วันเสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เกรียนกรึ่มกรึ่ม ตอน ตะลุยอาเขต


                                                          (ต้นฉบับเดือนเมษายน 2556)


ย้อนกลับไปสักหลายล้านปี สมัยที่พวกเด็กหนวดทั้งหลายยังวัยละอ่อน พวกเรายังจำได้ดีว่า พวกเราสารพัดงัดแทบทุกวิธีมาเพื่อจะอ้อนพ่อแม่ให้ซื้อเครื่องเกมให้สักเครื่อง


บางคนก็เอาเกรด 4 มาแลก บางคนแลกด้วยการล้างรถให้ 1 ปี บางคนก็รับจ้างนวดฝ่าเท้าให้กับคนในครอบครัว คือมันพอจะงัดความเหนื่อยยากลำบากออกมาแลกได้ เพราะเรารู้ครับว่ามันเอื้อมถึง หากคราใดท้อก็เปิดเพลงศรัทธาของพี่โป่งคลอกันไป


จะเป็นเครื่องเกมแฟมมิลี่ แฟมมิคอม เครื่องเพลย์ อะไรก็จัดไป อดทนแลกไม่นานก็ได้เชยชม แต่ในยุคนั้นครับ มันมีเครื่องเกมชนิดนึงที่ไม่ต้องคิดจะเอื้อมเลยครับ ขอให้ตายยังไงพ่อแม่ก็ไม่หามาให้แน่ๆ



มันคือ “เกมตู้!!!”



ทุกครั้งที่ไปเดินห้าง กล้าพูดอย่างเต็มปากว่า เด็กทุกคนลงถ้าได้เห็นโซนที่เต็มไปด้วยตู้เกมเรียงกันเป็นสิบ เด็กจะเกิดอาการหน้ามืดครับ ตาโต สะบัดมือพ่อแม่ แล้ววิ่งเข้ากลางดงตู้ไปในทันที 





ดูเผินๆ เหมือนโดนของ และแน่นอนพ่อแม่จะเริ่มรู้ชะตากรรม ควักกระเป๋าตังค์ขึ้นมาดูเศษเหรียญทันที ยังไงก็ต้องโดนแน่ๆ อย่างน้อย 2 เหรียญ ถ้าไม่มีก็ต้องแลก เพราะมันเป็นไฟท์บังคับ ถ้าไม่ได้เล่นพรุ่งนี้จะคุยกับเพื่อน  ไม่รู้เรื่อง



เกมตู้เป็นความคลาสสิกอย่างนึงในชีวิตวัยเด็กจนถึงวัยรุ่นของใครหลายๆ คน ผมเชื่อแหละว่าทุกคนต้องเล่นแล้วติด และจะคิดในใจว่า ตู้ไหนที่เราชอบมากๆ นี่ มันน่าจะถอยมาตั้งไว้ที่บ้านจริงๆ



แต่มันก็ทำไม่ได้ครับ ด้วยเหตุผล 3 ข้อดังนี้



ข้อ 1 มันแพงมากกกกก...... เรื่องราคานี่ผมไม่ชัดเจน รู้ว่าหลายหมื่นขึ้นแน่ๆ ราคาขนาดที่ซื้อเกมเพลย์ได้สักเครื่อง กับแผ่นเกมอีกเป็นร้อย มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้!!! ต้องชอบล้างผลาญด้วยยยยย



ข้อ 2 มันไม่ได้บรรยากาศ!!! ความคลาสสิกของเกมตู้ก็คือ มันต้องเล่นประจานท่ามกลางฝูงชน เน้นการเล่นโชว์มากกว่าเล่นด้วยกัน


ให้แบกมาเล่นที่บ้านมันไม่ได้ฟิล บรรยากาศบ้านมันไม่ใช่ มันไม่มีเด็กคอนแวนต์น่ารักๆ คอยมายืนมอง หันไปเจอแต่อากงอาม่า ยิ่งถ้าอยู่คนเดียวนี่จะเล่นให้ผีบ้านผีเรือนมุงเล่นหรืออย่างไร



และข้อ 3 มึงจะบ้าเหรอออออ!!!!


ไม่ต้องเหตุผลแล้ว เรื่องของอารมณ์ล้วนๆ เอาเกมตู้มาตั้งในบ้าน คิดมาได้!!! ไอ้พวกซื้อแอบโดมิไนเซอร์ว่าบ้าแล้วนะ เกมตู้นี่บ้ากว่า แอบโดเล่นเบื่อแล้วยังเอามาตากผ้าได้ แต่เกมตู้นี่เอามาตากผ้ายังไม่ได้เลย เข้าใจมั้ยเนี่ย!!!!




