน

เป็นสิ่งที่ได้รับการยอมรับจากทุกสำนักแล้วว่า การเรียนนี่แหละเป็นศัตรูสำคัญที่สุดของการเล่นเกม ถ้าไม่มีการเรียน พวกเราก็ได้เล่นกันทั้งวันแล้วจริงไหม


เฮ้ย ไม่ได้ เดี๋ยวโตขึ้นเป็นคนโง่ งั้นครึ่งทาง เรียนชั่วโมงนึง เล่นเกมชั่วโมงนึง โอ้ย แบบนี้แฮปปี้ เด็กไทยรักโรงเรียนตายห่าเลย 

พูดถึงเรื่องเรียน ปกติว่าเรียนเยอะแล้วนะ บางคนยังไม่จบ ซวยซ้ำซ้อนไปถึงวันหยุด โดนให้มาเรียนพิเศษ ไม่ต้องมองไหนไกล ผมนี่แหละ เรียนพิเศษทั้งเย็นและวันหยุด ยังดีนะไม่มีวันนักขัตฤกษ์ด้วย 

คนมันอยากเล่นเกม เรียนเยอะแล้วเกรดมันดีขึ้นมั้ย แม่งก็เท่าเดิม ถ้างั้นก็ไม่ต้องเรียน ปรากฏว่าเกรดเหี้ยกว่าเดิมอีก สรุปคือเรียนเพื่อทรงตัวไว้ละกัน...... โห คนอะไรสมองมันจะขี้เลื่อยได้ขนาดนั้น



แฟน

แฟนแปลว่าพัดลม..... โอเค แล้วพัดลมมันเป็นอุปสรรคการเล่นเกมตรงไหน..... 


ไม่ใช่ละ จะให้เอาพัดลมไปขวางหน้าทีวีรึไง แฟนก็คือคนรักนี่แหละ เคยเห็นพวกอัดคลิปบ่นลงยูทูปมั้ย หน้าสก๊อยๆ นมปลิ้นๆ อ่ะ แม่งบ่นฉลาดชิบหาย กึ่งๆ เหวี่ยงแห ด่าแฟนขายของไปในตัว บ่นเป็นตุเป็นตะเลย 

แฟนติดฮอน ไม่สนใจ ไม่ใยดี ไม่กินตับ ร้องไห้ด้วย ใครตายวะ จะร้องทำไม ทำไมต้องบิวท์ให้ดราม่าขนาดนั้น แล้วตอนแกไปคบเค้าอ่ะ ไม่รู้เหรอเค้าบ้าเกม..... ตกลงจีบกันหรือจับฉลากได้ 

ไอ้คนเล่นเกมหล่อๆ อย่างเรามันก็ลำบากใจนะ เพราะพวกเราอ่ะมันทั้งบ้าเกม และบ้ากามด้วย เวลาเราก็มีให้ ไม่ใช่ไม่มี ตอนปรับปรุงเซิฟไง อะไรนะ น้อยไปอีก เรื่องมากจริงๆ 

จะเรียกร้องอะไรนักหนา มันไม่มีสมาธิเล่นเกม ถ้าคิดว่าทนไม่ได้ก็เลิกเลย อย่างมากพวกเราก็แค่เสียใจ ร้องไห้ ทำร้ายตัวเอง บ่นลงยูทูป แล้วก็ไปตามง้อเองน่ะแหละ..... 

อ้าว ไอ้ชิบหาย นึกว่าเจ๋ง



ข่าวพาดหัว

นี่ก็ตัวดี..... ไม่รู้สื่อประเทศไทยเป็นอะไรมากมั้ย คอยหาเรื่องโทษเกมอย่างสม่ำเสมอเหลือเกิน


ปกติภาพพจน์พวกเราก็เกรียนกากจะตายอยู่แล้ว นี่พวกคุณจะเอาให้ตายกันเลยหรืออย่างไร นี่ก็ถอยจนไม่รู้จะถอยยังไงแล้วนะคร๊ะ!!!.... เดี๋ยว เดี๋ยว จะนายกปูว์ทำไม

