วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เกรียนกรึ่มกรึ่ม ตอน ปล่อยวางบ้างอะไรบ้าง

(ต้นฉบับปี 2556)


จริงๆ แล้วการเล่นเกมเนี่ย จัดอยู่ในหมวดของการคลายเครียดนะ


แต่ถามกันอย่างไม่โกหกเลยว่า ใครเล่นเกมแล้วไม่เครียดจริงๆ บ้าง ใครเข้าร้านเกม 3-4 ชม. แล้วผ่อนคลายสบายชีวา เดินออกมาจากร้านแทบจะกระโดดฉีกขากลับบ้าน โอ้ว ทำไมมันถึงผ่อนคลายแบบนี้



โอ้โห  นี่ก็เวอร์ไป๊


เกมคือการแข่งขันต่างหากเฟ้ย!!  มันคือสังเวียนต่อสู้อย่างแท้จริง บางคนในโชว์เสี้ยวเน็ตเวอะ  ถึงกับให้คำนิยามโคตรเท่ห์ว่า เกมเมอร์มันก็คือ "นักสู้" นี่แหละ


เราคือนักสู้ โอเค ขอแวะแป๊บนึง เรามานึกภาพนักสู้กัน



นักสู้ หัวเกรียนๆ นะ..... ปากห้อยๆ ฟันเหยินๆ ตาเหลือกๆ ขอบตาคล้ำ มือข้างนึงถือเม้าส์ลงอาคม อีกข้างถือคีย์บอร์ดปลุกเสก... จากวัดเกรียนขบ ใส่ชุดนักเรียนที่ไม่ได้ซักมา 3 วัน เพราะนอนค้างที่ร้านเกม ถุงเท้าย้วยไม่มียางยืด


เอาล่ะ.... พอแค่นี้ก่อน  กลัวว่าจะไปจบที่มีนกหวีดและผ้าโพกหัว เล่นเกมอย่างเดียวว้อย!!  ไม่ได้ไปก่อม็อบ 


เมื่อพิจารณาดังโน้นแล้ว   นี่มันนักสู้สมัยกรุงแตกชัดๆ บร๊ะ!! ถึงจะเกรียนคลาสิคขนาดนี้  แต่นี่แหละก็คือนักสู้ อย่าไปลบหลู่ จิตวิญญาณมันออกมาจากภายใน!!! 



เพียงแค่คุณกดล็อคอิน เข้าเกม หรือหยอดเหรียญ อะไรก็ตาม คุณก็ต้องพร้อมเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความกดดัน เข้าสู่ช่วงเวลาที่แพ้ไม่ได้!!! 



ลองแพ้ขึ้นมาสิ ไอ้คำถากถาง อ่อนด๋อย ไอ้กาก ไอ้โจ๊ก ไอ้เปียก มันจะต้องติดตามหลอกหลอนตัวคุณไปจนกว่าจะมาได้แก้มือ บางคนถึงขนาดต้องใช้วิชามาร วิชาโกงสูตรเพื่อเอาตัวรอดกันเลยทีเดียว


ว่ากันด้วยเนื้อแท้ ไม่มีใครเล่นเกมเพื่อผ่อนคลายจริงๆ หรอก ทุกคนล้วนอยากเป็นที่หนึ่ง ไม่งั้นจะมีแข่งเกมไปทำไม ไม่งั้นจะมีคนที่เล่นเกมเก่ง อ่อน ไปทำไม



เราเล่นเพราะมันสนุก!!   มันมีเรื่องราว มันได้ออกอาการ มันไม่น่าเบื่อ..... ซึ่งมันต่างจากเวลาเรียน และทำงาน ที่เราต้องทำอะไรตามคำสั่ง แต่เมื่อเวลาเราเล่นเกม เราได้ออกคำสั่ง!! เราได้เป็นผู้บังคับ!! อารมณ์มันเลยต่างกัน


เกมถ้าเล่นแต่พอดี มันก็เหมือนเป็นยานะครับ มีประโยชน์แน่นอน ถ้าเอามาใช้ตามหยิน-หยาง เอาเกมมาถ่วงดุลชีวิตที่แสนจะเครียดจากการเรียน การทำงาน เครียดมากๆ เครียดจัดๆ เอามาปลดปล่อยในเกม ปล่อยให้หมด สมองมันก็โล่ง เตรียมความพร้อมที่จะไปเครียดในวันต่อไปอีกที พอไม่ไหวก็กลับมาเล่นเกม หมุนวนไปแบบนี้