ผมยอมรับว่าครั้งนึงติดเกมตู้มากๆ โดยเฉพาะเกมต่อสู้ Street Fighter 2 , The King of Fighter , Tekken ทั้งที่เกมพวกนี้ผมเล่นที่บ้านก็ได้ เล่นตามร้านก็ได้ แต่มันไม่เหมือนกัน คืออยู่ที่บ้านมันไม่ได้โยก.......





ผม ใช่ ผมหลงเสน่ห์แท่งโยกนั่นอ่ะครับ มันเป็นแท่งที่มีความศักดิ์สิทธิ์ มันมีความรู้สึกที่จอยกดมือให้ไม่ได้ มาคิดตอนโตว่า ใครวะตั้งชื่อเป็นคนแรกว่า “จอยโยก” ทั้งที่จริงๆ มันก็มีศัพท์ทางการของมันว่า “จอยอาเขต” 


แต่ยังไงก็ขอบคุณมากครับที่ไม่เรียกว่าแท่งโยก เพราะมันจะอุบาทว์มาก



จอยโยกเป็นจอยที่เล่นมั่วได้มันส์มากครับ เหมือนออกแบบมาให้คนที่เล่นไม่เป็นไม่ต้องเจ็บหนังนิ้วเหมือนจอยมือทั่วไป จอยปกตินี่ถ้าจะมั่วนี่ ถูจนหนังนิ้วแทบถลอก ท่าไม้ตายที่ออกก็น้อยซะเหลือเกิน 



แต่จอยโยกนี่มั่วสไตล์เกมโชว์เลยครับ หมุนๆ ตบๆ กันให้ตายไปข้างนึง ในจอจับทางไม่ถูกว่าแย่แล้ว นอกจอนี่แย่กว่า ต้องคอยหลบศอกมหาประลัย มันจะฟันกกหูเราเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ 


เหมือนเกมหลังๆ เค้าก็ทำคอมมานด์มาเอาใจพวกนี้นะ ชอบหมุนๆ ตบๆ หลายปุ่มนัก ให้กดท่าไม้ตายหมุน 3 ปุ่มเลย!!! มั่วยังไงก็ออกแน่ พอท่าออกทีโดดยังกะถูกหวย


ชนะพวกนี้ถือเป็นเรื่องปกติครับ แต่ถ้าแพ้ขึ้นมาเข้าขั้นเสียหมีแพนด้าเลยทีเดียว เคยโดนมาที เฟลเป็นอาทิตย์ ถึงขั้นประชดว่าจะกลับไปตั้งใจเรียน



จอยโยกของแท้ มันต้องติดกับตู้เท่านั้นครับ ใครที่ซื้อกลับไปต่อเครื่องเล่นที่บ้านล้วนยอมรับเป็นเสียงเดียวกันครับว่า ไม่เวิร์ค มันโยกได้ไม่เต็มร้อย ฐานมันไม่แน่น โยกหนักๆ ทีจอยก็ลอยตาม ลองเอากาว 2 หน้ายึดก็เอาไม่อยู่ ไอ้ครั้นจะสกรูยึดพื้นเลยก็เกินไป


สุดท้ายเลยจบที่ต้องเอาฝ่าเท้าทั้ง 2 ข้างมาช่วยหนีบไว้ เล่นไปนานๆ เกร็งเกินไป ตะคริวกินขาอีก สุดท้ายอย่าแปลกใจถ้าตามหนังสือเกมคอลัมน์ฝากขาย จะมีจอยโยกสภาพดีมากขายเกลื่อนกลาด เพราะมันใช้แล้วเสียสุขภาพแบบนี้แล



นอกจากจอยโยกที่เป็นคู่บุญกับเกมตู้แล้ว ยังมี "จอยปืน" อีกที่น่าตื่นตาตื่นใจซะเหลือเกิน


เพราะมันเป็นความฝันของเด็กที่อยากจะจับปืนจริงๆ ยิงหัวกบาลใครสักครั้ง แต่ก็ทำไม่ได้ เล่นอยู่บ้านเต็มที่ก็ง่ามหนังสติ๊ก หรูหน่อยก็ปืนไม้ไอติม ไฮโซขึ้นมาอีกก็ปืนยิงเป็ดเครื่องแฟมมิลี่ 