ทุกวันนี้ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องโทษเกม พวกเราก็อยู่ของพวกเราดีๆ ไม่เคยไปใช้ไฟของโรงพิมพ์พวกมึงเล่นวินนิ่ง เสพสื่อไปทุกวันๆ ทุกวันนี้ผู้ใหญ่แม่งมองเกมยิ่งกว่ายาเสพติดอีก 

เคยได้ยินผู้ใหญ่คนนึงบอกเลยว่า ให้ติดยายังดีกว่าติดเกม อย่างน้อยติดยายังไปบำบัดให้อ้วกออกมาได้ นี่ แกเปรียบเทียบด้วยนะ หลานเค้าเคยติดยา แต่จับไปสถานบำบัด จับออกกำลังกาย จับฝึกวินัย กลับมาเป็นผู้เป็นคนเลย ภูมิใจเหี้ยๆ แล้วดูไอ้พวกติดเกมสิ ทุกวันนี้ยังติดเกมอยู่เลย...... 

โห.... พี่ พี่เปรียบแบบนี้แล้วพวกผมจะไปเหลืออะไรล่ะครับ



ผู้ใหญ่หัวโบราณ

นี่ก็อุปสรรคตัวเป้ง จะไฟว้ให้ตายไปข้างเลยก็ทำไม่ได้ เดี๋ยวมันเข้าทางเด็กเล่นเกมทำให้เป็นคนใช้ความรุนแรง ไอ้ตัวพาดหัวยิ้มรอเลย 


แล้วจะให้ทำไง ก็นั่งเจี๋ยมเจี้ยมนั่งเล่นเกมไป ให้เค้ามองไม่ดีต่อไป บางวันเอาเด็กเนิร์ดมาเปรียบเทียบให้เราเจ็บเล่นๆ ก็มี

ไม่รู้ผู้ใหญ่นี่เค้าจะเทิดทูนเด็กอ่านหนังสืออะไรนักหนา เคยสงสัยมั้ย พวกคุณจะประทับใจอะไรนักหนา ยังกะโดนของ พอเห็นเล่นเกมก็ใส่เชียว 

“วันๆ เอาแต่เล่นเกม” 

แล้วก็เดินจากไป....  กูเพิ่งเล่นเมื่อกี้??  กูเพิ่งทำรายงานเสร็จ?!! 

ไอ้ตอนขยันๆ นี่ทำไมไม่เข้ามาสรรเสริญวะ พอจับจอยปั๊บแวะมาจัดให้เลย  

แล้วยิ่งให้พวกเขาเหล่านี้จับกลุ่มคุยกันนะ เอาชนะกันด้วยเกรดเฉลี่ยอย่างเดียว ไม่เคยเห็นแม่ไปข่มลูกคนอื่นเลยว่าลูกฉันเทพพอยท์แบงนะ  ไรเฟิลนี่แม่นโคตรพ่อ ไขว้มือไขว้ขายิงยังได้ 

ไอ้ที่เก่งๆ นำเสนอได้ก็ไม่อวด ไอ้พวกเด็กเล่นเกมตาดำๆ ก็นั่งเหลือตัวเล็กๆ กันต่อไป...... น่าสงสารแท้



นักเลง

ต้องบอกก่อน เกรียนกับนักเลงนี่ไม่เหมือนกัน  


เกรียนนี่ต่อให้หยาบคาย โวยวาย ปากดีแค่ไหน ถ้าให้มาเทียบกับพวกนักเลงนี่ โห... พวกเกรียนแม่งดูคิโยมิขึ้นมาทันที

นักเลงนี่ออกทางสถุลย์เลยนะ แล้วไอ้พวกนักเลงปลายแถวนี่นะ มันคงไม่รู้จะไปโชว์เก๋าที่ไหน เลยมาวนๆ อยู่แถวร้านเกม แล้วฝีมือนี่แม่งกากสัส เคยเห็นกับตาในร้าน เล่นสู้เค้าไม่ได้ เดินไปโบกหัวเลย 