แต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น มันก็ยังมีบางคน  ที่ทำให้ตัวเองเครียดเพราะเล่นเกม เอาเกมมาทำลายตัวเอง ใจคอจะเก่งแต่แค่ในจอ 



คนแบบนี้มีอยู่จริง ไม่ต้องมองไหนไกล ในร้านเกมทั่วๆ ไปมันก็ต้องมี หรืออาจจะเป็นคุณซะเองที่เป็นก็ได้  คลาสสิคจะมีอยู่ 3 แบบ


แพ้ไม่เป็น!!   รับไม่ได้!!   คิดว่าตัวเองเก่งชิบหาย!!


แพ้ไม่เป็น...... เรื่องแพ้ชนะเป็นเรื่องปกติ แต่สภาวะแบบนี้  เวลาแพ้มันจะออกอาการมากเป็นพิเศษเพิ่มข้าว สีหน้าจะเคียดแค้นเหมือนมีคนเอาหนังสติ๊กไปยิงไข่พ่อมัน และตาต่อไปมันจะมุ่งมั่นเอาชนะเป็นพิเศษ



และส่วนใหญ่เชื่อเหอะ ต่อให้มุ่งมั่นก็แพ้อีกน่ะแหละ จากนั้นไม่อาละวาด ก็ร้องไห้จิกเม้าส์ จิกจอย อะไรก็ว่ากันไป


รับไม่ได้...... ธรรมชาติคนเล่นเกม ไม่มีใครอยู่ในฟอร์มที่สุดยอดได้ทุกวัน มันก็ต้องมีบ้างที่บางวันจะเล่นผิดฟอร์มไปบ้าง อะไรบ้าง 







ถ้ารับได้ก็แล้วไป แต่บางคนมันก็ยึดติดกับฟอร์มอันสุดยอดของตัวเองเกินไป เล่นผิดฟอร์ม ผิดจังหวะ ทำอะไรผิดพลาดนิดๆ หน่อยๆ เก็บมาเป็นอารมณ์ซะหมด  แบบนี้ก็ตายห่าสิครับ เล่นไปก็ใส่อารมณ์ไป หน้าหงุดหงิดเหมือนประจำเดือนมาที่ร่องตูด เห็นแล้วก็ทุเรศลูกตา 


คิดว่าตัวเองเก่งชิบหาย...... มิตรสหายท่านนึงบอกผมว่า พวกที่เก่งจริงเค้าไม่อวดตัวเองหรอก เขาจะฝึกให้เก่งขึ้นเรื่อยๆ เพราะเค้าสนุกกับการพัฒนาตัวเอง 
ส่วนไอ้พวกที่คิดว่าตัวเองเก่ง ส่วนใหญ่มันจะเก่งประมาณนึงอ่ะ  มันไม่ได้สนุกกับการพัฒนาตัวเอง มันจะสนุกกับการอวดตน ข่มคนอื่น พัฒนาท่าขี้เก็กของมัน และการทำตัวเองเป็นกูรู 


พวกนี้มันจะมีความสุขบนความระแวง เพราะมันจะกลัวเจอคนที่เก่งกว่ามันจริงๆ สักวัน หรือกลัวจะแพ้ใครแบบหมดฟอร์มขึ้นมาสักวัน หาได้เสพย์ความสนุกจากเกมจริงๆ ไม่ 






ถึงตรงนี้ผมสารภาพตรงๆ เลยครับว่า ผมเองตอนเด็กๆ ก็เคยเป็นครบหมดแล้วทั้ง 3 อย่าง



พอเราจมอยู่กับตรงนี้มันเครียดจริงๆ ครับ เราจะเล่นเกมเหมือนโดนของ โดนบังคับให้ต้องเล่นอ่ะ ไม่มีใครอยากเลิกเล่นเกมตอนเครียดทุกคนอยากเลิกเล่นตอนที่ถึงจุดสุดยอดทั้งนั้น 


แพ้ไม่เป็นก็ต้องเล่นให้ชนะจนพอใจ รับไม่ได้ ก็ต้องเล่นมันอยู่อย่างนั้น จนกว่าจะรับได้ อยากจะรักษาความที่ตัวเองเก่งไว้ ก็ต้องเล่นแบบระวังตัวเองอยู่ตลอด ไม่ให้เผลอแพ้แบบเสียหมา