ซึ่งไอ้ยิงเป็ดนี่ก็ผลิตมาได้เสียของมาก อุตส่าห์มีจอยปืนทั้งที เสือกสร้างเกมมาให้แค่ยิงเป็ด!! มันเท่ห์ตรงไหนวะ ซอมบี้ 8 บิทพวกเราก็รับกันได้นะโว้ย นี่ให้เล่นเก่งจะอวดใครเค้าได้


เซียนยิงเป็ด!! ชื่อทุเรศมาก เกมนี้จึงเหมาะมากสำหรับการบอกโลกให้รู้ว่า เรามีจอยปืนแล้วนะ แค่นี้จริงๆ สุดท้ายถอดจอยออกมาไล่ตีหัวเพื่อนสนุกกว่าเยอะ



เกมตู้ยิงปืนที่ผมจำได้จริงๆ ก็มีเยอะนะ แต่ที่ตรึงตาตรึงใจจริงๆ ขอยกให้เกมยิงผี (ขออภัยชื่ออังกฤษจำไม่ได้จริงๆ อะไรเฮ้าส์ๆ นี่แหละ มันเรียกยิงผีจนชินปาก) ที่มันติดตาเพราะเกมอื่นยิงโป้งเดียวตายไง


แต่ยิงผีนี่ได้เบิ้ลตู้มๆ พอใจจะยิงตรงไหนก็ยิง อยากทรมานหน่อยก็ยิงแขนมันก่อน แล้วค่อยไล่มายิงตัว อยากเอาเท่ห์ก็สอยหัวอย่างเดียว เคยไปยินดูเซียนเค้าเล่น บ่องตงว่าอิจฉามันมาก ยิงแต่หัวอย่างเดียว 


ยิ่งเห็นเด็กเรียนพิเศษน่ารักๆ ไปยืนมองมันเล่น ยิ่งอิจฉา!! นี่มัน!! นี่มันความฝันอันสูงสุดของตูเลยนะเว้ย!! ไอ้เกมเมอร์อาเขตระดับกากอย่างเราก็ได้แต่ยืนปาดน้ำลายไป


แหม่เอ้ย ถ้าไอ้ตู้นี้ไม่ใช่ยิงผี แต่เป็นยิงเป็ด ภาพพจน์มันคงไม่ออกมาเยี่ยงเทวดาแบบนี้หรอก



เมื่อก่อนนี่ เกมตู้นี่แทบจะเป็นศัตรูระดับฆ่าล้างโคตรกับครูฝ่ายปกครองเลยครับ ครูใหญ่โรงเรียนผมนี่ เคยออกมายืนพูดเรื่องนี้หน้าเสาธงได้เป็น ชม.


พูดประมาณว่าใครเล่นเกมตู้นี่เสียคนแน่ๆ เป็นเด็กเลวที่ไม่มีอนาคต บลาๆ พูดอะไรมาเข้าตัวผมหมดเลย แกยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกมตู้มันเป็นเกมอะไร เดาว่าแกคงติดภาพมาจากตู้ม้า เลยเหมาว่าคนเล่นเกมตู้ก็เหมือนเล่นการพนัน แล้วคนเล่นการพนันก็คือคนไม่ดี นั่นเอง!!!!!


เหยดดดด ตรรกกะระดับครูใหญ่!!!!




แต่ก็ยอมรับครับว่า ผมก็เกือบๆ จะเสียคนเพราะเล่นแต่เกมตู้มากไปจริงๆ แต่ยังไงเกมมันก็ไม่ผิดอยู่ดี มันผิดเพราะเราเล่นมากเกินไป ไม่ถึงกับต้องเลิก แค่แบ่งเวลาไปเรียนบ้าง..... คือเล่นเกมเป็นหลักนะ แล้วแบ่งเวลาไปเรียนบ้าง


เอะยังไงวะ นี่คือแนวคิดของคนเรียนเอาผ่านนะ ถ้าจะเอาเรียนเก่ง ให้ทำสลับกัน



มาถึงยุคนี้ เกมตู้ตามห้างดูเงียบเหงามากเลยครับ เหมือนมันผ่านจุดสุดยอดในบ้านเรามาแล้ว แต่ให้เดินผ่านทีไร ก็อดคิดถึงไม่ได้ทุกที จนบางครั้งทนไม่ไหวต้องไปเล่นสักเหรียญ แล้วก็ตายตั้งแต่ด่านแรก..... อย่างอนาถสุดๆ



สงสัยต้องกลับมาตีมอนสเตอร์เหมือนเดิม



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น