บางคนเห็นในคลิป เดินเอาตีนไปยันหน้าเลยทีเดียว มึงต้องการอะไรจากการเล่นเกมวะ เล่นก็เล่นให้มันสนุก อยากจะเอาชนะก็เล่นกันในเกมสิครับพี่น้อง จะโกงจะอะไรก็ให้อยู่ในจอ 

ผมเคยเล่นๆ อยู่โดนไถตังค์ก็มี.... โอ้โห.... เห็นมั้ยว่าเล่นเกมใครว่าสบาย จะตายวันตายพรุ่งยังไม่มีใครรู้เล้ย 

ไอ้พวกนี้มาเฟียไม่กลัวหรอก กลัวมาเยอะมากกว่า



ครูฝ่ายปกครอง

คุณครูฝ่ายนี้นะครับ เขาจะถูกฝังชิพในสมองเลยว่า เกมคือสิ่งมั่วสุม การเล่นเกมในร้านในชุดนักเรียนนี่ เป็นโทษร้ายแรง ถึงขนาดจะทำให้กระทรวงศึกษาถึงกับล่มจมได้เลย


ผมนี่เคยโดนลากออกมาจากร้านเกมแล้ว อายมาก..... แล้วนึกภาพนะ เดินกับครูกลับโรงเรียนอ่ะ เหมือนถูกประจานทั่วตลาดยังไงไม่รู้  

ตอนโดนลากออกมาก็เลิกเรียนแล้ว เงินที่เล่นก็ไม่ได้ไปทุบกระปุกหมูบ้านใครมาสักหน่อย เค้ารู้แต่ว่าห้ามเล่น!! เท่านั้น!!

เพื่อนผมนี่เจ็บกว่า บ้านเสือกเป็นร้านเกม ต้องเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอกก่อนเข้าบ้านอ่ะ!!! เปลี่ยนไปน้ำตาก็ไหลไป.... กูจะเข้าบ้านทำไมต้องทำขนาดนี้ 

อย่าแปลกใจเลยว่าทำไมพอจบไป เราถึงคิดถึงครูฝ่ายนี้ชิบหาย....... ก็ทำแบบนี้กับพวกเราใครมันจะไปลืมลงวะ อยากจะร้องไห้ให้กับอดีตจริงจริ๊ง

************************************************

เห็นมั้ย ชีวิตเด็กเล่นเกมมันไม่ได้สบายเล้ย


แต่เราก็เลือกที่จะมาทางนี้ เราก็ต้องต่อสู้กับมัน ไม่ว่าจะเจออะไรก็ตาม เพื่อที่เด็กเล่นเกมอย่างพวกเรา จะได้โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่เล่นเกมอย่างสง่างาม!!! 

บนเส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ และก็ไม่ได้โรยด้วยอัลมอนด์ เคลือบช็อคโกแลต ท็อปปิ้งคาลาเมล......พอ พอ

เข้าใจแล้ว ถ้าไม่ไหวก็ไปหาอะไรกินเถอะพ่อเอ้ย!!!





วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2559

ROซอกหลืบ ตอน แดจังงัง

(ต้นฉบับปี 2548)



ไทยทีวีช่องหลืบ กลั้นใจเสนอ  “แดจังงัง จอมนางแห่งวังลุง” 


“แดจังงัง” จอมนางแห่งวังลุง เป็นละครหมูกระทะเกาหลีที่สร้างขึ้นจากเรื่องของหญิงสาวผู้เป็นตำนาน ตำปู ตำไทย ไม่ใส่ถั่ว นามว่า “จังงัง” เธอเป็นสตรีคนแรกที่มีโอกาสเข้าไปเหยียบและสร้างวีรกรรมในอาณาจักร “ลาน ลุง” (หรือร้านลุง แล้วแต่สะดวกเรียก) 

ในวัยเด็กเธอต้องสูญเสียพ่อและแม่ไปจากการโจมตีของพวกเอเวอร์เลี่ยน ยังดีที่ขบวนการอาบะเรนเจอร์ช่วยให้เธอรอดชีวิตไว้ได้ และเมื่อโตขึ้นเธอได้มีโอกาสเข้าไปเรียนรู้วิธีปรุงอาหารในแรคสำนัก 