มันเป็นการยึดติดที่แบบ.... เหมือนเป็นเวรเป็นกรรม ที่ติดมาจากชาติที่แล้ว  ทำไมมันต้องตึงเครียดขนาดนั้น ทำไมต้องเหมือนล่ามโซ่ตัวเองติดไว้กับเครื่องเกม ผมเคยอยู่แบบนี้นานมาก เป็นเดือนๆ กว่าจะรู้ว่า..... เราควรปล่อยวางมันบ้าง ก็โดนเกมแดกร่างไปเกือบครึ่งตัวแล้ว


ผมเคยยึดติดกับการเล่นเกมมากๆ เพราะไม่รู้จะไปยึดติดกับอะไร เพื่อนก็รู้จุดขายเรามันเล่นแต่เกม คิดดูถ้าเราเล่นแต่เกม แล้วยังเล่นไม่เก่ง มันจะไปเหลืออะไร มันก็ไม่เหลืออะไรแล้ว!



แต่เอาจริงที่มันไม่เหลือ เพราะเราไม่คิดจะเปิดรับอะไรใหม่ๆ มากกว่า


ผมว่าคนหนึ่งคน มันทำอะไรได้หลายอย่างนะ แล้วก็ทำได้ดีมากกว่า 1 อย่างด้วย ไอ้ประเภทเทพที่ฝึกฝนวิชาอย่างบ้าคลั่ง จนเป็นเทพอะไรสักด้าน ทั้งหมดทุ่มให้กับสิ่งๆ เดียวเหมือนในการ์ตูน  มันก็ไม่ใช่ไม่ดี  แต่ชีวิตจริงมันไม่ได้การ์ตูนขนาดนั้น



ผมคงไม่แนะนำว่า ให้ลองปล่อยวาง นั่งสมาธิ จะให้ไปบวชเลยมั้ย ไม่ต้องขนาดนั้น การปล่อยวางเป็นสิ่งที่ยาก แต่ถ้าทำได้ก็ดี แต่ถ้าทำไม่ได้ ลองหาอะไรที่เบี่ยงความสนใจจากการเล่นเกมมาบ้าง 



อะไรที่ทำให้วันไหนเราไม่ได้เล่นเกม เราก็อยู่กับสิ่งนี้ได้และมีสมาธิไม่แพ้กัน


ซึ่งช่วงนั้นผมก็หลุดพ้นมาได้ครับ ด้วยการดูหนังโป๊ (โห ไอ้สัส หักมุมเกิ๊น!!!)  จำได้ว่าหมกมุ่นมาก เกมอะไรช่างแม่ม เล่นไม่ดี แพ้เขากลับมาก็ไม่เครียด  กลับบ้านเปิดหนังโป๊ประโลมจิตกันไป  น้ำตาจะไหล ไอ้ชิบหาย..... นี่มึงกำลังแนะนำอะไรเยาวชนอยู่วะเนี่ย



อืม  แต่ก็.....  ก็ไม่ทั้งหมดนะ นี่เป็นส่วนนึง ยังมีวาดการ์ตูน เชียร์บอล ดูบอล เล่นกีฬา เห็นมั้ย.... ดีๆ ก็มีโว้ย


ถ้าเราหาอะไรทำเยอะขึ้น โอกาสที่เราจะปล่อยวางจากความเครียดเวลาเล่นเกมก็มีมากขึ้น มันก็ทำให้เรามีสกิลเพิ่มด้วย แต่ข้อเสียก็มี อย่าปล่อยวางนานเกินไป ระวังกลับมาอีกทีฝีมือตก จำได้ผมหายไปเตะบอลพักใหญ่ กลับมาเล่นอีกทีแพ้เด็กขายปลากัดเฉย ซึมไปเหมือนกัน


คนเป็นแชมป์เกมเขาก็ไม่ได้อยู่กับเกมตลอดเวลา และคนที่เซียนๆ  เก่งๆ ที่ผมรู้จัก เขาก็ไม่ได้สิงร้านตลอดเวลา แต่ฝีมือนี่เก่งกว่าคนที่อยู่ในร้านตั้งแต่เช้ายันมืดอย่างผมซะอีก


ผมว่า ถ้าใครเจอปัญหาเล่นเกมแล้วเครียดมากๆ ลองเอาไปปรับใช้ดู อาจไม่ทำให้เล่นเกมเก่งขึ้น แต่มันก็ดีกับชีวิตประจำวันนะเออ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น