ด้วยความฉลาด และความที่จังงังเป็นคนเรียนรู้เร็ว จึงทำให้ได้รับความไว้วางใจจากกษัตริย์ “มนัด เกียน กึม” จนทำให้เธอกลายเป็นกุ๊กมือหนึ่งแห่ง “ลาน ลุง” อย่างไม่ยากเย็น 

นอกจากอาหาร จังงังยังศึกษาเกี่ยวกับศาสตร์การปรุงยารักษาโรค ไม่ว่าจะเป็นแผนโบราณ หรือแผน 4–5–1 ทิ้งกองหน้าเดี่ยว ใช้วิงแบ็คเป็นตัวเติมเกม จึงทำให้เธอมีความสามารถรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยของกษัตริย์ ในยามที่ท่านออนไลน์หักโหม พักผ่อนไม่เพียงพอ ด้วยมาม่าสูตรคลุกกระทิงแดงไม่ถึง 3 คำของเธอ ทำให้กษัตริย์เกียนกึมมีชีวิตชีวาขึ้นราวปาฏิหาริย์ และนั่นก็ทำให้ชื่อเสียงของจังงังเลื่องระบือไปทั่วอาณาจักร “ลาน ลุง” 

ซีรี่ย์ “แดจังงัง” ชุดนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงในแถบตะเข็บชายแดน กวาดเรทติ้งอันดับ 1 ในทุกประเทศที่เข้าฉาย และด้วยความดังนี้เอง ทำให้ดารานำผู้รับบทแดจังงัง “ไนท์สาว” ได้รับความนิยมสูงสุดในทุกตลาดที่เธอไปซื้อของ โดยเฉพาะตลาดสะพานควาย และคาดว่าเธอจะดังทั่วโลกในไม่ช้า เพราะหน้าตาเธอก็สวยสะพรั่งใช่เล่น เป็นที่ต้องตาต้องใจจนยากจะหักห้าม ผ่านวินไหนต้องได้ยิน ระวังหลุมรักกันเป็นแถว 

และนี่คือตัวอย่างความสนุกเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้ “แดจังงัง” มัดใจผู้ชมได้ราวกับเล่นคาถาอาคม 

******************************************

ที่แรคสำนัก อาณาจักรลาน ลุง 


กษัตริย์เกียนกึม : บ้าที่สุด...!! ข้าไม่คิดเลยว่าพวกซอมบี้จะเก่งกาจถึงเยี่ยงนี้ 

พรีส นา ลัง : ไม่เป็นไรขอรับ ถ้าท่านสวรรคตเดี๋ยวหม่อมชั้นชุบชีวิตให้ 

กษัตริย์เกียนกึม : ไม่ต้องห่วงข้า เจ้าเอาตัวเองให้รอดก่อน 



“เหล่าองครักษ์ ชื่อในเกมข้าชื่ออะไร…!!” 



พร้อมกัน : “วิสาจจจ!!!!” 

กษัตริย์เกียนกึม : เสียงควรจะฮึกเหิมกว่านี้นะ 



โหด โดด ฮีล : เอ่อ ฝ่าบาท... ได้เวลาอาหารแว่ง 

นัก นู : อาหารว่าง!! 

โหด โดด ฮีล : ได้เวลาอาหารว่างแล้วขอรับ... 



กษัตริย์เกียนกึม : เจ้าก็เห็น ว่าข้าเหลืออีกแค่ 4% ก็จะอัพปาดัมปาด้า ยังจะ... 

โหด โดด ฮีล : พระเจ้าจอร์จ ข้าน้อยสมควรตาย 

แอส ซัง มิน : เบิกเครื่องประหารหัวสุนัข... (ผลั้ว!!) โอ๊ย!! 

โหด โดด ฮีล : อย่ามั่ว ไม่ใช่เปาบุ้นจิ้น!! 



จังหวะนั้น “แดจังงัง” ก็ยกโถอาหารเข้ามาเสริฟพอดี 



กษัตริย์เกียนกึม : โฮ่... กลิ่นหอมมาแต่ไกล วันนี้อาหารเป็นไรรึ 

แดจังงัง : (เปิดโถ) “เพ็ดดีกรี” เพคะฝ่าบาท มีสารอาหารครบถ้วน เหมาะสำหรับสิ่งมีชีวิตวัยเจริญพันธุ์ 

กษัตริย์เกียนกึม : เจ้านี่ มีเมนูใหม่ๆ มาให้ข้าลิ้มลองเสมอเลยนะ (พูดพลางหยิบอาหารเข้าปาก) อืม... เนื้อเหนียวไปนิด แต่รสชาติอร่อยมาก ข้าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ 

(หันมองเหล่าองค์รักษ์) “หึๆ พวกเจ้าอยากกินกันล่ะสิ” 



โหด โดด ฮีล : ไม่ล่ะขอรับ หม่อมชั้นมิอาจเอื้อมรับประทานอาหารสัตว์ เอ้ย ไม่ใช่!! อาหารกษัตริย์หรอกขอรับ 



กษัตริย์เกียนกึม : จังงัง ของว่างเจ้าช่างคาวนัก เจ้าไม่มีของหวานตบท้ายบ้างรึ 

แดจังงัง : เดี๋ยวหม่อมชั้นจะไปทำให้เดี๋ยวนี้ล่ะเพคะ 

กษัตริย์เกียนกึม : ฮึ่ย เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นกษัตริย์!! ข้าเกลียดการรอคอยเป็นที่สุด!! 

แดจังงัง : จะแดกไม่แดก 

กษัตริย์เกียนกึม : แดกจ๊ะ... 



แดจังงัง : เอางี้มั้ยเพคะ ถ้าฝ่าบาทอยากเสวยให้ว่องไว ข้าขอผู้ช่วยหนึ่งคนนะเพคะ 

กษัตริย์เกียนกึม : ผู้ช่วยงั้นหรือ..?? 

แดจังงัง : เธอเป็นสหายรักของหม่อมชั้นเอง ขออนุญาตเปิดตัวเลยนะเพคะ “มานี่สิ จังปี๊ดดด!!” 

(กล้องจับ.... จังปี๊ดวิ่งกระโดดสวอนเลคเข้ามาอย่างรื่นเริง กษัตริย์เกียนกึมเห็นหน้าแล้วเหงื่อแตกทันที) 



กษัตริย์เกียนกึม : จังงัง เอ่อ ข้าไม่ไว้ใจสหายของเจ้า 

แดจังงัง : อ้าว ฝ่าบาท ทำไมพูดหมาๆ ยังงั้นล่ะเพคะ ถ้าหม่อมชั้นไม่ไว้ใจจังปี๊ด หม่อมชั้นไม่ให้เป็นผู้ช่วยหรอกนะเพคะ 



กษัตริย์เกียนกึม : คนเราดูหน้า ไม่รู้ใจ ข้ารู้สึกว่าสหายเจ้าคิดไม่ซื่อ 

จังปี๊ด : อาไร๊!! ฝ่าบาท เจอกันครั้งแรกก็ปรามาสข้าแบบนี้แล้วหรือเพคะ ไร้จริยศึกษาสิ้นดี๊ สิ้นดี 



กษัตริย์เกียนกึม : เห จังปี๊ด เจ้าแน่ใจหรือว่าครั้งแรก... 

จังปี๊ด : ก็เออสิ เอ๊ะ ไอ้เชื้อ...... เชื้อ เชื้อ....... ไอ้เชื้อพระวงศ์นี่!! ก็เพิ่งเปิดตัวเมื่อกี้นี่เพคะ คนอ่านก็เห็น 



แดจังงัง : หม่อมชั้นขอตัวเข้าครัวก่อนนะเพคะ 

กษัตริย์เกียนกึม : โอ๊ะๆ ไม่ต้องหรอก เจ้ายกเครื่องปรุงมาทำให้ข้าเห็นตรงนี้เลยได้มั้ย 

แดจังงัง : เพราะเหตุใดเพคะ?? ทำไมต้องวุ่นวายขนาดนั้น 

จังปี๊ด : ฝ่าบาทกลัวหม่อมชั้นวางยาหรือเพคะ ไม่ต้องกลัวหรอกเพคะ หม่อมชั้นวางแน่ๆ อยู่แล้ว 

กษัตริย์เกียนกึม : อ๋อ เปล่า เพียงแต่ข้าได้ลิ้มของอร่อยๆ ทุกวัน ข้าก็เลยอยากรู้กระบวนการบ้าง แค่นั้นเอง 



แดจังงัง : ฝ่าบาท นี่ไม่ใช่รายการหมึกแดงนะเพคะ 

กษัตริย์เกียนกึม : เจ้ากำลังจะขัดใจข้าที่เป็นกษัตริย์งั้นรึ จังงัง 

จังปี๊ด : แล้วฝ่าบาทจะผละที่นั่ง เสด็จตามไปที่ครัวเนี่ย มันจะมีใครตายหรือเพคะ 



โหด โดด ฮีล : ชะ นังผู้ช่วยนี่สามหาว!! เจ้าไม่เห็นหรือว่ากษัตริย์กำลังทรงแร็คอยู่ 

พรีส นา ลัง : อีก 4% ก็จะอัพอยู่แล้ว 

แอส ซัง มิน : เบิกเครื่องประหาร... (ผลั้ว!!) โอ๊ย!! 

โหด โดด ฮีล : บอกว่าไม่ใช่เปาบุ้นจิ้น!! 



แดจังงัง : เข้าใจแล้วเพคะ ป่ะ จังปี๊ด ไปช่วยข้ายกเครื่องครัวหน่อย 

จังปี๊ด : (ตะเบ๊ะ) เยสเซอร์!!! 

(เหล่าองค์รักษ์นึกในใจ นังผู้ช่วยนี่มันน่า... ฆ่าหมกไหโสมตังกุยจริงๆ) 



ผ่านไป 15 นาที

แดจังงังและจังปี๊ดช่วยกันจัดเครื่องครัวพร้อมแสดงการปรุงอาหาร อันประกอบคร่าวๆ ด้วย เตาอบ หม้อดิน กระทะทองเหลือง ตะหลิว ไม้พาย จานดาวเทียม (เอามาทำไม) เฮลิคอปเตอร์มือสอง (นั่นสิ เอามาทำไม) และเครื่องปรุงสมุนไพรอีกนานาชนิด กษัตริย์เกียนกึมเห็นแล้วอดตื่นเต้นไม่ได้จริงๆ 



กษัตริย์เกียนกึม : (ถูมือ) โฮ่! ท่าจะเป็นของหวานเพื่อสุขภาพ... อีกแล้วสินะ ชื่อเมนูอะไรรึ 

จังปี๊ด : “เด็กติดเกมแช่อิ่ม” เพคะ 

แดจังงัง : จังปี๊ด!! อย่าเสียมารยาทต่อหน้ากษัตริย์ 



กษัตริย์เกียนกึม : แล้วตกลงพวกเจ้าจะทำอะไรให้ข้าทานกันแน่ล่ะเนี่ย 

แดจังงัง : เมนูนี้ชื่อ “สมุนไพรปลายฟ้า เชื่อมสายน้ำสะท้านภูผา” เพคะ 

กษัตริย์เกียนกึม : แค่ฟังชื่อก็น่าสนใจซะแล้วสิ เอาล่ะ เจ้าลงมือได้เลย อ้อ นักนู! เดี๋ยวเจ้าช่วยมาเล่นแรคแทนข้าหน่อยซิ 



แดจังงัง : เริ่มจากต้มน้ำให้เดือดปุดๆ ก่อนนะเพคะ จังปี๊ด... เจ้าเอาสมุนไพรไปล้างน้ำให้สะอาดทีสิ 

จังปี๊ด : (ตะเบ๊ะ) เยสเซอร์!!! 



จากนั้น จังปี๊ดก็หยิบกาละมังใส่น้ำออกมา แล้วก็นำผักสมุนไพรใส่ลงไป ตามด้วยผงซักฟอกโอโม่ 



กษัตริย์เกียนกึม : เฮ้ย!! เฮ้ย!! 

จังปี๊ด : ไม่ต้องตกกะใจเพคะ สมุนไพรจะได้สะอาดๆ ไม่ดีเหรอเพคะ (พูดจบก็หยิบแปรงทองเหลืองออกมาขัดทำความสะอาดสมุนไพร) 

กษัตริย์เกียนกึม : เอ่อ มันก็ดี ข้าชอบอาหารสะอาดๆ แต่ข้ากลัวเจ้าจะลืมซักน้ำสอง 

จังปี๊ด : โอ๊ย... ไม่ลืมหรอกเพคะ แหม ซ้ำไป เดี๋ยวหม่อมชั้นจะโปรโมชั่นน้ำยาปรับผ้านุ่มให้ด้วยอีกฝา 

กษัตริย์เกียนกึม : เฮ้ย ไม่ต้องก็ได้ ข้าชอบสมุนไพรแข็งๆ 



แดจังงัง : จังปี๊ด.... เอาสมุนไพรขึ้นได้แล้ว เดี๋ยวผักจะเสียคุณค่าทางอาหาร 

จังปี๊ด : (พรึ่บ...! หยิบสมุนไพรขึ้นมาสะบัด แล้วบิดเอาน้ำออก) ว้าว สะอาดสดใส ต้องใช้โอโม่!! 

กษัตริย์เกียนกึม : เอ่อ จังงัง ข้าว่าถ้าเอาผู้ช่วยของเจ้าออกไป คุณค่าทางอาหารจะเพิ่มขึ้นเยอะกว่านี้อีกนะ 



แดจังงัง : เอาล่ะค่ะ ตอนนี้น้ำก็เดือดแล้วนะเพคะ จากนั้น เราก็หยิบสมุนไพรที่ทำความสะอาดแล้วใส่ลงไป (หยิบสมุนไพรใส่ลงไป) ตามด้วยดอกไม้จันทน์ (หยิบดอกจันทน์ใส่ลงไป) เพิ่มความหอม.... นะเพคะ พอเริ่มมีกลิ่นแล้วก็ใส่น้ำเชื่อม..... 



จังปี๊ด : (โดดแทรกเข้ามาใส่) จากนั้นก็ตามด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่ม!!! 

กษัตริย์เกียนกึม : เฮ้ยย!!! อีบ้า!!! 



จังปี๊ด : (ทำหน้าตาน่ารัก) อ้าว สมุนไพรจะได้นุ่มๆ เคี้ยวง่าย ย่อยสะดวกไงเพคะ 

กษัตริย์เกียนกึม : ถึงตายเลยนะนั่น!!! 

จังปี๊ด : โอ๊ย!! ไม่หรอกฝ่าบาท หม่อมชั้นยังไม่เคยเห็นข่าวพาดหัวว่ามีคนตายเพราะกินน้ำยาปรับผ้านุ่มเลยนะเพคะ 

กษัตริย์เกียนกึม : ก็ข้าจะเป็นคนแรกนี่ไงล่ะว้อยย!!!! 



แดจังงัง : “ฝ่าบาทไม่ต้องกังวลเพคะ สมุนไพรที่นำมาใช้เก็บจากยอดเขาทิงนองนอย มีฤทธิ์ช่วยล้างสารพิษ และคืนสมดุลให้ระบบภายในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นระบบย่อยอาหาร ระบบหายใจ หรือระบบนาโน ซิสเต็ม” 



กษัตริย์เกียนกึม : ได้ยินอย่างนี้ข้าก็โล่งใจ เอ้า แล้วขั้นตอนต่อไปทำอะไรต่อรึ 

แดจังงัง : ต้มทิ้งไว้ 20 นาทีเพคะ พอครบแล้วถึงจะรับประทานได้ 

กษัตริย์เกียนกึม : อือ... แล้วไอ้กระทะทองเหลือง ตะหลิว จานดาวเทียม เจ้าเอามาทำแย้อะไรรึ 

แดจังงัง : นั่นสิเพคะ 



กษัตริย์เกียนกึม : (เกาคาง) อืม ต้องรอ 20 นาทีเชียวหรือ การรอคอยมันทรมานอย่างนี้สินะ 

จังปี๊ด : (โดดเข้าใส่) ระหว่างนี้เราก็ใส่น้ำยาล้างห้องน้ำลงไป!!! 

กษัตริย์เกียนกึม : เฮ้ยย!!! 



จังปี๊ด : แหม เพิ่มสีสันไงคะฝ่าบาท ตามด้วยไซยาไนท์!! แล้วก้อน้ำยาขัดทองเหลือง!!! ไม่ต้องห่วงเพคะ ฝ่าบาทก็ได้ยินแล้วนี่ว่าสมุนไพรตัวนี้ล้างพิษได้ ชิลด์ๆ ขำๆ เพคะฝ่าบาท 

อ่า แล้วอะไรต่อนะ “อ้อๆ น้ำยาขัดพื้น” 



กษัตริย์เกียนกึม : ชั้นจับแกลงหม้อด้วยได้มั้ยเนี่ย!!! 



20 นาทีผ่านไป.... จังงังตักของหวานในหม้อใส่ถ้วยหยก โรยขิงฝอย ก่อนจะน้ำมาเสริฟ 



กษัตริย์เกียนกึม : น่ากินจังเลยนะ 

จังปี๊ด : น่ากินก็เหวยเลยสิเพคะ 

กษัตริย์เกียนกึม : แหม.... ของอร่อยๆ อย่างนี้ ถ้าข้าทานคนเดียว มันก็จะดูไร้น้ำใจเกินไป ใช่ไหม 

องครักษ์ : (พร้อมกัน) เห็นด้วยเพคะ!! 



กษัตริย์เกียนกึม : เอาล่ะ จังปี๊ด ข้าให้เจ้าทานก่อน 

จังปี๊ด : (ดุ้งเล็กน้อย) เอ่อ เกรงใจอ่ะเพคะ ฝ่าบาทเหวยดีกว่าค่ะ ชะอุ๋ย!! 

(จังปี๊ดหันมองรอบๆ องครักษ์ทั้ง 4 ชักดาบออกมาจากฝักพร้อมกัน) 



กษัตริย์เกียนกึม : (เสียงหื่น) ข้าสั่งให้เจ้าทานก่อน จะทานไม่ทาน.... ถ้าไม่ล่ะก็ 

จังปี๊ด : เอ่อๆ ค่ะ จะทานเดี๋ยวนี้ล่ะเพคะ อุ๊ย!! 

(เพล๊ง!!! สุดยอดแห่งไหวพริบ จังปี๊ดแกล้งทำถ้วยตกแตกซะยังงั้น) 



กษัตริย์เกียนกึม : เฮ้ยยยย!!! 

จังปี๊ด : (เขกกะโหลกน่ารัก) หวา แย๋จังง!! เรานี่ซุ่มซ่ามจริงๆ เลยน๊อ!!! (พูดจบก็ติดสปีดวิ่งหนีออกไปนอกวังทันที) 



กษัตริย์เกียนกึม : ตามไปจับนังนั่นมาเดี๋ยวนี้!!!! 



สิ้นเสียงกษัตริย์ เหล่าองครักษ์และทหารก็คว้าอาวุธออกตามล่า “แดจังปี๊ด” ทันที 

กษัตริย์เกียนกึม : ถ้วยนี่ราคาเป็นล้านเชียวนะว้อยย!!! 



เหตุการณ์กำลังตื่นเต้น ชะตากรรมของจังงัง และจังปี๊ด จะเป็นอย่างไรต่อไป 

แล้วเรื่องวุ่นวายภายในวังอีกล่ะ กษัตริย์เกียนกึมจะเลเวลอัพหรือไม่ โอ๊ย.... เข้มข้นซะงั้น 

ไว้มีโอกาสจะกลับมารายงานนะขอรับ ฉบับนี้หน้ากระดาษหมดแล้ว 

ไปก่อนละครับ.... พิ่วว